เราชอบการเดินทาง แต่เราก็เป็นแค่คนตัวเล็ก ๆ ที่ต้องเก็บเงินหยอดกระปุกให้ได้เยอะ ๆ ก่อนที่จะตัดสอนใจออกเดินทางไปเที่ยวที่ไหนสักที่หนึ่ง เราชอบการวางแผนเพื่อท่องเที่ยว เราตกหลุมรักตัวเองในตอนที่คิดว่าจะทำอะไรบ้างตอนไปถึงที่หมาย ถ้ามีใครมาจ้องตรงหน้า คงจะเห็นดวงตาของเราเปล่งประกายวิบ ๆ วับ ๆ เลยล่ะ อย่างที่ชื่อเรื่องบอกเอาไว้ ตกหลุมรัก “เกาลีใต้” เข้าแล้ว...จะเป็นไร เรื่องนี้จะเป็นบทความที่เราอยากจะเล่าให้ฟังเกี่ยวกับประเทศเกาหลีใต้ในมุมที่เราหลงรัก ถ้าให้นึกถึงประเทศที่อยากไปเป็นที่แรก เราก็ยังยืนยันว่า เกาหลีใต้ คือประเทศที่เรานึกถึงเสมอ เรามีประสบการณ์เที่ยวเกาหลีใต้ประมาณ 6 ครั้ง แต่ละครั้งก็ไปเที่ยวที่ซ้ำกันบ้าง เปิดเส้นทางเที่ยวใหม่บ้าง ครั้งแรกที่ไปก็ได้แต่อยู่ในโซล ยังไม่มีประสบการณ์มากมาย ได้แต่ตื่นเต้นกับการไปเกาหลีใต้ครั้งแรก เที่ยวตามที่เห็นในไกด์บุ้คที่เขาแนะนำ เรียกได้ว่าไม่มีความมั่นใจในการเผชิญกับโลกภายนอก แถมยังเป็นโลกที่คุยกันคนละภาษากับเราด้วย แต่พอเริ่มนานวันเข้า เราก็คุ้นชินกับการเที่ยวเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะไปกับใคร เที่ยวกับใคร เราก็มีความสุขทุกครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เรียกว่าทริปสั้นมาก มาก ๆ ใช้เวลาแค่ 2 วัน 1 คืนเพื่อดูคอนเสิร์ตของศิลปินที่ชอบ แล้วตีตั๋วกลับประเทศไทย เราก็ไม่รู้สึกว่ามันจะเหน็ดเหนื่อยอะไรเลย อาการตกหลุมรักของเราที่ชอบบรรยายให้ใครต่อใครฟัง ก็คือ “ต้องมีสักวันที่เราไม่รู้จะทำอะไร เราคงไปเกาหลี แค่ได้เดินเล่น นั่งดูคนในสวนสาธารณะ กินข้าวที่ลดราคาในมินิมาร์ท เราก็มีความสุขแล้วจริง ๆ นะ” เราชอบศิลปินเกาหลี แต่ไปเกาหลีทีไร เราชอบเดินทางไปเที่ยวอุทยานที่มีต้นไม้ ซื้อตั๋วรถไฟนั่งออกไปให้ไกลจากตัวเมืองโซล ไปปั่นจักรยานรับลม ไปเดินขึ้นเนินเขา เดินดูวิวริมแม่น้ำ ถ่ายภาพในมุมมองของเราเอง อย่างภาพประกอบที่คุณได้เห็นในบทความนี้ ก็คือมุมมองของเราจากกล้องสมาร์ทโฟนราคาไม่กี่พันบาทในมือของเรา เราชอบดื่มด่ำวิถีชีวิตของคนต่างภาษา เรียนรู้ว่าเขาทำอะไรกันบ้าง แค่นั้นก็เป็นการพักผ่อนที่วิเศษของเราเลย เรามีเรื่องแผนการเดินทางในเกาหลีใต้ของเราที่อยากเล่าให้ฟังอีกมากมาย ในวันที่เราว่างจากงาน เราจะรวบรวมข้อมูลตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปเหยียบพื้นดินประเทศเกาหลีใต้ มาปัดฝุ่นให้สะอาด แล้วเอามาเล่าอาการตกหลุมรักเกาหลีใต้ของเรา ให้คุณได้อ่านในบทความต่อไปแล้วกันนะ. เครดิตภาพประกอบ : MonsdaySOSO