ตอนที่ 1 : การเดินทางอันแสนสุข (รถยนต์ส่วนตัว เวลา 06:30 น.) เริ่มต้นวันขึ้นปีใหม่ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2565 สิ่งแรกที่เรานึกถึงเป็นอันดับแรกคือการทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคงกับชีวิต แต่เนื่องในสถานการณ์ เชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนนั้นลำบาก ผมจึงเลือกเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่ไกลเท่าไหร่ และใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทาง บรรยากาศถนนในวันแรกของปีนั้น รายล้อมไปด้วยการจราจรที่ค่อนข้างครึกครื้น รถยนต์ รถโดยสารต่างๆขับเคลื่อนด้วยความกระตือรือร้นให้ถึงเป้าหมาย ผมเริ่มออกจากบ้านในเวลา ๖:๓๐ น. ระหว่างอยู่บนรถ ผมก็ได้แต่ร้องเพลงเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน และก้มเล่นโทรศัพท์เป็นพักๆเพียงไม่นานเงยหน้าขึ้นมามองถนน เราก็ถึงหน้าวัดซะแล้ว ทุกคนคงได้รู้ประวัติของวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) กันแล้ว สำหรับวันนี้ผมจะพาทุกท่านมาท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวนี้ในแบบฉบับของผมเอง เรามาเริ่มกันเลยครับตอนที่ 2 : ผู้คนที่รายล้อม ( เวลา 07:00 น.) ผมเปิดประตูอย่างช้าๆและค่อยๆก้าวขาลงมาจากรถ และเดินมาเพียงเล็กน้อยก็ยืนอยู่หน้าบริเวณวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อดูนาฬิกาว่าเวลานี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว ภาพหน้าจอโทรศัพท์บอกว่า ขณะนี้เวลา 07:00 น. ซึ่งเป็นที่แปลกใจเป็นอย่างที่มีผู้คนมากหน้าหลายตา หลายเชื้อชาติ มายืนรอเพื่อที่จะมาทำบุญเสริมสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่เช่นเดียวกับผม ไม่เพียงแต่แค่คนไทยนะครับ แต่ยังมีคนจีนที่ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวครับ ในระหว่างนี้ผู้คนต่างๆก็ได้ยืนเพื่อต่อคิวที่จะได้เดินเข้าวัด ผมได้มองที่บริเวณหน้าวัดมีร้านค้าขายของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของเซ่นไหว้องค์ต่างๆ ของทำบุญทั่วไป หรือแม้แต่กรทั่งของทำบุญแก่ชงประจำปี พ.ศ.๒๕๖๕ บางคนหรือบางครอบครัวก็เตรียมของมาเอง ส่วนบางคนก็ได้มายืนรอต่อคิวซื้อของบริเวณหน้าวัด ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับเพราะนี่คือการมาทำบุญครั้งแรกของผมที่วัดนี้ครับ ตอนที่ 3 : ก้าวเท้าเยือนบริเวณวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) ( เวลา 07:00 น.) เพียงไปซื้อของทำบุญที่บริเวณหน้าวัดและกลับมายืนต่อคิวเพื่อให้เวลาวัดเปิดผู้คนจะได้เดินกันอย่างเป็นระบบระเบียบ เพียงแค่ใช้เวลาไม่นาน เจ้าหน้าที่วัดก็ได้เดินมาเปิดประตูวัดนั่นแสดงว่า วัดพร้อมที่จะเปิดให้ผู้คนได้หลั่งไหลเข้ามาทำบุญแล้ว ในระหว่างทางที่เดินเข้ามาบริเวณหน้าวัดนั้นค่อนข้างไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะว่าทางวัดกำลังบูรณะปฏิสังขรณ์ที่ค่อนข้างใหญ่ เลยอาจจะทำให้วิวทิวทัศน์ค่อนข้างไม่ค่อยดีมากเท่าไหร่ครับ แต่ทางวัดก็จะมีป้ายบอกทางอย่างชัดเจนและทางเดินที่ทำมาเป็นกรณีพิเศษเพื่อใช้ในยามที่วัดกำลังปรับปรุงครับ ตามทางเดินมีสังกะสีคลุมบริเวณหลังคาและรอบๆเป็นผ้าใบไวนิลลายเป็นตัวการ์ตูนจีนและอักษรจีน เวลาเดินก็ได้มองเพลินๆทำให้ลืมได้ชั่วขณะว่าบริเวณทางเดินมีผู้คนจำนวนเยอะครับ ตอนที่ 4 : ควันธูปแห่งแรงศรัทธา ( เวลา 07:00 น.) ในระหว่างทางที่กำลังเดินผมได้มองผนังบริเวณทางเดินอย่างเพลิดเพลิน ไม่ถึง 10 นาทีโดยประมาณ ก็ถึงแล้วสถานที่แรกของเรา วิหารท้าวจตุโลกบาล หรือ ซี่ไต่เทียนอ๊วง เผื่อผ่านหน้าประตูของวิหารเข้ามาแล้ว บริเวณภายในรายล้อมไปด้วยกลิ่นควันธูป ผู้คน และของเส้นไหว้ต่างๆ เรียงกันอย่างเป็นระเบียบบนโต๊ะที่ทางวัดได้จัดเตรียมไว้ให้ โคมไฟที่ประดับอยู่ด้านบน ส่องแสงสวยงามเป็นอย่างมาก ผมได้เดินวนภายในบริเวณวิหารซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนที่ยืนถ่ายรูป และกำลังเตรียมของกันอย่างตั้งใจ ผมก็ไม่รอช้าจึงได้หยิบถาดสำหรับใช้จัดแต่งของไหว้เทพเจ้ามาเตรียมใส่ของไหว้เจ้าของตนเอง ซึ่งภายในถาดก็จะมีธูป ส้ม ใบคาถา และขนมมาให้เราเรียบร้อย ผมยืนงงๆอยู่สักครู่ใหญ่ พอดีเห็นคนรอบข้างผมกำลังทำพิธีอยู่พอดี ผมก็เลยทำตามขั้นตอนที่พี่สาวข้างๆได้ทำเลยครับ ซึ่งเป็นครั้งแรกของผมที่ได้มาทำบุญที่วัดแห่งนี้ อาจจะแปลกๆไปบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวที่ดีที่เราได้เปิดประสบการณ์ของตัวเองนะครับ ผมใช้เวลาในอุโบสถเป็นเวลาค่อนข้างนานพอสมควร เพราะภายในนั้นเป็นสถานที่ที่สวยงามเป็นอย่างมาก ถึงจะรายล้อมไปด้วยผู้คนที่มีจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศความงดงามและล้ำค่าภายในลดลงเลย จึงไม่พลาดที่จะถ่ายรูปบรรยากาศ ผู้คน และรูปตัวเองเก็บไว้ครับ ตอนที่ 5 : ปีชงนั้นเราสามารถแก้ได้ ( เวลา 08:00 น.) พอผมเสร็จธุระที่ภายในวิหารหลังแรกแล้ว เมื่อเราเดินออกมาจะมีป้ายนำทางนำพาไปที่อีกสถานที่นึง ซึ่งนั่นก็คือ วิหารที่เป็นสถานที่ประดิษฐานของไท่ส่วยเอี๊ย เทพผู้คุ้มครองชะตาชีวิต ซึ่งตรงจุดนี้จะเป็นจุดที่ผู้คนมาเพื่อแก้ปีชงกันครับ วิหารหลังนี้ไม่เพียงมีแต่เทพไท่ส่วยเอี๊ย แต่ยังมีเทพเจ้าอื่นๆให้พวกเราได้สักการะกราบไหว้ค่อนข้างเยอะมากครับ ทุกคนสามารถศึกษารายชื่อเทพเจ้าอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ บริเวณภายนอกที่ผู้คนต่อแถวเข้าคิวเพื่อที่จะเข้าไปแก้ปีชงนั้นจำนวนเยอะมากๆ จึงก่อให้เกิดการเบียดเสียดภายในวิหาร แต่ผมนั้นไม่ได้จัดอยู่ในปีชงครับแต่ก็อยากรับชมความสวยงามภายในจึงได้อาศัยติดไปกับผู้คนด้วย พอได้เวลาที่จะได้เข้าภายใน มีช่องบริการเพื่อความสะดวกแก่ผู้คน 3 ช่อง ซึ่งทางด้านช่องบริการได้มีการเปิดขายชุดกระดาษแก้ปีชงเป็นจำนวน 100 บาท เมื่อซื้อมาแล้วทางวัดก็จะจัดจุดที่มีโต๊ะ มีปากกา มีวิธีการเขียนสิ่งต่างๆลงไปในใบแก้ปีชงอย่างละเอียด เพื่อกันไม่ให้ผู้คนเข้าใจผิด เมื่อเราจัดการกับใบแก้ปีชงเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เรานั้นนำใบแก้ปีชงไปวางไว้ที่หน้าองค์ไท่ส่วยเอี๊ย ส่วนเรื่องการเผาทางวัดจะจัดการเผาให้เราในช่วงสิ้นปี เพราะเนื่องจากสถานที่ทางวัดกำลังบูรณะปฏิสังขรณ์เลยอาจจะทำให้ไม่สะดวกแก่การเผาครับ ตอนที่ 6 : ทริปนี้สุขกาย สบายใจ แถมได้บุญ ( เวลา 09:00 น.) สำหรับวันนี้การที่ได้มาเที่ยวชมวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) ถือว่าเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๕ ที่ดีเยี่ยมอีกปีนึง เพราะเป็นการเปิดประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตที่ได้มาทำบุญในวัดที่ไม่ใช่วัดไทย ได้เห็นวัฒนธรรมของชาวจีน การเคารพองค์เทพเจ้าต่างๆเปรียบเสมือนกับการได้เรียนรู้เพิ่มเติมอีกช่องทางนึงผ่านการท่องเที่ยว ผมมีความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อถึงเวลาที่สมควรผมและเพื่อนๆก็ต้องถึงเวลาแยกย้ายกันกลับบ้านแล้ว เวลาของความสุขภายในวัดนี้ก็คงจะจบแต่เพียงเท่านี้ แต่ความประทับใจจะยังคงฝังอยู่ภายในห้วงความทรงจำของผมเสมอไป และจะต้องมีอีกหลายๆโอกาสอย่างแน่นอนที่จะต้องกลับมาเยี่ยมชมวัดแห่งนี้อีกครับสำหรับเพื่อนๆ ผู้อ่านที่สนใจจะมาสร้างความประทับใจ สร้างบุญที่สถานที่แห่งนี้วัดวัดมังกรกมลาวาส เยาวราช กรุงเทพที่อยู่ : 423 ถนนเจริญกรุง แขวงป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯพิกัด : https://goo.gl/maps/pA8xPoyjvtXGgBcX9เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น.โทร : 0-2222-3975เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Wat.Mangkonkamalawat.Templeผมหวังว่าทุกท่านจะพบกับสิ่งสวยงามภายในอนาคตของแต่ละท่านนะครับเครดิตภาพ โดย ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !