ปากน้ำประแส นั้นเป็นชื่อของชุมชนเก่าแก่ที่เคยมีฐานะเป็นตลาดการค้ามาตั้งแต่ยุคโบราณ โดยตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง แต่ในขณะเดียวกัน “ประแส” ก็ยังเป็นชื่อของเรือรบหลวงชนิดเรือฟริเกต ซึ่งตามธรรมเนียมของกองทัพเรือจะตั้งชื่อเรื่อตามแม่น้ำสำคัญ เช่น เจ้าพระยา ท่าจีน รวมถึงเรือรบหลวง ประแส นี้ด้วยที่บริเวณหัวโขด ชายหาดประแส หมู่ที่ 1 ต.ปากน้ำกระแส มีสถานที่สำคัญอยู่แห่งหนึ่ง นั่นคือ อนุสรณ์สถานเรือรบหลวงประแส ซึ่งนับเป็นหนึ่งในบรรดาเรือมีที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ราชนาวีไทย ทั้งนี้เรือรบหลวงประแสที่ตั้งอยู่ที่ปากน้ำประแสนี้ เป็นเรือรบหลวงประแสลำที่ 2 ที่มาทำหน้าที่แทนเรือรบหลวงประแสลำที่ 1 ซึ่งเกยตื้นไปในสงครามเกาหลีอย่างไรก็ตาม เรือรบหลวงประแสลำที่ 2 นี้ได้ปฏิบัติภารกิจมากมาย จนกระทั่งปลดระวางเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2543 จึงถูกนำมาประจำที่อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2546เมื่ออยู่บริเวณด้านล่างข้างตัวเรือ จะมองเห็นเป็นเรือรบขนาดใหญ่เพราะมีความยาวถึง 92.8 เมตร กว้าง 11.4 เมตร และสูงถึงยอดเสาเรือกว่า 20 เมตร รวมทั้งมีสมอเรืออยู่ทั้งสองข้างของเรือ สมอแต่ละตัวหนัก 2,000 ปอนด์เรือรบหลวงประแสที่ตั้งอยู่นี้ สามารถขึ้นไปชมบนตัวเรือได้ บนเรือจะพบอาวุธประจำเรือทั้งปืนขนาด 76/50 ปืนขนาด 40/60 ปืน 20 มม. แท่นยิงระเบิดน้ำลึก แท่นท่อยิงโฮมมิ่งตอร์ปิโดการเดินชมบนเรือรบหลวงประแสนี้ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากตัวเรือบางส่วนอาจจะมีการผุตามกาลเวลา นอกเหนือจากอุปกรณ์ประจำเรือแล้ว ทิวทัศน์โดยรอบตัวเรือ โดยเฉพาะด้านที่ติดทะเลก็มองเห็นท้องทะเลได้อย่างสวยงามชื่อของ ปากน้ำประแส เป็นชื่อที่ถูกใช้โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในคราวเสด็จพระราชดำเนินชายฝั่งทะเลฝั่งตะวันออก โดยมีเหตุผลที่ทรงเรียกเช่นนั้น เป็นเพราะเมื่อแม่น้ำไหลมาปะทะกับกระแสน้ำที่ไหลออกมาจากคลองต่างๆ ของแม่น้ำ กระแสน้ำจะเปลี่ยนทิศทางอยู่เสมอเมื่อมาชมอนุสรณ์สถานเรือรบหลวงประแสแล้ว ก็ต้องไม่พลาดของอร่อยละแวกปากน้ำประแส โดยร้านอาหารขึ้นชื่อที่ต้องมาแวะลิ้มลองคือ ร้าน “เจ๊หน่องแซ่บเว่อร์” ร้านนี้นอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว บรรยากาศยังดีมาก ทั้งบรรยากาศความเป็นชุมชนเก่า หรือที่เรียกกันว่า ถนนสายวัฒนธรรม ที่มีสภาพบ้านเรือนแบบเก่าที่อยู่เรียงรายติดกันอย่างอบอุ่น รวมถึงบรรยากาศริมฝั่งน้ำที่เห็นการทำประมงแบบพื้นบ้านอาหารจานแรก คือ ข้าวผัดประแสร์ สั่งขนาดจานกลางมา ลักษณะเป็นข้าวผัดกับของทะเลทอด ซึ่งมีกุ้งทอด ปลากระพงทอด ปลาหมึกทอด และทอดมัน เมนูนี้เด็กๆ น่าจะชอบ แล้วก็เหมาะกับคนไม่ทานเผ็ดตัวข้าวผัดนั้นผัดมาได้แบบแห้งและหอมกลิ่นกระทะ ผัดได้ร่วนดีมากๆ ของทอดนทุกอย่างชุบแป้งทอดมาหมดเลย และแทนที่จะใช้กับพริกน้ำปลา ก็ทานกับน้ำจิ้มของทอด ซึ่งอาหารทะเลก็สดมากๆ ด้วยเมนูต่อมาที่สั่งมาทานคู่กันคือ แกงส้มผักกระชับ เนื่องจากเป็นผักที่ไม่ค่อยพบในแถบอื่น ผักกระชับนี้ดูภายนอกคล้ายต้นอ่อนทานตะวัน รสชาติออกแนวผักโต้วเหมียว ที่นี่จะนิยมใส่ในยำ ในแกง ในส้มตำ ถ้ากินสดอาจจะมีกลิ่นเหม็นเขียวอยู่บ้าง เมื่อใส่ในแกงส้มยังพอได้กลิ่น แต่ได้รสชาติแกงส้มตัดได้ดี ทำให้ทานผักนี้ได้อร่อยขึ้นตัวแกงส้มนั้นรสชาติไม่ค่อยเหมือนกับที่อื่นๆ คือ เป็นรสชาติแกงส้มไม่เปรี้ยวโดดหรือหวานนำ ตัวน้ำพริกแกงส้มนี่ ทางร้านทำเองแน่ๆ มีความแกงส้มเหมือนได้รสพริกป่นด้วย ทั้งเผ็ดและหอมถ้ามีโอกาสมาที่ปากน้ำประแส อย่างลืมไปดูเรือรบ แล้วค่อยจบทริปด้วยอาหารอร่อยๆ ที่ถนนสายวัฒนธรรมภาพประกอบโดยผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !