ถอด Key Strategy ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ของนายกประยุทธ์ เมื่อวันพุธที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ประกาศใช้ พระราชกำหนดฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรไทยเพื่อรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งคำพูดของท่านท่อนหนึ่งที่ว่า "แต่สิ่งหนึ่งที่ไวรัสโควิด-19 ไม่สามารถทำร้ายได้ ก็คือ ความดีงามในใจและความสามัคคีของคนไทย" ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นการพูดปลุกใจที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผล นายกควรจะพูดสิ่งที่เป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มากกว่า แม้ว่าแถลงการณ์ในครั้งนี้อาจไม่เป็นที่พอใจของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มคนที่ไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์และพรรคพลังประชารัฐเป็นทุนเดิม แต่มันก็ได้สะท้อนค่านิยมและชุดความคิดเกี่ยวกับการทำความดีอันเป็นหลักในการดำเนินชีวิตของคนในสังคมไทย เรามักได้ยินวลีหรือสำนวนที่เกี่ยวข้องกับการทำความดีมาตั้งแต่เด็ก อาทิ ความดีชนะทุกสิ่ง คนดีอยู่ที่ไหนก็ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ หรือจะเป็น ไม่ต้องเป็นคนเก่งก็ได้ ขอให้เป็นคนดีก็พอ แม้กระทั่งประเด็นละเอียดอ่อนอย่างเรื่องเพศทางเลือกที่เคยไม่ได้รับการยอมรับในสังคมไทย ก็คลี่คลายได้ด้วยวลีที่ว่า “เป็นเพศอะไรก็ได้ ขอแค่เป็นคนดีก็พอ” Credit : Pixabay จะเห็นได้ว่า “ความดี” เป็นชุดความคิดสำคัญ ที่ซึมลึกในพันธุกรรมของคนไทยหลายยุคหลายสมัย จนอาจกล่าวได้ว่า ความดีเป็นอาวุธหลักในความคิดแบบคนไทยมาโดยตลอด และสิ่งที่ท่านนายกพูดก็เป็นแค่อีกหนึ่งครั้งที่ความดีถูกนำมาใช้เป็น key strategy ในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ที่กำลังระบาด แนวคิดอื่น ๆ นอกจากความดีที่ท่านนายกเลือกมาใช้ในการปลุกใจก็ได้แก่ ความกล้าหาญ ความรัก และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สังเกตได้จากคำพูดที่ว่า Credit : Pixabay 1 - 2 “ช่วงเวลานี้ อาจเป็นช่วงเวลาที่สร้างความเจ็บปวด และท้าทายความรัก ความสามัคคีของพวกเราทุกคน แต่ขณะเดียวกัน ช่วงเวลานี้ก็เป็นช่วงเวลาที่จะดึงสิ่งที่ดีที่สุดในตัวของพวกเราคนไทยทุกคนออกมา นั่นก็คือ ความกล้าหาญ ความรัก ที่มีต่อพี่น้องร่วมชาติ ความเสียสละที่จะช่วยเหลือผู้อื่น รวมถึงความเอื้ออาทรต่อกันและกัน ซึ่งจะนำพาให้เราก้าวผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ไปได้ด้วยความสามัคคี ความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ความมีน้ำใจของคนไทย ซึ่งหาไม่ได้จากชาติใดในโลก ไวรัสโควิด-19 ที่น่ากลัวและอันตราย ได้สร้างความเสียหายไปทั่วโลกก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่ไวรัสโควิด-19 ไม่สามารถทำร้ายได้ก็คือ ความดีงามในใจและความสามัคคีของคนไทยจะกลับมาเปล่งประกายไปทั่วผืนแผ่นดินไทยอีกครั้ง” การใช้ Key Strategy ของท่านนายกในครั้งนี้คงสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยที่ยังมีชุดความคิดยึดมั่นในความดี ความกล้าหาญ ความรักและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ Credit : Pixabay แต่ในขณะเดียวกันก็คงลดทอนความเชื่อมั่นจากเด็กรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และการลงมือแก้ปัญหามากกว่า คงต้องติดตามต่อไปว่า คำพูดปลุกใจที่มีผลกับคนแค่บางกลุ่มในชาติจะช่วยให้ไทยรอดพ้นวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้ได้หรือไม่ Cover Photo : Pixabay เขียนโดย : นายอบอุ่น สามารถติดตามพวกเราได้ที่ช่องทางนี้ Bd : https://www.blockdit.com/en12