ถ่ายรูปกับเสาแดงที่ “ศาลเจ้าจิ้งจอก” เมื่อก่อนเห็นเพื่อนหลายคน ๆ ที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นถ่ายรูปกับเสาสีแดงที่เรียงกันเป็นแถวแล้วแชร์ลงในเฟสบุค ตัวเราเองก็สนใจ พอมีโอกาสได้ไปจึงค้นหาข้อมูลและรูปว่ามันคือ “ศาลเจ้าจิ้งจอก” หรือ Fushimi Inari (รูปภาพจากเจ้าของบทความ) หากต้องการเดินทางไปยัง Fushimi Inari โดยรถไฟฟ้า สามารถทำได้โดย ลงที่สถานี JR Inari Station ในสายของ JR ซึ่งสถานีนี้อยู่ถัดจากสถานี Kyoto เพียงสองสถานีเท่านั้น ต่อไปนี้จะขอใช้คำว่า “ศาลเจ้าจิ้งจอก” ซึ่งเป็นชื่อเล่นภาษาไทยที่คนมักเรียกกัน โดยที่ศาลเจ้าจิ้งจอก เป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาชินโต จุดเด่นของที่นี่คือเสาสีแดงที่เรียกว่าโทริอิ (Torii) ที่เรียงรายกันอยู่นับหมื่นต้น โดยที่เสาเหล่านี้มาจากการบริจาคทั้งจากชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ตั้งแต่หลักร้อย (เสาต้นเล็ก ๆ) ไปจนถึงหลักล้าน (เสาต้นใหญ่) (รูปภาพจากเจ้าของบทความ) (รูปภาพจากเจ้าของบทความ) (รูปภาพจากเจ้าของบทความ) (รูปภาพจากเจ้าของบทความ) (รูปภาพจากเจ้าของบทความ) พื้นที่บริเวณศาลเจ้าจิ้งจอกนั้นกว้างขวางและมีทางเดินมากมายหลายสาย ไม่ต้องกลัวว่าคนจะเยอะ ไม่ได้ถ่ายกับเสาโทริอิ เพราะมีเรียงกันอยู่หลายจุดตามทางเดิน ใครที่ยังหนุ่มสาวหรือมีเรี่ยวแรงก็สามารถเดินเที่ยวได้อย่างสนุกสนาน ใครต้องการขึ้นไปถึงยอดสูงสุดก็อาจจะใช้เวลาหน่อย (รวม ๆ ขึ้นลงแบบไม่รีบใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง) (รูปภาพจากเจ้าของบทความ) ระหว่างทางเราจะเจอรูปปั้นจิ้งจอกมากมายและไม่ซ้ำกัน กระจายตามจุดต่าง ๆ และสิ่งที่คนญี่ปุ่นมักจะทำในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้คือการโยนเหรียญ เคาะระฆัง ซึ่งนักท่องเที่ยวที่สนใจก็สามารถทำได้ หรือจะเขียนขอพรบนแผ่นไม้รูปจิ้งจอกก็ได้ โดยที่ทางศาลเจ้ามีขาย จะว่าไปแล้วเครื่องรางต่าง ๆ ของที่นี่ก็มีมากมายให้เลือกซื้อ แต่ละอย่างก็จะตอบโจทย์ไม่เหมือนกัน เช่น เรื่องการงาน ความรัก ซึ่งท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ (รูปภาพจากเจ้าของบทความ) นอกจากนี้ระหว่างทางยังมีโปสการ์ดของศาลเจ้าจิ้งจอกขายด้วย มีลายสวย ๆ น่ารัก ๆ มากมาย อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนชอบมาก ๆ ก็คือการประทับตราของสถานที่นั้น ๆ ลงในสมุดบันทึก เพราะให้ความรู้สึกว่ามาถึงที่แล้วนั่นเอง (รูปภาพจากเจ้าของบทความ) (รูปภาพจากเจ้าของบทความ) (รูปภาพจากเจ้าของบทความ) สุดท้ายแล้วอยากจะบอกว่าที่ศาลเจ้าจิ้งจอกนี้มีของกินอร่อย ๆ เยอะมาก ที่เคยกินจะเป็นร้านขนมหรือของกินเล่นระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นไดฟุกุ โมจิ (ราคาชิ้นละประมาณ 100 เยน หรือ ประมาณ 35 บาท) เนื้อต่าง ๆ (เนื้อฉ่ำมาก ราคาประมาณ 300 เยน หรือประมาณ 100 บาทไทย) ถ้าใครไปก็อย่าลืมเตรียมเหรียญและแบงก์ไว้ซื้อหนมกันด้วยนะคะ (รูปภาพจากเจ้าของบทความ) บทความหน้าจะรีวิวสถานที่ไหนอีก รอติดตามนะคะ โอ้