จากประกาศลงวันที่ 10 มกราคม 2565 กรมบัญชีกลางปรับปรุงการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล กรณีผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว เสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด 19 เพื่อให้สอดรับกับค่าบริการในปัจจุบันตามต้นทุนที่ถูกลงจึงทำการปรับแก้ไขที่เกิดขึ้นจริง โดยมีการปรับปรุงรายละเอียด ดังนี้ 1. การตรวจยืนยันการติดเชื้อโควิด 19 แบ่งออกได้อีก 5 วิธี คือ 1.1 การตรวจยืนยันการติดเชื้อด้วยวิธี Real Time PCR โดยการทำป้ายหลังโพรงจมูกและลำคอ ประเภท 2 ยีน ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,300 บาท จากเดิม 1,500 บาท 1.2 การตรวจยืนยันการติดเชื้อด้วยวิธี Real Time PCR โดยการทำป้ายหลังโพรงจมูกและลำคอ ประเภท 3 ยีน ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,500 บาท จากเดิม 1,700 บาท 1.3 การตรวจการติดเชื้อด้วยวิธี Antigen test ด้วยเทคนิค Chromatography ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท จากเดิม 450 บาท 1.4 การตรวจการติดเชื้อด้วยวิธี Antigen test ด้วยเทคนิค Fluorescent Immuunoassay (FIA) ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 400 บาท จากเดิม 500 บาท 1.5 การตรวจการติดเชื้อด้วยวิธีอื่น ๆ นอกเหนือจาก 1.3 - 1.4 ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 400 บาท จากเดิม 550 บาท 2. ค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล 2.1 กรณีอาการเล็กน้อย (สีเขียว) ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาทต่อวัน และไม่เกิน 10 วัน 2.2 กรณีอาการปานกลาง (สีเหลือง) ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 600 บาทต่อชุด และไม่เกิน 5 ชุดต่อวัน 2.3 กรณีอาการรุนแรง (สีแดง) แบ่งได้อีก 2 กรณีกรณีใช้ Oxygen High Flow ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 600 บาทต่อชุด ไม่เกิน 15 ชุดต่อวันกรณีใส่เครื่องช่วยหายใจ ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 600 บาทต่อชุด ไม่เกิน 30 ชุดต่อวัน 3. ค่าห้องพักสำหรับควบคุมหรือดูแลรักษาผู้ป่วยอาการเล็กน้อย (สีเขียว) ในสถานพยาบาลของทางราชการ หรือสถานที่ที่สถานพยาบาลของทางราชการได้จัดหาไว้เป็นการเฉพาะ ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,000 บาทต่อวัน จากเดิม 1,500 บาทต่อวัน ทั้งนี้ เบิกได้ไม่เกิน 10 วัน 4. ค่าทำความสะอาดฆ่าเชื้อบนรถพาหนะ และค่าชุดป้องกันส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,400 บาท จากเดิม 3,700 บาท ต่อครั้งที่มีการส่งต่อหรือรับตัวผู้ป่วยแล้วแต่กรณี 5. การเบิกค่ารักษาพยาบาลกรณีให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่บ้าน (Home Isolation) หรือในสถานที่อื่น ๆ (Community Isolation) 5.1 ค่าบริการของสถานพยาบาลและการดูแลผู้ป่วย กรณีพักรอก่อนเข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นผู้ป่วยใน ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงวันละไม่เกิน 1,000 บาท ทั้งนี้ไม่เกิน 10 วัน จากเดิมไม่เกิน 14 วัน 5.2 ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ในการติดตามอาการผู้ป่วย ซึ่งได้รับการรักษาพยาบาลที่บ้าน (Home Isolation) ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,100 บาท 5.3 ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ในการติดตามอาการผู้ป่วย ซึ่งได้รับการรักษาพยาบาลในสถานที่อื่น ๆ (Community Isolation) ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 500 บาทต่อราย จากข้อมูลการปรับปรุงเรื่องการเบิกค่าใช้จ่ายในแต่ละหัวข้อเป็นไปตามต้นทุนจริงตามราคาของอุปกรณ์ที่ถูกปรับลดลงมา เนื่องจากการดูแลรักษาประชาชนได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอยู่แล้วโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งการกำหนดอัตราขั้นต่ำที่สำหรับการเบิกจ่ายเป็นไปตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติดูแลอยู่แล้ว ถือว่าเป็นการปรับให้เหมาะสมเป็นไปตามราคาจริงที่มีการปรับลดลง ฉะนั้นหลังจากประกาศของกรมบัญชีกลางแล้วสำหรับท่านที่มีสิทธิรีบเข้ามาอ่านรายละเอียดให้ดีนะค่ะ เพราะตอนนี้อย่างน้อยๆท่านต้องได้ใช้สิทธิในการเบิกตรวจโควิด-19อยู่แล้วและอาจจะได้ใช้ในหมวดอื่นๆด้วยเนื่องจากสถานการณ์การระบาดเข้าขั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ท่านอาจจะได้ใช้ครบทุกหมวดเลยก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ดี ถ้าท่านไปเข้ารับการตรวจที่ราคาแพงจากที่กรมบัญชีกลางกำหนดไว้อาจจะเพื่อความสะดวกสบายของท่านในการรับบริการหรือเหตุผลใดๆก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่ท่านต้องยอมรับแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ท่านจะเลือกเพราะเป็นสิทธิประกันสุขภาพของตัวท่านเอง หวังว่าท่าที่ได้อ่านบทความนี้จะไม่ได้ใช้ครบทุกหมวดที่นำเสนอไปนะค่ะ โควิคระลอกนี้เราต้องรอดค่ะ แล้วพบกันใหม่ในบทความถัดไปนะค่ะ ภาพที่ 1 Mufid Majnun/unsplash.com ภาพที่ 2 Mufid Majnun/unsplash.com ภาพที่ 3 Omar Elaharawy/unsplash.com ภาพที่ 4 กรมบัญชีกลาง/oig.go.thภาพปก/เนื้อหา รวบรวมเรียบเรียงโดย ผู้เขียน/canva.comเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !