ถ้าร้อนนักก็ต้องหลบไปพักร้อนกับทริปเที่ยวทะเลสวยๆใกล้กรุงเทพฯสักวัน เขาว่ากันว่าคนที่ไปทะเล "ไม่หนีร้อนก็หนีรัก" จริงมั้ยไม่รู้ แต่ที่รู้คือแค่อยากเที่ยว อิอิ ว่าแล้วก็ไม่รอช้าชวนชาวแก๊งค์วัยมันส์ ออกไปแว๊นซ์เที่ยวทะเลสวย ถ่ายรูปฉ่ำๆ กับ 7 พิกัดเช็คอินยอดฮิตที่เกาะสีชัง ชลบุรี มาดูกันค่ะว่าใน 1 วันจะไปเที่ยวที่ไหนกันได้บ้างเรานัดรวมตัวออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าขับรถตามเส้นทางมอเตอร์เวย์สาย7 จุดหมายคือเกาะลอย อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ท่าเรือที่จะพาเราไปเกาะสีชัง ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงนิดๆจากกรุงเทพ หาที่จอดรถให้เรียบร้อยซึ่งจอดได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ เข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยแล้วไปซื้อตั๋วขึ้นเรือกันเลย โดยจะมีเรือลำใหญ่สองชั้นให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ ระหว่างทางเราก็จะเห็นเรือลำใหญ่ขนทรายขนสินค้าลอยลำได้บรรยากาศเวณิชเมืองไทยที่สวยงามแปลกตาพิกัด : https://maps.app.goo.gl/XZxRbnk8DW2MbHfe71. ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ สักการะสิ่งศักดิ์ศูนย์รวมจิตใจของชาวเกาะสีชังเรามาถึงเกาะประมาณ 9 โมงเช้าเช่ามอเตอร์ไซค์คันละ 250 บาทพร้อมน้ำมันเต็มถังขับแว๊นซ์กันได้ทั้งวัน เริ่มต้นทริปไปไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ "ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่" อยู่บนยอดเขาคยาศิระ ห่างจากท่าเรือไปทางด้านเหนือของเกาะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ มีรถรางให้บริการขึ้นสู่ยอดเขาฟรีๆ เมื่อขึ้นไปถึงจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำในการเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์แต่ละจุดบนยอดเขา ซึ่งเจ้าพ่อเขาใหญ่นั้นเกิดจากหินงอกหินย้อยออกมามีลักษณะคล้ายใบหน้าคนจีนอยู่ในถ้ำ และดัดแปลงสร้างวิหารจีนสีแดงโดดเด่นสวยงามภายในมีทั้งเจ้าแม่กวนอิม เทพเจ้าจีนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ให้ได้กราบสักการะ และยังได้ชมวิวสวยๆจากบนวิหารแห่งนี้อีกด้วยพิกัด : https://maps.app.goo.gl/JuFXmE7ZebRQWMgEA2. จุดชมวิวช่องอิศริยาภรณ์ หรือ ช่องเขาขาด ชมวิวสวยงามของเส้นขอบฟ้าตัดกับท้องทะเลและหาดหินกว้างงดงามแปลกตาเมื่อกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล เรียกทรัพย์เข้ากระเป๋ากันเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปกันต่อที่ "จุดชมวิวช่องอิศริยาภรณ์ หรือช่องเขาขาด" ที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามที่สุดบนเกาะสีชัง มีศาลาชมวิวบนหน้าผาสูงที่สามารถมองออกไปเห็นเส้นขอบฟ้าจรดท้องทะเลสีครามที่สวยงาม ประกอบกับชายหาดที่เต็มไปด้วยก้อนหินน้อยใหญ่รูปร่างแปลกตา ด้านข้างจะมีสะพานคอนกรีตทอดยาวไปยังพลับพลาที่ประทับชมวิวของรัชกาลที่ 5 มีต้นลีลาวดีปกคลุมให้ความร่มรื่นตลอดสะพานคอนกรีตนั้น และมีทางเดินทอดยาวต่อไปจนถึงแหลมมหาวชิราวุธ และในบริเวณใกล้เคียงก็มีที่พักวิวบรรยากาศดีตั้งอยู่หลายแห่งเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสได้พักค้างคืนชมพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ก็คงจะดีมากๆเลยพิกัด : https://maps.app.goo.gl/Ch6cWYJLC9kqTXnW93. สะพานอัษฎางค์ สะพานไม้สีขาวสัญลักษณ์แห่งเกาะสีชังเมื่อท้องเริ่มหิวเลยหาร้านอาหารตามสั่งง่ายๆทานกันค่ะ แล้วไปต่อที่ "สะพานอัษฎางค์" สะพานไม้สีขาวที่สร้างจากชายหาดทอดยาวลงไปในทะเล ซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อครั้งที่พระองค์ท่านทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอัษฎางเดชาวุธฯ ที่มีอาการประชวร เพื่อใช้เป็นท่าเรือขนาดใหญ่ให้ประชาชนเดินทางได้สะดวกมากขึ้นจนได้ชื่อว่าเป็นสะพานแห่งรักปัจจุบันถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญคู่เกาะสีชัง ที่ใครมาก็ต้องมาเช็คอินถ่ายรูป เดินเล่น นั่งพักผ่อน รับลมชมวิวริมทะเล ใต้ต้นลีลาวดีที่ออกดอกเต็มต้นส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณฟีลดีมากมายค่ะพิกัด : https://maps.app.goo.gl/NH5MY25cRMkyySux54. พระราชวังพระจุฑาธุชราชฐาน แวะจิบกาแฟรับลมทะเลจากเรือนไม้สีเขียวฟีลดีมากมายจากนั้นเข้าไเดินชม "พระราชวังพระจุฑาธุชราชฐาน" ที่มีทั้งสวนลีลาวดีต้นใหญ่อายุมากกว่าร้อยปี แข่งกันออกดอกสวยงาม เรือนรับรองต่างๆในพระราชวังที่จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวในอดีต เพราะที่นี่เคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนแห่งแรกและแห่งเดียวที่ตั้งอยู่บนเกาะ เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของกษัตริย์ไทยและพระบรมวงศานุวงศ์ ปัจจุบันเปิดให้ประชนเข้าชมฟรี มีเรือนไม้ริมทะเลสีเขียวโดดเด่นที่มีชื่อว่า เรือนซาร์เลวิช หรือ เรือนขนมปังขิง เคยเป็นบ้านพักตากอากาศของชาวฮอลันดา ทำเป็นคาเฟ่เล็กๆ ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนระหว่างเที่ยวชมพระราชวัง เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ต้องไปเช็คอินแวะนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ทานอาหารว่าง ถ่ายรูปเก็บความสวยงาม มองวิวทิวทัศน์ที่สวยงามริมทะเลแบบที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนแน่นอนพิกัด : https://maps.app.goo.gl/VNkxduiuWnEk8mAKA5. พระเจดีย์อุโบสถวัดอัษฎางคนิมิต สถาปัตยกรรมแบบโกธิคหนึ่งเดียวบนเกาะเดินชมต้นลีลาวดีอายุกว่าร้อยปีที่ไร้ใบมีดอกสะพรั่งส่งกลิ่นหอมไปทั่ว เรือนไม้อื่นๆ และสระน้ำมากมายสำหรับเก็บน้ำฝน ขึ้นเขาไปเรื่อยๆจนถึง "พระเจดีย์อุโบสถวัดอัษฎางคนิมิต" ที่มีพระอุโบสถอยู่ใต้เจดีย์ทรงกลมแบบลังกา สถาปัตยกรรมแบบโกธิค มีศิลาจารึกหินปูน 8 หลักวางเรียงรายรอบองค์เจดีย์ ตั้งอยู่บนเขาสูงจนสามารถมองเห็นทัศนียภาพบริเวณพระราชฐานและภูมิทัศน์ทางทะเลที่สวยงาม อากาศดีมีลมเย็นสบายพัดผ่านตลอดเวลาพิกัด : https://maps.app.goo.gl/LXpyLjmbCDH9NMpm7 6. แหลมจักรพงษ์หรือแหลมถ้ำพัง ถ่ายรูปเช็คอินแบบชิคๆกับถ้ำทะลุเริ่มบ่ายมากแล้วเราก็มุ่งตรงไปยัง "แหลมจักรพงษ์หรือแหลมถ้ำพัง" เพื่อไปถ่ายรูปกับ ถ้ำทะลุ จุดเช็คอินสุด Unseen ของเกาะสีชัง มีทางเดินเล็กๆ ลงไปในถ้ำ เป็นจุดที่มีโขดหินรูปทรงวงรี มีช่องมองทะลุออกไปเห็นน้ำทะเลและวิวสวยงาม ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งที่จะมาถ่ายรูปอัพเดทลงโซเชียลกันรัวๆ ส่วนด้านบนก็มีโขดหินสวยๆรูปร่างแปลกตาให้ถ่ายรูปชิคๆ หรือจะนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินกันชิวๆ ฮีลใจเป็นที่สุดพิกัด : https://maps.app.goo.gl/D7H942gCE1gj18e167. หาดถ้ำพัง หรือ อ่าวอัษฎางค์ เล่นน้ำให้ฉ่ำใจบนหาดทรายแห่งเดียวบนเกาะนี้ก่อนกลับเราก็แวะไปเล่นน้ำปิดทริปให้ชื่นฉ่ำใจกันบ้างที่ "หาดถ้ำพัง หรือ อ่าวอัษฎางค์" ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะสีชังใกล้ๆกับแหลมจักรพงษ์ เป็นชายหาดกว้าง สะอาดและสวยงาม มีทรายละเอียด น้ำใสสะอาดเป็นจุดเดียวที่ลงเล่นได้บนเกาะแห่งนี้ แต่ก็ต้องเดินระวังหินตรงทางลงกันด้วยนะคะ มีที่พักและร้านอาหารให้บริการริมฝั่ง เล่นน้ำให้สดชื่นเย็นฉ่ำกันจนหนำใจแล้วก็ได้เวลากลับกันแล้ว ซึ่งเราต้องไปขึ้นเรือรอบสุดท้ายให้ทันก่อน 18.00น.ค่ะพิกัด : https://maps.app.goo.gl/WwrtJ1pTfbxZogG36ทริปเที่ยวเกาะสีชัง 1 วันได้เที่ยวสนุกสุดมันส์ เล่นน้ำเย็นสดชื่น ถ่ายรูปเยอะฉ่ำจนเมมโมรี่จะเต็ม รู้สึกคุ้มค่ามากมาย เกาะสีชังเป็นเพียงอำเภอเล็กๆในจังหวัดชลบุรีที่ตั้งอยู่บนเกาะ มีความสงบร่มรื่นไม่วุ่นวาย และที่เราชอบมากๆคือไม่ว่าจะไปที่ไหนบนเกาะสีชังเราก็จะต้องพบเห็นต้นลีลาวดีสวยๆเยอะไปหมด เป็นเกาะเล็กๆที่มีสเน่ห์น่ารักน่าชังเป็นที่สุด ถ้ามีโอกาสได้มาพักผ่อนนอนค้างที่นี่สัก 1 คืนก็คงดีไม่น้อยเลยรูปหน้าปกและภาพประกอบทั้งหมดถ่ายทำโดย Nooneeส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้