เมื่อลมหนาวเริ่มมาเยือนในช่วงกลางเดือนตุลาคม " ชาวลัวะ " ใน ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลิตผลทางการเกษตรที่เพาะปลูกดูแลกัน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพด ข้าวไร่ ที่สุกงอมสีทองอร่ามทั่วทั้งดอย ชาวบ้านก็นำผลิตผลเหล่านี้เข้าไปเก็บใน " เยียข้าว " หรือทางภาคกลางเรียกว่า " ยุ้งข้าว " นั่นเอง ก่อนถึงฤดูเก็บเกี่ยวผู้หญิงชาวลัวะมักจะเตรียมอุปกรณ์หาปลา สิ่งนั้น คือ " หิง " ที่ชาวลัวะเรียกกัน ซึ่ง ก็คือ " สวิง " นั่นเอง ช่วงที่ดูแลต้นข้าว ข้าวโพด ในไร่ตัวเอง ก็เกิดเวลาว่างผู้หญิงก็เอาด้ายไหมหิง เบอร์ 4 มาสานหิงที่มีตาถี่มาก เพราะปลาตามลำน้ำ หรือลำห้วยมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ขนาดความลึกจากปากหิงถึงก้นหิงประมาณ 50 - 60 เซนติเมตร แล้วนำไม้ไผ่บงหรือไผ่ซางมาผ่าซีกความกว้างประมาณ 1 นิ้ว ยาวประมาณ 2 เมตร ถึง 2.5 เมตร นำมาลนไฟให้อ่อนแล้วดัดให้เป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ยาวด้านละ 40 เซนติเมตร อาจจะเล็กหรือใหญ่กว่าตามขนาดของหิงด้วย มัดด้วยตอกแล้วแขวนทิ้งไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อให้ไม้แห้งมีน้ำหนักเบา และให้ไม้ที่ดัดนั้นอยู่ตัว ไม้อันนี้เรียกว่าขอบหิง แล้วนำตัวหิงกับขอบหิงมาต่อกันด้วยการผูกเชือกพลาสติกให้แน่นและเนียน เมื่อเวลาหาปลา ปลาจะไม่ไปสะดุดกับขอบหิงชาวลัวะบนดอยภูคานิยมสานหิงเวลาว่างจากทำงานในไร่ เช่น พักกลางวัน หรือตอนกลางคืน ค่อย ๆ ทำไปทีละนิดไม่เร่งรีบ เพราะยังไม่ถึงฤดูหาปลา ช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่ปลาวางไข่ และน้ำตามลำห้วยไหลหลาก ไหลเชี่ยวและแรงมากไม่นิยมไปซ่อนปลาในเวลานี้ เพราะจะไม่ปลอดภัยพอถึงเดือนตุลาคมประมาณกลางเดือน ชาวบ้านที่ว่างงานจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรแล้ว นิยมไปหาปลากันซึ่งผู้หญิงจะไปซ่อนปลาตามลำน้ำ ลำห้วย การซ่อนปลาเป็นภาษาพื้นบ้านของลัวะ หมายถึง " การซ้อนปลา หาปลาด้วยสวิง " หรือเรียกว่าหิงนั่นเอง ซึ่งในฤดูนี้น้ำจะลดลงมาก สามารถลงไปซ่อนปลาได้ การซ่อนปลาของชาวลัวะจะเอาหิงไปไว้ข้างหลัง แล้วใช้ส้นเท้าเหยียบปากหิงให้หิงตั้งไว้ แล้วยกหินให้ปลาวิ่งเข้าหิงนั่นเอง ตามโขดหินขนาดใหญ่ มักจะมีปลาเข้าไปหลบใต้หินนั้นเป็นจำนวนมาก ต้องใช้แรงในการยกมาก บางทีต้องช่วยกันยกด้วยกันสองคน หรืออาจจะให้สามีมาช่วยในการยก วิธีการเดิม ก็คือ เหยียบปากหิงซึ่งไว้ข้างหลัง แล้วช่วยกันยกหินขนาดใหญ่ออก แล้วใช้มือลูบควาญหาปลาให้เข้ามาในหิง แล้วรีบยกเท้าออก พร้อมกับยกหิงขึ้นให้พ้นน้ำไว ๆ การทำสองอย่างนี้ต้องสัมพันธ์กัน ถ้าทำอย่างใดอย่างหนึ่งช้า อาจทำให้ล้ม หรือปลาออกจากหิงได้ปลาที่ได้จากการซ่อนปลา มักจะเป็นปลาที่มีขนาดเล็ก เพราะปลาที่อยู่ตามลำห้วยจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก เพราะต้องทำตัวให้คล่องแคล่ว ว่องไวไปตามกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวตามฤดูฝน ปลาที่ได้จะเป็นปลาบู่ ปลาปั้น ปลาแค้ม ปลาแก้ม ปลาแป้ม ( ชื่อที่ชาวลัวะเรียกกัน ) เป็นปลาท้องถิ่น ซึ่งได้มาพอประกอบอาหารในครัวเรือน ซึ่งมักจะนำมาทำเป็นแอ๊บปลา อ่องปลา น้ำพริกปลา นำมาจี่แล้วบ่ายกับข้าวเหนียว ลำแต้ ๆ ภาพหน้าปกและภาพประกอบ : Photo by บ่าวไตยลื้อเมิงโป