การซ่อมตู้ลำโพง ที่มีขยายติดในตัว สามารถตรวจเช็คและซ่อมเอง ในเบื้องต้นได้ อุปกรณ์ที่ใช้ มิเตอร์เช็คไฟ ไขควง เทปพันสายไฟ หัวแร้งบัดกรี ตะกั่วบัดกรี อันดับแรกให้ตรวจเช็คที่ ฟิวส์ ถ้าฟิวส์ไม่ขาดหรือช็อต ให้ตรวจเช็คสายไฟว่า ขาดข้างในหรือเปล่า ให้ดูว่าสายไฟอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และไม่มีรอยขาดหรือช็อต 2. หลังจากนั้นให้ตรวจสอบหม้อแปลงไฟฟ้า ว่ามีไฟออกมาหรือเปล่า ถ้ามีไฟออกมาแสดงว่า หม้อแปลงใช้งานได้ปกติ ให้เช็คไปต่อที่อุปกรณ์ตัวอื่นๆว่ามีไฟ วิ่งเข้าไปหาอุปกรณ์ตัวไหนบ้าง โดยการใช้มิเตอร์สำหรับเช็คไฟ หรือตรวจอุปกรณ์ต่างๆ โดยใช้มิเตอร์เช็คไฟถ้าอุปกรณ์ทั้งหมดตรวจเช็คเรียบร้อย 3. ให้ทดสอบ หรือเช็คที่ดอกลำโพง โดยใช้มิเตอร์ตั้งค่าคูณ10 เช็คดูว่าดอกลำโพง มีค่าความต้านทานหรือไม่ เข็มมิเตอร์ขึ้นหรือเปล่า ถ้าหากเข็มมิเตอร์ไม่ขึ้น แสดงว่าดอกลำโพงขาด หรือว่าเสียนั่นเอง ให้ทำการเปลี่ยนดอกลำโพงใหม่ 4. หลังจากนั้นประกอบดอกลำโพงเข้าที่เดิม การเปลี่ยนดอกลำโพงให้ไช้มิเตอร์เช็คไฟ เช็คที่ดอกลำโพง ถ้าหากตั้งค่าคูณ10แล้วเข็มมิเตอร์ขึ้น แสดงว่าดอกลำโพงใช้งานได้ปกติ 5. หลังจากนั้นให้ใช้หัวแร้งบัดกรีสายไฟเข้าที่เดิม โดยสายสีแดงเป็นไฟบวก สายสีดำเป็นไฟลบ เข้าที่ดอกลำโพงให้แน่นการต่อสายไฟที่ดอกลำโพง ควรต่อให้แน่นหนา เมื่อเปิดใช้งานจริงจะมีเสียงดังออกมา และทำให้เกิดการสั่น ทำให้สายไฟอาจหลุด หรือหลวมได้ การประกอบเข้า ต้องยึดน็อตให้แน่นทุกตัว ไม่งั้นจะทำให้ดอกลำโพงหลวมได้เพราะตู้ลำโพงมีการสั่น อาจทำให้ดอกลำโพงหลวมได้ เมื่อประกอบตู้ลำโพงเสร็จแล้วให้ทำการทดสอบ ให้ทำการเสียสายไฟเข้า และเปิดสวิตช์ไฟ นำสายสัญญาณต่อเข้ากับตู้ลำโพงแล้วเสียบต่อเข้ากับ อุปกรณ์โทรศัพท์ ทำการเปิดเพลงจากเครื่องโทรศัพท์ แล้วหมุนปุ่มเร่งเสียงจากตู้ลำโพง ไม่ควรเร่งเสียงดังจนสุด เพราะอาจทำให้ดอกลำโพงขาดได้(รูปภาพทั้งหมดถ่ายเอง)เครดิตภาพจากผู้เขียน