เท้าความไปถึงครั้งก่อที่พาไปเที่ยว Nusa Lembongan หลังจากเที่ยวเกาะ Lembongan จนหนำใจแล้ว เราก็รีบแพ็คกระเป๋ามาขึ้นเรือเพื่อมาที่เกาะ Penida ทันที เกาะนี้อยู่ไม่ไกลจากเกาะบาหลีมากนัก แต่พวกเราขึ้นเรือจากบาหลีมา Lembongan 2 วันที่แล้ว แล้วหาเรือเร็วที่วิ่งตรงมา Penida จาก Lembongan ใช้เวลาประมาณ 30 นาที พอลงเรือมาเราจะเจอพี่วินมอเตอร์ไซค์เรียงรายหลายสิบคนเพื่อที่จะรับพวกเราไปโรงแรม พอต่อรองราคากันดีแล้วก็รับขึ้นไปนั่งหลังรถพี่วินทันที เราออกตัวมาถนนเลียบชายหายมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ระหว่างนั่งรถเราสามารถมองเห็นวิวของชายหาดที่ทอดยาวสวยงามและหาดทรายขาวสะอาดละเอียดไปตลอดทาง สักพักพี่วินพาเลี้ยวเข้าโรงแรมที่ติดทะเล ตกแต่งสไตล์โมร็อคกันด้วยอิฐสีแดงสุดคลาสสิคและประตูเป็นรูปโค้งสวยงามรับกับโครงสร้างอันหรูหราอบอุ่นของตัวอาคารเป็นอย่างดี พวกเราจัดการเช็คอินและเก็บกระเป๋าให้เรียบร้อยแล้วเช่ามอเตอร์ไซค์ออกเดินทางเพื่อเที่ยวชมรอบเกาะทันที จุดแรกที่เราแวะคือร้านอาหาร Ogix Warung เป็นร้านอาหารท้องถิ่นที่อยู่บนหน้าผาริมทะเล มองลงไปข้างล่างเห็นน้ำสีฟ้าครามสดใสของมหาสมุทรแปซิฟิก ตัดกับท้องฟ้าสดใสสวยงามของวันฟ้าเปิด พวกเราได้โต๊ะริมทะเลพอดี เลยได้นั่งชมวิวเต็มที่ ภาพข้างหน้าที่เราเห็นเป็นภาพของมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล และถ้าจ้องมองลงไปในน้ำใส ๆ นั้นดี ๆ เราจะเห็นฝูงปลามากมายแหวกว่ายแวะเวียนมาโชว์ความสวยงามและสมบูรณ์ของธรรมชาติ เกาะนี้มีนักท่องเที่ยวไม่มากนักเพราะอยู่ค่อนข้างไกลจากเกาะหลัก จึงทำให้ไม่มีการรบกวนและทำลายธรรมชาติมากและเป็นเหตุผลว่าทำไมความอุดมสมบูรณ์ยังมีอยู่ทุกที่บนเกาะนี้ หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว เราก็คิดสนุกขึ้นมา เลยอยากไปเที่ยวหมู่บ้านชาวประมงและขอลงเรือไปตกปลากับเขา เขายินดีให้พวกเราลงเรือไปด้วยในช่วงสาย ๆ หลังจากที่พวกเราได้ลงเรือเล็กที่นั่งได้แค่ 4 คน ออกไปกับชาวบ้านได้สักพัก คุณลุงเจ้าของเรือจึงยื่นม้วนเอ็นตกปลาพร้อมเนื้อปลาทูหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้เรานำมาเสียบกับตะขอปลายเอ็นเพื่อใช้เป็นเหยื่อล่อปลา เรายื่นเส้นเอ็นลงน้ำไปได้ไม่นานก็ได้ปลามาหลายตัว พอเงยหน้าขึ้นมาปรากฏว่าท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทา เมฆดำลอยมาอยู่ข้างบนหัวพวกเราและฝนก็เริ่มเทลงมาอย่างหนัก เรือลำน้อยของพวกเราเริ่มโคลงเคลงตามแรงซัดของคลื่นท่ามกลางพายุที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ คุณลุงรีบติดเครื่องเรือเพื่อที่จะเข้าฝั่ง แต่น้ำจากฝนที่ตกหนักก็ได้พุ่งเข้ามาจนเรือเราจมไปมากกว่าครึ่งลำแล้ว เราเลยต้องช่วยกันวิดน้ำออก พวกเรากลัวเสียงฟ้าร้องมากแต่ก็ต้องช่วยกันเพื่อที่พวกเราจะได้กลับฝั่งให้ได้ จนในที่สุดพวกเราก็กลับถึงชายฝั่งอย่างปลอดภัยแต่ทุลักทุเลมาก เรากลับมาถึงโรงแรมอย่างหมดเรี่ยวแรงและเผลอหลับไปตั้งแต่หัวค่ำ พอตื่นขึ้นมาเรากางแผนที่แล้วลองหาว่าวันนี้เราอยากทำอะไรกันดี สรุปได้ว่า เราจะไปเที่ยวและอาบแดดที่ Atuh Beach กัน ดูจากแผนที่แล้วเราน่าจะใช้เวลาสัก 20 นาทีโดยรถมอเตอร์ไซค์ เรารีบแพ็คกระเป๋าหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้วบึ่งรถไปทางทิศตะวันออกทันที เราขี่รถตาม Google Map สักพักบอกให้เราเลี้ยวซ้ายเราก็เลี้ยวตาม แต่เจอทางตัน เฮ้อ...... ถอยสิคะรออะไร พอถอยกลับมาแล้วไปเลี้ยวซ้ายอีกถนนที่อยู่ถัดไปเราก็ใจชื้นคิดว่ามาถูกทางแล้วแหละ เราขับตามป้ายบอกทางไปเรื่อย ๆ พอลึกเข้าไปสัก 2 กิโลเมตรก็ต้องอึ้งกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า เพราะมันคือบรรดาหลุมเล็กหลุมน้อยที่มีน้ำขังเต็มทั้งถนน เราจะหลุดโฟกัสกับการขี่รถไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว เพราะมันอาจทำให้เราเกิดเหตุไม่คาดฝันหรืออุบัติเหตุได้ บางส่วนของถนนนอกจากจะเป็นหลุมเป็นบ่อแล้วยังเป็นโค้งหักศอกอีก เราคิดว่าระยะทางคงไม่ไกลมากหรอก และถนนอาจดีขึ้นเรื่อย ๆ ก็ได้ถ้าเข้าไปลึก ๆ แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ตอนนี้พวกเราเริ่มมีอากาศอยากอาเจียน หมดแรง และอ่อนล้า จากการขี่รถที่ต้องโฟกัสกับถนนอย่างเคร่งเครียด เราเกือบหลุดโค้งและตกหลุมไปหลายครั้งบางทีก็ลื่นโคลนตกลงไปนอนในหลุมพร้อมกับรถ และเห็นรถหลายคันยอมแพ้และกลับออกไป และบางคันต้องหยุดกลางครันเพราโดนหินแหลมตำล้อจนยางรั่ว พวกเราจอดคุยกันว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ดี สรุปเราตัดสินใจไปต่อเพราะอยากรู้ว่าทางลำบากขนาดนี้ทำไมหลายคนเลือกจะมา จุดหมายปลายทางมันอาจสวยมาก ๆ ก็ได้ ในที่สุดพวกเราก็มาถึงจุดหมายปลายทาง แต่มันไม่ใช่ Atuh Beach น่ะสิ เพราะถนนเส้นนี้นำพวกเรามาสู่ Diamond Beach ส่วน Atuh Beach เพิ่งได้คุยกับชาวบ้าน เขาบอกว่ามันอยู่ตรงทางตันที่เราขี่เข้าไปตอนแรก ถ้าจอดรถแล้วเดินเท้าลงไปก็จะเจอ แต่เราคงไม่กลับไปแล้วแหละ Diamond Beach ก็เที่ยวได้แหละ มาจนถึงแล้วอ่ะ ลำบากด้วย สภาพตอนนี้ดูไม่ได้เลย ฮ่า ๆ ๆ แต่เรายังไม่ถึงนะ มันต้องปีนเขาไปอีกหน่อย แล้วก็ปีนลงไปที่ชายหาดอีกที ลำบากแท้ ฮ่า ๆ ๆ ขี่รถมาก็ว่าลำบากมากแล้ว ยังต้องมาปีนขึ้นเขาและลงเขาอีก เอาน่าปีนก็ปีน พอเรามาถึงยอดเขาแล้วมองลงไปที่ทะเล มันเป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อว่ามันสวยงามมากจริง ๆ สิ่งที่เราเห็นคือน้ำทะเลใสสีเขียวมรกต มีเกาะหินปูนสามเหลี่ยมงอกมาจากกลางทะเล มีหน้าผาหินรูปร่างสวยงามยื่นออกไปในน้ำ และผู้คนไม่มากนอนอาบแดดอยู่ด้านล่างหน้าผาตรงชายหาด มองดูแล้วเป็นอะไรที่ลงตัวมาก ไม่อยากเชื่อว่าเราหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย อยากจะถอดเสื้อผ้าแล้วใส่บิกินี่ลงไปเล่นน้ำอาบแดดเลย แต่แผลตอนที่รถสไลด์โคลนแล้วตกลงไม่ในหลุมยังแสบมากเลยได้แค่ชมวิว สัญญาว่ารอบหน้าไม่พลาดแน่นอน เราจะกลับมาอีกและเตรียมตัวให้พร้อมกว่านี้ ขอบคุณสำหรับรสชาติของชีวิตนะ .... Nusa Penida ภาพถ่ายโดยนักเขียน