สวัสดีค่า เราหายไปนานอีกแล้ว กลับมาทั้งทีจะมามือเปล่าได้ยังไง วันนี้เราจะมาชวนทุกคนดูซีรีส์เรื่อง Twenty Five, Twenty One หรือจะเรียกง่าย ๆ ว่า 25 21 (ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด) ก็ได้ ถ้าเพื่อน ๆ เคยอ่านรีวิวบทความเก่า ๆ ของเราก็จะรู้ว่าเราประทับใจซีรีส์เรื่อง Reply 1988 มาก ด้วยความที่มีกลิ่นอายยุค 90 บรรยากาศต่าง ๆ จึงทำให้เราชอบดูซีรีส์เกาหลีที่ดำเนินเรื่องในช่วงเวลานี้ แล้วมันเกี่ยวข้องกับ Twenty Five, Twenty One อย่างไร ? เพราะTwenty Five, Twenty One เป็นเรื่องที่เหตุการณ์ดำเนินอยู่ในปี ค.ศ. 1998 พาเราย้อนเวลากลับไปยุคที่เกาหลีใต้ประสบปัญหาวิกฤต IMF ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนซีรีส์เกาหลีก็จะพอคุ้น ๆ กันอยู่บ้าง เพราะมีซีรีส์หรือหนังหลายเรื่องของเกาหลีเลยที่กล่าวถึงวิกฤตเศรษฐกิจนี้เรื่อง : Twenty Five, Twenty Oneช่อง : tvNสามารถดูได้ที่ : Netflixจำนวนตอน : 16 ตอนซีรีส์เปิดมาด้วยฉากเด็กผู้หญิงคนนึงที่ชื่นชอบการเต้นบัลเลต์ แม่ของเธอเป็นนักกีฬาชื่อดัง แต่อยู่ ๆ เธอก็ไม่อยากที่จะเต้นบัลเลต์ต่อไปอีก จนกระทั่งไปเจอไดอารีของแม่ และภาพก็ตัดกลับที่ปี ค.ศ. 1998 เด็กผู้หญิงแก่นเฟี้ยวคนนึงที่หลงใหลการเล่นกีฬาฟันดาบมาก ยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้อยู่ชมรมฟันดาบต่อไป กับชายหนุ่มวัย 22 ที่บ้านล้มละลายจากวิกฤติทางเศรษฐกิจในขณะนั้น ทำให้เขาเสียทุกอย่างที่เคยมี เมื่อทั้งสองมาเจอกัน คนหนึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยฝัน ส่วนอีกคนก็ต้องแบกความทุกข์เรื่องที่บ้านเอาไว้ ความสัมพันธ์จะออกมารูปแบบไหนก็ต้องรอติดตามกันต่อไป แต่บอกได้เลยว่าเป็นซีรีส์อีกเรื่องนึงที่น่าดูมาก เพราะตัวละครแต่ละตัวต่างก็มีความเป็นตัวของตัวเอง มีฝัน มีสิ่งที่ชอบ พอดูแล้วก็ทำให้เราตกตะกอนความคิดอะไรบางอย่างได้อยู่เหมือนกันยุคสมัยบีบรัดให้เรายอมทิ้งทุกอย่างแล้ว จะยอมทิ้งความสุขไปด้วยได้ไงเท่าที่เราดู 2 ตอนแรกไป หลายครั้งที่ตัวละครในเรื่องมักพูดถึงคำว่า "ยุคสมัย" ในแง่ที่ว่ามันคือสิ่งที่ทำลายความฝัน ทำลายความสุข แล้วยุคสมัยที่ว่ามันคืออะไรกันล่ะ เรื่องราวของ Twenty Five, Twenty One อยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1998 ซึ่งตรงกับช่วงที่ประเทศเกาหลีใต้ประสบภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ ก็แน่นอนว่ายุคสมัยที่ว่าก็คงเป็นยุคสมัยที่ประเทศเผชิญกับภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจนั่นเอง เพราะความฝันของนาฮีโด รับบทโดย คิมแทรี และความสุขของ แบคอีจิน รับบทโดย นัมจูฮยอก ต้องมาชะงักลงเพราะวิกฤต IMF บริษัทใหญ่ต่าง ๆ ล้มละลาย กิจการต่าง ๆ ต้องปิดตัวลง วิกฤตนี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนในยุคนั้นเป็นอย่างมาก ความฝันของบางคนดับวูบลงในชั่วพริบตา"ยุคสมัยบีบรัดให้เรายอมทิ้งทุกอย่างแล้ว จะยอมทิ้งความสุขไปด้วยได้ไง" เราชอบประโยคนี้ของนาฮีโดมาก ๆ ยุคสมัยบีบรัดเราให้เราสละสิ่งที่เรามี ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกลไกทางเศรษฐกิจ เราเสียทุกอย่างที่เป็นของนอกกายในชีวิตไปแล้ว แล้วเราจะยอมเสียความสุขของเราไปด้วยหรือ อย่างน้อยก็เก็บความสุขไว้กับตัวก็ได้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินคือปัจจัยสำคัญสำหรับการดำเนินชีวิตในโลกทุนนิยม แต่ความสุขก็เป็นอีกตัวขับเคลื่อนชีวิตอย่างหนึ่ง หากขาดความสุขไปชีวิตมันก็คงจะจืดจางไร้สีสันรีวิว (ความคิดเห็นส่วนตัว)เราชอบเรื่องนี้ตรงที่เราเองก็เป็นคนที่มีความฝันเหมือนกัน แต่บางครั้งเราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ยุคสมัย" มีอิทธิพลต่อตัวเรา สิ่งรอบข้างที่คอยกดดันอยู่เสมอ พอได้มาดูเรื่องนี้ทำให้เราประทับใจในตัวนาฮีโดมาก ๆ ถ้าเปรียบเป็นสีก็เป็นตัวละครที่มีสีสันสดใส ขณะเดียวกันก็แอบซ่อนอะไรบางอย่างไว้ในใจ บวกกับบรรยากาศยุค 90 ปลาย ๆ ของใช้ต่าง ๆ ยิ่งทำให้เราอิน จำได้ว่าดูซีรีส์ของคิมแทรีเรื่องล่าสุดคือ Mr.Sunshine ตอนนั้นเราชอบมาก พอมาเรื่องนี้พลิกคาแรคเตอร์เป็นคนละแบบกันเลย ยิ่งดูยิ่งชอบ เป็นคนที่มีสเน่ห์จริง ๆ นักแสดงคนอื่น ๆ ก็เช่นกัน ทุกคนนำเสนอมุมมองของตัวละครแต่ละตัวที่มีภูมิหลังต่างกันออกมาได้อย่างดีสุดท้ายนี้ขอฝากซีรีส์เรื่อง Twenty Five, Twenty One ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจเพื่อน ๆ ทุกคนด้วยนะคะ แล้วก็อย่าลืมรอติดตามบทความต่อ ๆ ไปของเราด้วยนะคะ มีซีรีส์สนุกมารีวิวอีกแน่นอนค่า ดูตัวอย่างซีรีส์ได้ที่นี่เลย ขอบคุณภาพปก : tvN dramaภาพประกอบ : ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5วีดิโอประกอบ : Netflix Thailand🎬 อัปเดตหนังฮอต อนิเมะฮิต ดูซีรีส์แล้วติดแวะมาแชร์กับคอมมูนิตี้ TrueID Community ได้เล้ย 📺✨อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!