เราดูแลร่างกายของเราดีแล้วหรือยัง? เราใช้ร่างกายของเราหนักไปหรือเปล่า? เป็นคำถามที่ชวนให้หันมาใส่ใจร่างการของเรากันสักนิดก่อนที่ร่างกายของเราจะรับไม่ไหว ส่งผลให้เสื่อมสภาพไปก่อนวัยอันควร ร่างกายของคนเรานั้นมีระบบภายในภายนอกที่ทำงานสอดประสานกันเป็นอย่างดี หากส่วนหนึ่งส่วนใดเสียหายไปก็อาจจะกระทบกับการทำงานในส่วนอื่น ๆ ในร่างกายของเราได้ และร่างกายของเรานั้นก็ทำงานทุกวัน ไม่เว้นแม้กระทั่งวันหยุด ร่างกายของเราไม่มีวันพักผ่อนประจำปียังคงทำงานต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา ในเวลาที่เรานอนหลับระบบภายในร่างกายของเราก็ยังคงทำหน้าที่อย่างสม่ำเสมอและอย่างดีที่สุด เพื่อให้เราตื่นมาในเช้าวันใหม่ Steve Buissinne จาก Pixabay" /> ภาพโดย Steve Buissinne จาก Pixabay หลายคนและรวมถึงผมด้วย มักจะละเลยการดูแลสุขภาพ กินอาหารไม่มีประโยชน์ ไม่ออกกำลังกาย ไม่พักผ่อนให้เพียงพอ ใช้ร่างกายอย่างหนักเพื่อทำงานหาเลี้ยงตัวเราและครอบครัว คงจะดีไม่น้อยถ้าเราหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพของเราให้มากขึ้น เพื่อร่างกายของเราจะได้แข็งแรง เมื่อมีโรคภัยก็รักษาได้ทันท่วงที เช่นนี้แล้วเรามาเริ่มดูแลสุขภาพกันดีว่าไหมครับ เริ่มจากการตรวจเช็คสุขภาพร่างกายของเรากันก่อน อายุ 20 ปีขึ้นไป วัยรุ่นเป็นวัยที่ร่างกายยังมีการพัฒนาและเจริญเติบโต อวัยวะและระบบต่างๆ ภายในร่างกายยังมีความแข็งแรงและสมบูรณ์ค่อนข้างมาก อีกทั้งมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายแรงค่อนข้างน้อย โดยการตรวจสุขภาพจะเน้นไปที่การตรวจร่างกายทั่วไป การซักถามประวัติเพื่อวินิจฉัยความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ อายุ 30 - 40 ปี เมื่อเริ่มสู่วัยทำงาน หนุ่มสาวชาวออฟฟิศมักจะประสบปัญหา “โรคออฟฟิศซินโดรม” ซึ่งเป็นโรคที่มักพบในวัยทำงาน สาเหตุก็เกิดจากการทำงานอย่างหนัก ไม่มีเวลาออกกำลังกาย นั่งหน้าคอมพิวเตอร์และนั่งอยู่กับที่นานๆ การรับประทานอาหารที่ไม่เป็นเวลา รวมถึงอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายถูกใช้งานมากพอสมควร จึงทำให้ร่างกายถดถอยเสื่อมโทรม ซึ่งการตรวจสุขภาพสำหรับผู้ที่มีอายุ 30-40 ปีนั้น จะมีการตรวจพื้นฐานเดียวกับช่วงวัย 20 ปีขึ้นไป เพียงแต่มีการตรวจเพิ่มเติมในรายละเอียดบางส่วนเพื่อให้เหมาะกับช่วงวัยและเพศ นอกจากนี้ยังมีการตรวจเพิ่มเติมที่ถูกแบ่งจำแนกตามเพศหญิงและชาย อย่างการตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชาย รวมไปถึงการตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องท้องส่วนบน เพื่อตรวจดูอวัยวะของช่องท้องส่วนบนได้แก่ ตับ ตับอ่อน ม้าม ถุงน้ำดี ท่อน้ำดี ไต และช่องท้องทั่วไป อายุ 41 - 50 ปี เมื่อผ่านการแต่งงานมีครอบครัวมาสักระยะหนึ่งแล้ว ก็จะเริ่มเข้าสู่วัยกลางคน เป็นวัยที่แสดงถึงการสิ้นสุดของวัยเจริญพันธุ์ ทำให้ร่างกายไม่มีการสร้างฮอร์โมนเพศอีก หรือที่เรียกว่า “วัยทอง” นั่นเอง อวัยวะและระบบภายในร่างกายถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน ก็ย่อมด้อยประสิทธิภาพลงตามวัย จึงมีความจำเป็นต้องเริ่มต้นการตรวจสุขภาพตั้งแต่ การตรวจร่างกายทั่วไป การตรวจการทำงานและหาความผิดปกติต่างๆ ของร่างกาย ทั้งเรื่องปอด, หัวใจ, ระดับไขมันและน้ำตาลในเลือด, ระดับกรดยูริค, การตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมาก, มะเร็งปากมดลูก, การอัลตร้าซาวด์ช่องท้องส่วนบนและล่าง อายุ 51 ปี ขึ้นไป ผู้สูงอายุในวัยนี้มักมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกว่าคนวัยอื่นๆ จึงต้องได้รับการตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมาก, มะเร็งปากมดลูก, มะเร็งเต้านม, มะเร็งตับ, มะเร็งลำไส้, การตรวจหาเม็ดเลือดแดงในอุจจาระ (เป็นการตรวจหาติ่งเนื้องอก, แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก, มะเร็งลำไส้) ซึ่งจะสามารถตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง หรือในกรณีที่ตรวจพบโรคแล้ว แพทย์จะสามารถหาวิธีหรือแนวทางการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไปได้ นอกจากการตรวจร่างกายทั่วไปแล้ว ช่วงวัยสูงอายุยังต้องได้รับการตรวจในรายละเอียดที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าคนวัยอื่นๆ อย่างการตรวจการทำงานของตับอย่างครอบคลุม เช่น การตรวจหาโปรตีนรวม(ที่สร้างขึ้นจากตับ)ในเลือด, หาค่าโปรตีนที่ช่วยรักษาสมดุลน้ำในร่างกาย, การตรวจหาระดับสารจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ และการหาระดับเอนไซม์ที่อยู่ในตับ ซึ่งหากตรวจพบในปริมาณที่สูงอาจส่งผลให้เกิดภาวะตับอักเสบ มะเร็งตับ หรือโรคหัวใจได้ เป็นต้น ภาพโดย Darko Stojanovic จาก Pixabay การตรวจสุขภาพในแต่ละช่วงวัยของชายและหญิง มีความจำเป็นที่ต้องตรวจสุขภาพที่แตกต่างกัน วันนี้ขอยกตัวอย่างเพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่กำลังจะไปตรวจสุขภาพนะครับ ผู้ชายอายุ 20-50 ปี ตรวจสุขภาพช่องปากและฟันทุก 6 เดือน ตรวจดวงตาทุก 2 ปี ตรวจวัดความดันโลหิตทุก 1-2 ปี ชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงเพื่อดูดัชนีมวลกาย BMI และวัดเส้นรอบเอวทุกปี ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อดูภาวะเบาหวาน (อายุ 35 ปีขึ้นไป) หรือผู้ที่ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเบาหวาน ตรวจร่างกายอย่างละเอียดอย่างน้อย 3 ปี ต่อครั้ง ตรวจระดับไขมัน คอเลสเตอรอลทุก 5 ปี ผู้ชายอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป รายการที่ต้องตรวจเช็คสภาพร่างกาย เช่น ตรวจวัดความดันโลหิตทุกปี ตรวจสุขภาพช่องปากและฟันทุก 6 เดือน ชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงเพื่อดูดัชนีมวลกาย BMI และวัดเส้นรอบเอวทุกปี ตรวจดวงตาทุก 2 ปี ตรวจระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ระดับน้ำตาล กรดยูริก การทำงานของไตและตับทุก 3-5 ปี ตรวจคัดกรองมะเร็งต่าง ๆ เช่น มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก ตรวจร่างกายอย่างละเอียดทุก 1-2 ปี ผู้หญิงอายุ 20-30 ปี รายการที่ต้องตรวจเช็คสภาพร่างกาย เช่น ตรวจวัดความดันโลหิตทุกปี ชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงเพื่อดูดัชนีมวลกาย BMI และวัดเส้นรอบเอวทุกปี ตรวจสุขภาพช่องปากและฟันทุก 6 เดือน ตรวจดวงตาทุก 2 ปี ตรวจภายในและตรวจหามะเร็งปากมดลูกทุก 3 ปี ตรวจเต้านมโดยแพทย์ทุก 1-2 ปี ตรวจระดับไขมัน คอเลสเตอรอลทุก 5 ปี ตรวจร่างกายอย่างละเอียดอย่างน้อย 3 ปี ต่อครั้ง ผู้หญิงอายุ 30-40 ปี รายการที่ต้องตรวจเช็คสภาพร่างกาย เช่น ตรวจวัดความดันโลหิตทุกปี ชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงเพื่อดูดัชนีมวลกาย BMI และวัดเส้นรอบเอวทุกปี ตรวจหามะเร็งปากมดลูกทุก 1-3 ปี ตรวจสุขภาพช่องปากและฟันทุก 6 เดือน ตรวจดวงตาทุก 2 ปี ตรวจเต้านมโดยแพทย์ทุก 1-2 ปี ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อดูภาวะเบาหวาน (อายุ 35 ปีขึ้นไป) หรือผู้ที่ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเบาหวาน ตรวจระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ระดับน้ำตาล กรดยูริก การทำงานของไตและตับทุก 3-5 ปี ตรวจร่างกายอย่างละเอียดทุก 3 ปี ผู้หญิงอายุ 40-50 ปี รายการที่ต้องตรวจเช็คสภาพร่างกาย เช่น ตรวจวัดความดันโลหิตทุกปี ชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงเพื่อดูดัชนีมวลกาย BMI และวัดเส้นรอบเอวทุกปี ตรวจภายในและตรวจหามะเร็งปากมดลูกทุก 1-3 ปี ตรวจสุขภาพช่องปากและฟันทุก 6 เดือน ตรวจดวงตาทุก 2 ปี ตรวจเต้านมโดยแพทย์ทุก 1-2 ปี ร่วมกับการตรวจโมโนแกรมทุก 1-2 ปี ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อดูภาวะเบาหวาน (อายุ 35 ปีขึ้นไป) หรือผู้ที่ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเบาหวาน ตรวจระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ระดับน้ำตาล กรดยูริก การทำงานของไตและตับทุก 3-5 ปี ตรวจร่างกายอย่างละเอียดทุก 1-2 ปี ผู้หญิงอายุ 50 ปีขึ้นไป รายการที่ต้องตรวจเช็คสภาพร่างกาย เช่น ตรวจวัดความดันโลหิตทุกปี ชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงเพื่อดูดัชนีมวลกาย BMI และวัดเส้นรอบเอวทุกปี ตรวจภายในและตรวจหามะเร็งปากมดลูกทุก 1-3 ปี ตรวจสุขภาพช่องปากและฟันทุก 6 เดือน ตรวจเต้านมโดยแพทย์ทุก 1-2 ปี ร่วมกับการตรวจโมโนแกรมทุก 1-2 ปี ตรวจระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ระดับน้ำตาล กรดยูริก การทำงานของไตและตับทุก 3-5 ปี ตรวจคัดกรองมะเร็งปอดในบุคคลอายุ 55-74 ปี ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่ออายุมากกว่า 50 ปี ตรวจหาความหนาแน่นของมวลกระดูกในคนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ตรวจร่างกายอย่างละเอียดทุก 1-2 ปี ภาพโดย InspiredImages จาก Pixabay นอกจากนี้ ควรตรวจรายการอื่น ๆ เช่น การตรวจวัดระดับอนุมูลอิสระและความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระในเลือด เพราะหากมีการสะสมของอนุมูลอิสระจะเป็นหนึ่งในปัจจัยส่งผลต่อความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายด้วย และรายการอื่น ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งเราควรไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา เพียงเท่านี้ก็สามารถดูแลสุขภาพร่างกายของเราให้มีสุขภาพดีได้...รักร่างกายของเราให้มาก ๆ นะครับ ภาพหน้าปกจาก : Gerd Altmann จาก Pixabay