ทริปนี้เริ่มต้นที่เชียงใหม่ เป็นทริป 2 วัน 1 คืน ออกจากตัวเมืองสบายๆ ประมาณ 10 โมงเช้า และแวะตามสถานีที่ต่างๆที่เป็นทางผ่าน ดังนี้วัดพระธาตุศรีจอมทอง แผนที่แวะกราบวัดสำคัญของอ.จอมทอง และกราบสรีระสังขารขององค์หลวงปู่ทอง เพื่อความเป็นสิริมงคลจากนั้นแวะกินอาหารตามสั่งตามเส้นทางผ่าน แล้วไปกันต่ออุทยานแห่งชาติออบหลวง แผนที่ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท วันนี้เป็นวันธรรมดา เลยไม่เห็นนักท่องเที่ยวคนอื่นเลย เราเลยได้ชื่นชมทัศนียภาพของอุทยานแบบเป็นส่วนตัว บริเวณอุทยาน มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งชมวิวลำธารด้วย ถ้าใครนำอาหารมาเองก็เอามานั่งกินตรงนี้ได้สบายเลย แต่ในอุทยานก็มีร้านขายขนมขบเคี้ยว กับ กาแฟซองด้วยเหมือนกัน ตอนไปยืนนิ่งๆตรงสะพานข้ามช่องเขา มันแอบน่ากลัวเหมือนกันเพราะเป็นช่องเขา เลยเป็นจุดที่ลมพัดผ่านตลอดและพัดแรงมากด้วย ถ้ายืนเฉยๆบนสะพานจะรับรู้ได้ถึงความสั่นสะเทือนของตัวสะพานได้เลย แถมราวสะพานยังอยู่แค่ระดับประมาณเหนือเอวเล็กน้อย ทำให้รู้สึกหวาดเสียวพอควร เดินลงมานั่งชิลๆริมลำธารดีกว่า มีลมพัดเย็นสบาย ถ้าเอาเสื่อมาก็น่านอนมาก สวนสนบ่อแก้ว แผนที่ที่เที่ยวยอดฮิต ของอ.ฮอด เราขับเลยจุดจอดไปหน่อย เลยได้ถ่ายแค่ตรงปลายๆสวนอีกด้าน เห็นคนทิ้งขยะไว้เต็มเลย สงสารจนท.ที่ต้องคอยมาเก็บกวาดเศษถุงขนม ขวดน้ำต่างๆ อยากให้คนที่เอาของมากิน ช่วยเอาขยะกลับไปทิ้งเองด้วย ช่วยให้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆดูดีขึ้น สวนป่าดอยบ่อหลวง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ แผนที่เป็นจุดหมายที่เราจะมาพักคืนนี้ ถ้าใครจองมาพักช่วงพีคเดือนธันวา จะต้องมีความเพียรในการกดโทรศัพท์มาจองอย่างสูง เพราะสายจะไม่ว่างตลอด บางคนต้องกดเป็น 100 รอบ กว่าจะโทรติด แต่เรามาพักช่วงปลาย กพ. ซึ่งไม่พีคมากเลยโทรจองล่วงหน้าแค่อาทิตย์เดียวและโทรครั้งเดียวมีจนท.รับสายเลย มีบ้านพักให้เลือกหลายแบบ บ้านทรงที่เป็นรูปสามเหลี่ยม ในรูป คือ บ้านเอเฟรม มี 2 ห้องนอน พักได้ 4 คนหลังละ 2,000 บาท ส่วนในรูปที่ถ่ายตอนกลางคืนคือ Caravan camp รถบ้าน พักได้ 2 คน ราคา 1,500 บาท มีแอร์ น้ำอุ่น สบู่ แชมพู ผ้าขนหนู น้ำดื่ม กาน้ำร้อน แอบเข้าไปส่องดูแล้วก็ได้บรรยากาศแปลกๆดี แต่มันแคบ ถ้าเบื่ออยู่ในรถแล้วอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศก็ต้องออกมานั่งข้างนอกบ้านทิวสน พักได้ 2 คน หลังละ 1,200 บาท เป็นบ้าน 2 ชั้น มีบันไดวน (ขั้นบันไดแคบหน่อย) หน้าต่างห้องนอนชมวิวป่าสนบ้านแฝด ระเบียงเชื่อมกัน พักได้หลังละ 2 คน ราคาหลังละ 1,000 บาท เหมาะกับคณะที่มากัน 4 คน ที่นี่ดีที่มีป้ายบอกเบอร์ติดต่อฉุกเฉินของหัวหน้าสวนป่าดอยบ่อหลวงติดไว้ที่ห้องด้วย โรงแรมป่าสน พักได้ 2 คน ห้องละ 500 บาท เราเลือกพักห้องนี้เพราะถูกสุด ระเบียงเห็นวิวป่าสนทุกห้อง มีแอร์ พัดลม น้ำอุ่น สบู่ แชมพู (แบบกดในห้องน้ำ) ผ้าขนหนู น้ำดื่ม กาน้ำร้อน ลืมถ่ายบ้านปูนเปลือย เป็นบ้าน 2 ชั้น 2 นอน 1 น้ำ พักได้ 4 คน หลังละ 2,200 บาท ตอนเย็นก็ออกมากินอาหารที่ร้านอาหารในนี้ เป็นพวกส้มตำ ราคา 50 บาท ส่วนอาหารตามสั่ง ราคาประมาณ 60-70 บาท ร้านเป็นโอเพ่นแอร์ มากินตอนเย็นยุงเยอะเหมือนกัน แต่ที่ร้านมียากันยุงแบบสเปรย์ไว้บริการพร้อมเลยตอนเช้า ถ้าจะกินอาหารเช้าบุฟเฟ่ที่นี่ ก็จ่ายเพิ่มหัว่ละ 100 บาท จะจองไว้ล่วงหน้า หรือจะวอคอินก็ได้ จะมีขนมปังปิ้ง แยม นูเทลล่า ไข่ลวก ข้าวต้มหมูเห็ดหอม น้ำผลไม้กล่อง ลองกินไข่ลวกแล้วมันดิบไปหน่อย สุกแค่ 50%กินเสร็จ ไปเดินเล่น ถ่ายรูป จนพอใจค่อยเช็คเอ๊า เดินทางต่อ น้ำพุร้อนเทพพนม แผนที่มาโซนนี้ก่อนกลับ ต้องแวะที่นี่ จากสวนป่าดอยบ่อหลวงมาที่นี่ ระยะทาง 32 กม. ใช้เวลา 32 นาที มีช่วงสุดท้ายที่ต้องออกจากถนนหลัก เลี้ยวซ้ายไป 7 กิโล ถนนเป็นหลุมบ่อและขึ้นเขาไม่ชันมาก แต่ใช้ความเร็วไม่ได้ เคยมาที่นี่แล้วประทับใจมาก ที่มีห้องอาบน้ำแร่ส่วนตัวให้ ค่าบริการ สำหรับผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท เรามาถึง 11.30น.แล้ว อาบไปจนฟิน ออกมา จนท.ไปกินข้าวกลางวันกันหมด กะเวลาไม่ดีเลยอดนวดต่อเลย ค่านวด 150 บาทต่อ ชม. หิวข้าวแล้วเลยไปต่อดีกว่า ร้านส้มตำหมูยอแม่ลิ แผนที่เป็นร้านที่อยู่บนทางผ่าน อยู่ริมถนนเลย ไม่ต้องเข้าซอย ร้านเป็นโอเพ่นแอร์ มีทั้งเมนูส้มตำ ยำต่างๆ ก๋วยจั๊บญวน ราคาไม่แพง สวนอาหารปลาสาละวิน แผนที่ตอนแรกก็อยากมากินกลางวันร้านนี้แต่อยู่ไกลไป เลยแวะกินไอติมกะทิเป็นของหวานแทน ร้านเป็นโอเพ่นแอร์ริมสระน้ำ กลับถึงตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณบ่าย 3 คราวหน้าถ้ามาซ้ำอาจจะเปลี่ยนเป็นวันแรกแวะอาบน้ำพุร้อนเทพพนมก่อนเข้าโรงแรมแล้วไม่ต้องอาบน้ำซ้ำ จะได้ให้น้ำแร่เคลือบผิวจนเช้า แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยแวะอุทยานแห่งชาติออบหลวงเครดิตภาพ: MM (ผู้เขียน)