ต้มเขียดน้อย วันนี้ผู้เขียนมีความภูมิใจนำเสนอเมนูอาหารอีสานรสชาติแซ่บนัวที่ไม่ใช่ ตำบักหุ่ง เด้อจ้า แต่สิ่งนั้นคือ ต้มเขียดน้อย เมนูอีสานแต่ตั้งเดิม เขียดน้อย หรือเขียดขาคำ มีลักษณะคล้ายอึ่งขนาดเล็ก ขนาดลำตัวประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร ชาวอีสานนิยมกินเพราะเนื้อมีรสมัน และสามารถกินได้ทั้งตัวโดยไม่ต้องเอาเครื่องในออก เขียดน้อยจะหาได้ตามหนองน้ำที่ใกล้แห้งหรือพึ่งจะแห้ง โดยจะออกหาเขียดน้อยช่วงกลางคืนใช้ไฟฉายหรือไฟแบตเตอรี่ออกส่องหา เขียดน้อยก็จะออกมาเล่นไฟ เราก็จัดการตะครุบใส่ขวดพลาสติกที่เตรียมไป สมัยผู้เขียนยังเด็กบางทีก็งัดหาจากรอยแตกของโคลนที่เขียดน้อยเข้าไปหลบในรอยแตก เขียดน้อยสามารถนำมาทำอาการได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอ่อม หมก หรือต้ม แต่วันนี้ผู้เขียนจะทำต้มเขียดน้อยใส่ผักแก่นขม ซึ่งจะเป็นการทำเองครั้งแรก (สมัยเด็กแม่เป็นคนทำ) วันนี้แม่ผู้เขียนซื้อเขียดน้อยมาจากตลาดนัดในหมู่บ้านถุงละ 20 บาท น่าจะต้มได้อิ่มหนึ่งพอดี เอาล่ะ เราได้วัตุดิบหลักแล้ว เรามาเตรียมเครื่องแกงกันเลยค่ะ เครื่องแกงก็จะมี ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกแดงแห้ง หอมหัวแดง ผักติ้ว และ ที่ขาดไม่ได้สำหรับแม่ผู้เขียนคือ ผักแก่นขม (รสชาติขม บางคนก็ไม่ใส่ค่ะ) โดยนำพริกแดงตำรวมกับหอมหัวแดงพอแตกใส่ลงในหม้อที่ใส่น้ำไว้พอประมาณ (กะเอาตามชอบ ประมาณพอดีต้มประมาณ 30 นาที น้ำลดพอดีซด) หั่นตะไคร้า ข่า ใส่ตามลงไป เติมเกลือนิดหน่อย รอน้ำเดือด ระหว่างนี้เราก็ทำความสะอาดเขียดน้อย เพื่อป้องกันการเต้น (กระโดดหนี) ของเขียดน้อย ผู้เขียนก็จะทำการลวกเขียดน้อยในน้ำร้อนก่อน หลังจากนั้นล้างน้ำให้สะอาด พักไว้ก่อน รอน้ำเดือด พอน้ำเดือด ใส่เขียดน้อยที่เตรียมไว้ลงไป ต้มต่อไปจนกว่าเขียดน้อยเปื่อย ต้องใช้เวลานานเพราะเขียดน้อยถึงตัวเล็กแต่เปื่อยยาก วันนี้ผู้เขียนต้มประมาณ 30 นาที หลังจากเขียดน้อยเปื่อยใส่ผักติ้วลงไปเพื่อเอารสเปรี้ยว (บางคนไม่ชอบผักติ้ว ใส่มะเขือเทศ หรือ มะขามเปียกได้ แต่ดั้งเดิมจริงๆ ต้องผักติ้ว) ปรุงรสด้วยน้ำปลา ผงชูรส น้ำปลาร้านิดหน่อย หลังจากนั้นรอน้ำเดือดอีกครั้งใส่ผักแก่นขมลงไป ชิมอีกครั้ง ปรุงให้ได้รสชาติที่ชอบ ยกลง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เขียดน้อย สามารถกินได้ทั้งตัว โดยไม่รู้สึกสากลิ้น เนื้อจะมีรสมัน และยังเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ตัวเล็กแต่รสชาติไม่เล็กเลย ขอบคุณภาพหน้าปกโดย Allan Lau จาก Pixabay ภาพประกอบที่ 1 - 3 โดยผู้เขียน