การซื้อของออนไลน์นั้น นับเป็นเรื่องปกติของคนในยุคปัจจุบัน เพราะมีความสะดวกสบายทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย แค่มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถซื้อขายออนไลน์กันได้ง่ายๆ แต่สิ่งที่มาพร้อมๆ กับความสะดวกสบายนั้นคือสิ่งไม่พึงประสงค์ที่เรียกกันว่า มิจฉาชีพ หลายต่อหลายคนแล้วที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพออนไลน์ที่ใช้ความสะดวกสบายในการหลอกลวงผู้อื่น ซึ่งกลุ่มคนพวกนี้นั้นเจอได้ง่ายเป็นอย่างมาก โดยเรื่องแบบนี้ได้เกิดขึ้นกับคนรู้จักของผม เขาโพสต์ขายของทางออนไลน์ และมีลูกค้าคนหนึ่งที่หลังจากซื้อขายกันเรียบร้อยแล้วนั้น ลูกค้าท่านนี้ก็ได้พูดเปิดอกประมาณว่า “ขอบคุณมากเลยนะคะ เราสั่งของคุณเป็นเจ้าที่ 4 แล้ว หลังจากโอนเงินแล้วไม่เคยได้ของ ไม่เคยได้แม้แต่เลขแทร็ค” เป็นเรื่องที่ไม่ได้ไกลตัวเลย สถิติบอกว่า มูลค่าการโดนโกงจากการซื้อของออนไลน์ในปีนี้นั้นคือ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเรื่องแบบนี้เราต้องระมัดระวังด้วยตัวเอง และในบทความนี้ผู้เขียนอยากจะมาแชร์ 5 วิธีการ ที่จะทำให้การซื้อการออนไลน์ของคุณนั้นปลอดภัยยิ่งขึ้น 1. ซื้อของกับร้านที่มีหน้าร้าน หากมีทางเลือกผู้ซื้อก็ควรเลือกซื้อกับร้านที่มีหน้าร้านจริง ๆ และควรขอที่อยู่ร้านที่ชัดเจน เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดคิดก็สามารถติดต่อและตามตัวผู้ขายได้ 2. เก็บเงินปลายทาง วิธีนี้อาจจะไม่การันตีว่าของที่ได้รับนั้นจะเป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่ แต่เราก็ยังมั่นใจได้ว่าของนั้นมาส่งจริง ๆ และเงินก็ยังอยู่กับเราจนกว่าของจะมาส่งถึง 3. การขอรูปบัตรประชาชนและสมุดบัญชี ซึ่งถ้าหากจะให้มั่นใจ ชื่อของทั้งสองอย่างนี้จะต้องตรงกัน และเราสามารถเอาชื่อจากที่ผู้ขายส่งมาไปเช็คได้ในเว็บ BlacklistSeller.com ซึ่งจะเป็นเว็บที่มีชื่อของผู้ขายที่มีประวัติโกง แล้วมีคนมาแจ้งชื่อในเว็บ ก็สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ แต่ถ้าหากมองในมุมของผู้ขาย บางทีอาจไม่ได้ต้องการจะโกง แต่จะให้ถ่ายรูปบัตรประชาชนไปให้ใครก็ไม่รู้นั้น ก็มีความเสี่ยงที่จะเอาบัตรประชาชนของเราไปใช้ในทางอื่นที่ผิดจุดประสงค์ จึงเป็นที่มาของข้อที่ 5 5. การใช้ Verme VerME คือระบบที่จะมายืนยันตัวตนผู้ขาย โดยผู้ขายจะต้องสมัครใช้ VerME หลังจากนั้นผู้ขายจะได้ VerME card ในรูปเเบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยผู้ขายสามารถใช้ VerME card เพื่อสร้างความเชื่อใจให้กับผู้ซื้อได้โดยไม่ต้องเสี่ยงเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขาย เช่นการส่งบัตรประชาชน ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์กับทั้งผู้ซื้อเเละผู้ขาย ป้องกันการโกงที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับทั้ง2ฝ่าย และ Verme ไม่เพียงเอื้อแต่ผู้ขาย แต่ยังสะดวกต่อผู้ซื้ออีกด้วย โดยผู้ซื้อสามารถนำโค้ดที่ได้ไปเช็คกับเวอร์มีได้ และหากโดนโกงจากผู้ขายที่ได้รับการยืนยันจาก VerME ยังสามารถส่งหลักฐานการโกงเพื่อให้ VerME ช่วยประสานงานเรื่องข้อมูลกฎหมายได้ เเละในอนาคต VerME กำลังพัฒนาให้ผู้ที่ถูกโกงสามารถได้รับเงินคืนได้เลยอีกด้วย สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ Verme แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ว่าจะมีหลากหลายวิธีที่จะป้องกันการโดนโกง แต่ไม่ว่ายังไงสิ่งที่สำคัญและง่ายดายที่สุดคือคุณต้องป้องกันและระมัดระวังตัวเองให้ได้ เรื่อง Jedz เครดิตภาพหน้าปก Pixabay / ภาพที่ 1 โดย Pixabay / ภาพที่ 2 โดย Verme / ภาพที่ 3 โดย Verme