หนึ่งในภาพยนตร์แนวแก๊งสเตอร์ระดับตำนานอย่าง "The Godfather" กับผลงานการกำกับของ "ฟราซิส ฟอร์ด คอปโปลา" ที่ในปีนี้ครบรอบ 50 ปี ที่ไม่ว่าจะย้อนกลับมาดูอีกกี่ครั้งก็ยังคงเสน่ห์และความคลาสสิกไว้ได้ตลอดกาลจึงเป็นจุดเริ่มต้นนำไปสู่การเปิดตัว "The Offer" มินิซีรีส์จาก Paramount+ ที่ในครั้งนี้กลับมาถ่ายทอดเบื้องลึกเบื้องหลังโปรเจค The Godfather เสมือนได้พาผู้ชมนั่งไทม์แมนชีนย้อนกลับไปในช่วงยุค 70 ไปสัมผัสกับสถานการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์https://www.instagram.com/p/CbdFlVapBZ-/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ตัวภาพยนตร์ว่าเข้มข้นแล้ว แต่เบื้องหลังกลับเข้มข้นกว่า สำหรับแฟนหนัง The Godfather น่าจะพอทราบกันดีถึงอุปสรรคที่เข้ามาขัดขวางระหว่างโปรเจคนั้นช่างมากมายเหลือเกิน เหล่าทีมงานเบื้องหลังต่างต้องฟาดฟันกันสุดฤทธิ์เพื่อให้ภาพยนตร์สำเร็จลุล่วงอย่างที่เราได้ชมกันอยู่ในทุกวันนี้ซึ่งในซีรีส์ "The Offer" หยิบเอาเรื่องจริง สถานการณ์จริง รวมไปถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง มาทำเป็นมินิซีรีส์ 10 ตอนจบ นำทีมนักแสดงด้วย "ไมล์ เทลเลอร์" กับบท "อัลเบิร์ต เอส.รัดดี" ผู้อำนวยการสร้างคนสำคัญในโปรเจคนี้ เรียกได้ว่าตัวละครนี้เป็นตัวชูโรงหลักในซีรีส์เลยก็ว่าได้https://m.facebook.com/ParamountPlus/photos/a.226631049175124/522676029570623/?type=3&d=mนอกจากจะได้ ไมล์ เทลเลอร์ มารับบทนำในซีรีส์แล้วยังมีนักแสดงคนอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย เราได้คัดตัวละครที่น่าจับตามอง จะมีใครรับบทเป็นเป็นตัวละครไหนกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเลย"จูโน เทมเปิล" กับบท "เบ็ตตี้ แม็คคาร์ต" เลขาสาวสุดแกร่งที่ทำงานข้างกาย อัลเบิร์ต รัดดี เป็นอีกคนสำคัญที่อยู่ในทีมงานเบื้องหลัง ซึ่งหลังจากจบโปรเจค The Godfather ภาคแรก คุณเบ็ตตี้ก็ได้ออกมาทำบริษัทดูแลนักแสดง หนึ่งในชื่อที่ทุกคนจะต้องรู้จักแน่นอนนั้นคือ 'จอร์จ คลูนีย์' นั้นเองhttps://www.instagram.com/p/CZR_e8PpFZx/?igshid=MDJmNzVkMjY= "ดาน ฟอกเกลอร์ " กับบท "ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา" ผู้กำกับคนสำคัญผู้มีวิสัยทัศน์ในการทำงานที่เฉียบขาดทำให้ผลงาน The Godfather นั้นมีเสน่ห์เฉพาะตัวและกลายเป็นต้นแบบให้กับหนังแนวแก็งสเตอร์ต่อๆมา นอกจากนี้เรื่องราวการต่อสู้กับค่ายหนังของคอปโปลาก็ยังเป็นที่พูดถึงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ตัวนักแสดงอย่างฟอกเกลอร์มีความคล้ายคอปโปลานะ แต่เราติดตาคาแรคเตอร์ตลกๆของฟอกเกลอร์มากกว่า เลยทำให้ยังไม่รู้สึกอินกับการที่เขาเข้ามารับบทเป็นคอปโปลามากนัก คงต้องมารอดูการแสดงอีกทีว่าจะเอาอยู่กับบทผู้กำกับมือพระกาฬนี้ได้ดีสักแค่ไหนhttps://m.facebook.com/ParamountPlus/photos/a.226631049175124/522676726237220/?type=3&d=m"แพทริก แกลโล" กับบท "มาริโอ พูโซ" เจ้าของบทประพันธ์นิยายสุดคลาสสิกที่หยิบเรื่องราวมาเฟียซิซิลีมาถ่ายทอดจนเป็นนิยาย The Godfather ในปี 1969 ตัวนิยายถูกโจมตีอย่างหนัก เพราะถูกมองว่าถ่ายทอดเรื่องไม่จริงและทำให้ภาพลักษณ์ชุมชนชาวอิตาลีในอเมริกาเสื่อมเสีย นอกจากนี้พูโซยังเป็นผู้ร่วมประพันธ์บทภาพยนตร์ร่วมกับคอปโปลาและยังมีส่วนร่วมในงานภาพยนตร์ด้านอื่นๆอีกด้วย ต้องบอกเลยว่าซีรีส์แคสนักแสดงมาได้เหมือนพูโซมากๆ เหมือนจนงง เหมือนจนตกใจ สำหรับเราถ้าแคสคนแสดงมาได้ใกล้เคียงคาแรคเตอร์ก็ถือว่าเป็นแต้มต่อที่มากพอควรที่จะทำให้คนดูติดได้ไม่ยากhttps://www.instagram.com/p/Cf4JDAvLgdX/?igshid=MDJmNzVkMjY=และไฮไลท์สำคัญที่ส่วนตัวเราจับตามองเป็นพิเศษ คือ ใครจะมารับบทเป็น "อัล ปาชิโน" กันนะ? สำหรับเรา 'อัล ปาชิโน' เป็นอีกหนึ่งไอคอนิคของภาพยนตร์กับบท 'ไมเคิล คอลเลโอเน' ซึ่งคนที่แสดงเป็นปาชิโนในซีรีส์คือ "อิปโปลิโต้ แอนโทนี" ครั้งแรกที่เห็นแคสนักแสดงก็เกิดความอคติเล็กน้อย ในความคิดเรามันคงไม่มีใครจะแสดงเป็น อัล ปาชิโนได้ดีไปกว่าเจ้าตัวแล้วจริงป่ะ? เป็นวัยที่ลุงอัลกำลังขบเผาะ กำลังเปร่งปรั่ง กำลังเจิดจรัสกับสายการแสดงสุดๆ แต่พอได้ดูคลิปที่ตัดช่วงเจ้าหนุ่มแอนโทนีเท่านั้นแหละ "บอกเลยว่าเจ้าหนุ่มคนนี้มันไม่ธรรมดาเลยจริงๆ" ที่ชอบสุดคือการใช้น้ำเสียงและการแบ่งจังหวะพูด แค่ฟังเสียงก็เสน่ห์เขาทันที5555 มีการเล่นท่าทาง สายตา แบบพอดีพอเหมาะไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป ถึงแม้จะไม่ได้เหมือนจนตกใจแต่เก็บเสน่ห์ในแบบ 'อัล ปาชิโน' มาได้ดี ถือว่าทำการบ้านมาดีมากนะสำหรับการมารับบทนี้ https://youtu.be/4zw53Oiz5t4ตอนที่ได้ดูคลิปนี้สารภาพเลยว่าน้ำตาปริ่มเลยจ้าาา สำหรับเรารู้สึกว่าเหตุการณ์เหล่านี้มันผ่านไปแล้ว แต่ตอนนี้มันกำลังวนซ้ำอีกครั้งเป็นภาพตรงหน้าที่เรากำลังดูอยู่ ซึ่งก็ไม่มีอะไรการันตีหรอกว่าสิ่งที่เราเห็นจากซีรีส์จะตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ในความรู้สึกมันปริ่มมันอิ่มเอมไปแล้ว จากใจแฟนหนัง The Godfatherท่ามกลางความตื่นตาตื่นใจมากมายแต่กลับมีหนึ่งจุดที่เสียดายอยู่นะนั้นคือตัวละคร "มาร์ลอน แบรนโด" ที่ได้ "จัสติน แชมเบอส์" จากการดูแค่ภาพภายนอกเรารู้สึกว่าไปได้มากกว่านี้ ตัวแชมเบอส์ยังไม่ค่อยตรงกับคาแรคเตอร์แบรนโดมากขนาดนั้น เพราะถ้าแค่คนแสดงไม่ใกล้เคียงกับคาแรคเตอร์นั้น เราว่าทำให้คนดูอินกับตัวละครได้ยากขึ้น ที่นี้คงต้องมาดูกันที่ฝีมือการแสดงเลยว่าจะช่วยพาให้คาแรคเตอร์ระดับตำนานนี้รอดได้หรือไม่https://www.instagram.com/tv/Cfw_wHOFgbO/?igshid=MDJmNzVkMjY=ซึ่งนอกจากนี้ยังมีเรื่องราวและตัวละครอื่นๆให้ติดตามกันอีกมากมาย ที่เรานำมาเสนอไว้ในบทความนี้เป็นเพียงแค่ส่วนน้อยนิด เราเลยมองว่าไม่อยากให้พลาดซีรีส์เรื่องนี้เลย เพราะตัวเนื้อหาในเรื่องจะเป็นการขยายเรื่องราวให้ผู้ชมได้รู้จักทั้งบุคคลเบื้องหลัง ทั้งเรื่องราวความขัดแย้งต่างๆ จากภายในและภายนอกมาก ที่ผ่านการเคี่ยวการกวนจนได้ที่เรียกได้ว่า "เข้มข้น" แล้วยิ่งใครเป็นแฟนหนัง The Godfather เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งไม่ควรพลาดมินิซีรีส์เรื่องนี้เลย เพราะถ้าได้ดูแล้วน่าอินไปกับภาพยนตร์มากขึ้นอีก ปัจจุบัน "The Offer" ฉายครบจบทั้ง 10 ตอน คะแนนรีวิวจากผู้ชมออกมาในแนวทางที่ดี น่าจะโดนใจแฟนหนังแฟนซีรีส์มากพอสมควร ก็คงต้องเฝ้ารอกันต่อไปว่าจะมีสตีมมิ่งเจ้าไหนเอาเข้ามาแปลไทยบ้าง บอกเลยอย่างน้อยก็มีเราแล้วหนึ่งคนที่ต้องเสียเงินดูซีรีส์เรื่องนี้แน่นอน!!!!!! แต่สำหรับใครที่ไม่มีกำแพงภาษาก็สามารถรับชมได้เลยที่ "Paramount+"https://www.facebook.com/113028887202008/posts/pfbid032adM6VMdZgEA8z91bCVka3GsKBSLrWjUd8dpHZCV2CpmxXVA8cRPsRAo6rPkzyTLl/?sfnsn=moเครดิตภาพและวิดีโอประกอบบทความ: 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 จาก Instagram: @junotemple, @paramountplus Facebook: Paramount+ Youtube: Paramount Plusเครดิตภาพปกประกอบบทความ: Instagram: @dexfletch ,Edit : ก็ชอบรีวิวอ่ะ.ห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป