ทริปนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวประเทศลาวพร้อมกับครอบครัว ประเทศลาวเป็นประเทศที่ไปมาง่ายสะดวกสบายมีพรมแดนติดภาคอีสานมีแม่น้ำโขงกั้นพรมแดน เราได้ติดต่อนัดหมายเหมารถตู้ 1 คัน เป็นเงิน 2,500 บาท (ยังไม่รวมค่าน้ำมัน) เสร็จสรรพเรียบร้อยพร้อมออกเดินทาง เพื่อพาเราไปยังสถานที่ที่เราไม่เคยไป แต่เคยเห็นเพื่อนๆ รีวิวในเพจต่างๆ อย่างน่าสนใจ ในรุ่งเช้าอากาศแจ่มใสได้เวลานัดหมายกับรถตู้ที่สถานีปั้มน้ำมัน ปตท. ที่อยู่ไม่ห่างจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 ตามเวลาที่กำหนด 07.00 น. เพื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จังหวัดนครพนมไปยังประเทศลาว ซึ่งประเทศลาวเป็นประเทศเดียวที่เราไปแล้วพูดคุยกันรู้เรื่องมากที่สุด ไม่ต้องมีล่ามหรือเปิดกูเกิ้ลก็คุยกันรู้เรื่องได้สบาย ทริปนี้เราไปเช้าเย็นกลับ (One Day Trip) จุดหมายแรกที่เราไปถึง คือ กำแพงหินโบราณแห่งเมืองท่าแขก ทางเข้าค่อนข้างลำบาก เป็นทางแคบลงเนินเขาห่างทางถนนหลวงประมาณ 500 เมตร เราได้พบกับกำแพงหินหน้าผาสูงชัน เป็นกำแพงหินที่มีความยาวทอดไปกว่า 10 กิโลเมตร มีความสูงของชั้นหินประมาณ 7-8 ชั้น ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางจากเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ไปตามเส้นทางหมายเลข 13 ใต้ ขึ้นทางไปนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งยังไม่พบประวัติศาสตร์ที่แน่ชัดเกี่ยวกับกำแพงหินแห่งนี้ มีเพียงแต่คำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่กับนิทานปรัมปราที่บอกว่า ยักษ์เป็นผู้สร้างกำแพงหินนี้ขึ้นมา แต่นี่ถือเป็นความมหัศจรรย์ที่งดงามของธรรมชาติ จากนั้นเราเดินทางไปไหว้พระธาตุศรีโคตะบอง ซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำโขง ภายในเป็นที่เก็บอัฐิธาตุของพระยาศรีโคตะบองตามประวัติศาสตร์ที่จารึกไว้ว่า พระยาศรีโคตะบองไปปราบช้างช่วยนครเวียงจันทร์จนประสบผลสำเร็จ ผู้ครองเมืองเวียงจันทร์ขณะนั้นจึงยกเมืองให้ปกครองครึ่งหนึ่ง แต่ต่อมาภายหลังถูกวางแผนฆ่าจนตาย ชาวเมืองศรีโคตะบองจึงนำอัฐิธาตุของท่านมาบรรจุไว้ในพระธาตุแห่งนี้ โดยชาวบ้านเชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้านันทะแสนแห่งเมืองศรีโคตรบูร ต่อมาได้รับการบูรณะครั้งแรกในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช และในช่วงงานเทศกาลสงกรานต์และปีใหม่ชาวบ้านจะจัดงานวัดอย่างยิ่งใหญ่บริเวณลานวัด นอกจากนี้ภายในวิหารยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่โดยพระเจ้าอนุวงศ์เป็นผู้สร้างไว้ เอกลักษณ์อันโดดเด่นของพระธาตุแห่งนี้ คือส่วนฐานพระธาตุเป็นสีขาวและส่วนยอดเป็นสีทองเรืองรอง เราเดินทางไปยังจุดหมายสุดท้ายของวันนี้ นั่นคือ ท่าฝรั่ง วังสีคราม เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีน้ำเขียวมรกตจากแม่น้ำโดนที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง และล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนสูงตระหง่า ทำให้มีวิวธรรมชาติที่สวยงามอันเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองท่าแขก ที่นี่มีจุดถ่ายภาพสวยๆ กับบรรยากาศโอบล้อมด้วยภูเขาที่งดงาม ไม่ว่าจะอยู่ที่ท่าบนฝั่งมีชิงช้าให้นั่งเล่นชมวิว หรือสะพานสีแดงที่เป็นจุดเด่นของท่าฝรั่งแห่งนี้ ซึ่งใครมาถึงต้องได้ถ่ายรูปอัปเดตสเตตัสกันอย่างแน่นอน พอมาถึงก็รู้สึกหิวกันแล้ว เราจึงสั่งอาหารมากินบนแพ เมนูอาหารก็ไม่ต่างจากเมืองไทย มีทั้งส้มตำ ไก่ย่าง ปลาเผา หรือผัด ต้ม ทอด สั่งได้ตามใจชอบ พออิ่มท้องนั่งพักสักประเดี๋ยว จากนั้นก็ถึงเวลาเล่นน้ำคลายร้อนกับน้ำสีครามที่ไหลออกมาจากภูเขาหินปูน มีเสื้อชูชีพและเรือพายัคให้เช่าพายเล่นชมวิวได้อีกด้วย ซึ่งตามคำบอกเล่าที่ได้ชื่อว่า ท่าฝรั่งนั้นมีประวัติศาสตร์ในสมัยฝรั่งเศสปกครองอินโดจีน เจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสได้ลำเลียงเสบียงมาตามลำน้ำโดน และทหารฝรั่งเศสได้บังคับคนลาวให้ขนของขึ้นบริเวณท่าน้ำนี้ ชาวลาวจึงเรียกที่นี่ว่า "ท่าฝรั่ง" ปัจจุบันได้อนุญาตให้บริษัทเอกชนทำสัมปทานบริหารการท่องเที่ยวสัญญาระยะยาวเป็นเวลา 50 ปี และเปิดบริการเมื่อปลายปี พ.ศ.2561 ที่ผ่านมา หากผู้อ่านกำลังมองหาทริปเที่ยวลาวสักทริป ผมขอแนะนำทริปเที่ยวลาวม่วนซื่น (เที่ยวสนุก) แบบไปเช้าเย็นกลับ ได้ทำบุญไหว้พระ ชมธรรมชาติ เล่นน้ำ หรือนั่งกินข้าวชมน้ำใสไหลเย็น อีกทั้งยังได้ชมวิวริมสองฝั่งถนนที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวสายรักธรรมชาติเช่นเรา และการเดินทางไปมาง่ายสะดวกมีรถตู้รถเช่าพาข้ามแดนอยู่หลายบริษัทราคาไม่แพงอีกด้วย ท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกคน จงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลังสถานการณ์โควิด19 ปลอดภัยหายกังวัลแล้วไปเที่ยวสนุกกันใหม่อีกครั้งนะครับ 📝 เรื่องและภาพโดยผู้เขียน