วันนี้ได้สายบัวจากเพื่อนบ้านนำมาฝาก จึงนำมาจัดทำเป็นอาหารเมนูอร่อยคู่ครัวของเรามาทุกยุคทุกสมัย ที่กินแล้วอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพของทุกคน สายบัวจะเส้นยาวขึ้นอยู่กับความลึกของน้ำ สามารถนำมากินสด ๆ กับส้มตำ หรือนำมาแกงก็อร่อยเหมือนกัน โดยจะทำตามแบบฉบับง่าย ๆ ทำกินเองที่บ้าน มาเข้าครัวทำ “ต้มกะทิสายบัวปลาทู อาหารคู่ครัวแสนอร่อย” กันเลยจ้า สิ่งที่ต้องเตรียม 1. สายบัว 1 กำ นำมาหั่นเป็นชิ้นยาวพอดี แล้วลอกเปลือกออก นำไปลวกน้ำร้อน แล้วแช่น้ำเย็น ตักขึ้นใส่ถ้วยพักไว้ 2. ปลาทู 3 ตัว แบ่งทำน้ำพริก 1 ตัว ส่วนอีก 2 ตัวแกะเอาแต่เนื้อไว้ใส่ในน้ำแกงสายบัว 3. น้ำพริกสำหรับแกง ได้แก่ หัวหอมแดง 7 หัว พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ 4. เครื่องปรุง ได้แก่ กะทิสำเร็จรูป 1 ขวด น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ และใบมะกรูด 5 ใบ เมื่อเตรียมเครื่องปรุงทุกอย่างครบแล้ว ลงมือทำกันเลยจ้า วิธีทำ 1. ทำน้ำพริกแกงก่อน โดยโขลกหัวหอมแดงกับพริกไทยให้เข้ากัน จากนั้นใส่กะปิลงไปโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง เมื่อละเอียดดีแล้ว ให้ใส่เนื้อปลาทูลงไปโขลกจนเป็นเนื้อเดียวกัน เพื่อความเข้มข้นของน้ำแกง 2. ตั้งหม้อใส่น้ำกะทิครึ่งหนึ่ง แล้วตักพริกแกงที่โขลกไว้ใส่ลงไป คนให้เข้ากัน 3. จากนั้นนำสายบัวที่เตรียมไว้ใส่ลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล และน้ำมะขามเปียก คนให้เข้ากันตามด้วยเนื้อปลาทู เติมน้ำกะทิที่เหลือ รอน้ำเดือดอีกครั้ง โรยหน้าโดยใบมะกรูด ชิมดูรสที่ชอบอร่อยแล้ว ปิดไฟ ยกลงพร้อมเสิร์ฟ 4. ตักต้มกะทิสายบัวปลาทูที่ทำเสร็จใหม่ ๆ ใส่ถ้วยเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ สักหนึ่งจานก็เพียงพอแล้ว เอ้า ! มาชิมกันเลย ตักคำแรกได้สัมผัสถึงรสชาติที่เข้มข้น หวานกลมกล่อม น้ำแกงแซ่บนัวจากน้ำกะทิผสมกับเนื้อนุ่มของปลาทู และสายบัว ยิ่งเพิ่มความอร่อยเข้าไปอีก บอกได้คำเดียวว่า อร่อย จริง ๆ “ต้มกะทิสายบัวปลาทู อาหารคู่ครัวแสนอร่อย” อย่าลืมเอาไปลองทำดูนะคะ โอกาสหน้าพบกันใหม่ สวัสดีค่ะ เคล็ดลับความอร่อย - สายบัวใหม่สด ต้องนำมาลวกก่อน จะทำให้สายบัวมีสีใสน่ากินยิ่งขึ้น - พริกแกงต้องนำมาเนื้อปลาทูมาโขลกรวมกับพริกด้วย จะทำให้น้ำแกงเข้มข้นและแซ่บนัว ภาพโดย RatC. (ผู้เขียน)