หากจะกล่าวถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประจำบ้านแล้ว โดยหลักคือเจ้าที่เจ้าทาง ซึ่งแต่ละบ้านอาจจะจัดตั้งเป็นศาลพระภูมิ หรือตี่จู้เอี๊ย แต่อีกอย่างที่อาจจะจุดเป็นจุดเล็ก ๆ แต่ก็ถือว่ามีไว้ดีกว่าขาดคือทวารบาล หรือผู้รักษาประตูที่จะคอยดูแลให้บ้านเป็นสุข ป้องกันผู้อยู่อาศัยจากสิ่งชั่วร้าย คุณไสย วิญาณเร่ร่อนที่ติดตามมา หรือมนตร์ดำต่าง ๆโดยหลักแล้วทวารบาลหรือผู้รักษาประตูนั้นมีมาแต่โบราณและหลากหลายรูปแบบตามแต่ละภูมิภาคของโลก โดยทางไทยมักจะเป็นลักษณะของยักษ์ หรือเทพที่อยู่ตามประตูวัด ส่วนตามบ้านเรือนปัจจุบันมักจะคุ้นชินในรูปแบบของที่ปักธูปซ้ายขวาริมประตูบ้านในแบบจีนมากกว่า และที่ปักธูปนี้จะเป็นทวารบาลที่ขอแนะนำในที่นี้ ซึ่งเรียกว่า หมึ่งซิ้ง (门神) ตามสำเนียงแต่จิ๋ว โดยหากเป็นสถานที่ใหญ่ ๆ เช่น ศาลเจ้า หรือวัด ก็จะเป็นรูปปั้นหรือภาพจิตรกรรมบนบานประตู ซึ่งหมึ่งซิ้งนี้ถือว่าปกป้องบ้านจากสิ่งชั่วร้ายไว้เป็นด่านแรก บางครั้งที่บ้านมีปัญหาภายในบ่อย ๆ อาจจะเพราะจากสิ่งไม่ดี สิ่งอาถรรพ์ ฯลฯ ที่เกินกำลังของเจ้าที่ก็ได้ หากมีทวารบาลผ่อนอีกแรงก็จะช่วยเสริมกำลังเจ้าที่ไว้ได้สำหรับประวัติโดยสังเขปของทวารบาลที่บูชาในไทยแบบจุดธูปหน้าประตูที่ได้รับอิทธิพลจากชาวจีนที่อพยพมานั้น อ้างอิงจาก ไซอิ๋ว ในตอนต้น ซึ่งมีเรื่องราวดังนี้ในสมัยของพระเจ้าถังไท้จงฮ่องเต้ ซึ่งมีพญาเล่งอ๋องเป็นผู้รับผิดชอบการให้ฝน ครั้งหนึ่งโหรในวังนามว่า จีนแสอวนซิ้วเซ้ง ได้ถูกยกย่องว่าสามารถหยั่งรู้อนาคตได้อย่างตาเห็น พญาเล่งอ๋องคิดอยากลองภูมิ จึงแปลงตัวเป็นมนุษย์ไปถามจีนแสอวนซิ้วเซ้งถึงฝนที่จะตกในคราวต่อไป ซึ่งจีนแสอวนซิ้วเซ้งก็ตอบได้ดุจตาเห็นตามตารางที่พญาเล่งอ๋องจะต้องให้ฝนจริง ๆ ดังนั้นต่อมาพญาเล่งอ๋องจึงแกล้งทำให้ฝนตกคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามเวลาเพื่อหักหน้าจีนแสอวนซิ้วเซ้งแต่ผลจากฝนตกคลาดเคลื่อนนี้ทำให้มนุษย์เดือดร้อนมากเพราะเกิดเป็นอุทกภัยตามมา เรื่องร้อนถึงองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ พระองค์จึงตัดสินความผิดพญาเล่งอ๋องด้วยการประหาร ระหว่างรอการประหารนี้พญาเล่งอ๋องจึงต้องดิ้นรนให้ตนพ้นจากความตาย ซึ่งได้สืบทราบว่าเพชฌฆาตที่จะลงทัณฑ์ตนนั้นคือ งุยเต็ง ซึ่งงุยเต็งนี้มีชีวิตเป็น 2 ภาค โดยแบ่งเป็น ภาคมนุษย์ เป็นขุนนางอยู่กับพระเจ้าถังไท่จงฮ่องเต้ และภาคสวรรค์ เป็นเพชฌฆาตขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้เมื่อทราบดังนี้ พญาเล่งอ๋องจึงรุดไปเข้าฝันพระเจ้าถังไท่จงฮ่องเต้ ขอช่วยอ้อนวอนไม่ให้งุยเต็งประหารตน ซึ่งพระเจ้าถังไท่จงฯ ก็รับปาก โดยคิดวิธีไว้คือในคืนวันประหารนั้น พระองค์จะชวนงุยเต็งเล่นหมากรุกให้ถึงเช้า เพื่อไม่ให้งุยเต็งหลับและถอดจิตไปประหารพญาเล่งอ๋องได้ซึ่งเมื่อถึงเวลาจริงงุยเต็งเกิดเผลอหลับเป็นระยะ ๆ และครั้งหนึ่งได้ละเมอคำว่า ซัว (ฆ่า) ออกมา พระเจ้าถังไท่จงฯ จึงตรัสถามขึ้นว่าเมื่อกี้ท่านว่ากระไร งุยเต็งจึงเล่าเรื่องของการประหารพญาเล่งอ๋องให้พระเจ้าถังไท่จงฯ ฟัง ซึ่งพระเจ้าถังไท่จงฯ จึงรู้ทันทีว่าการประหารได้ผ่านพ้นไปแล้ว ทำให้พระองค์ผิดหวังที่ไม่อาจรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพญาเล่งอ๋องได้จากสาเหตุนี้ทำให้พญาเล่งอ๋องโกรธแค้นพระเจ้าถังไท่จงฯ มาก จึงกลายเป็นวิญญาณมาหลอกหลอนพระเจ้าถังไท่จงฯ ในเวลากลางคืนจนพระองค์ไม่เป็นอันหลับอันนอน และมีสุขภาพทรุดโทรมลง ซึ่งระหว่างนั้นเองได้มีทหารเอกสองคนคือ อวยซีจง และ ซินซกโป้ ได้รับอาสาคอยเฝ้าประตูห้องบรรทมด้านซ้ายและขวาเพื่อไม่ให้พญาเล่งอ๋องมาก่อกวนพระองค์ได้ ซึ่งทำให้พระเจ้าถังไท่จงฯ บรรทมเป็นปกติเรื่อยมา แต่ว่าเมื่อหลายวันเข้าทั้ง อวยซีจง และ ซินซกโป้ ก็ไม่สามารถอดหลับอดนอนทุกวันได้ เพราะต้องรับราชการในช่วงกลางวันด้วย ที่สุดพระเจ้าถังไท่จงฯ จึงมีความคิดขึ้น โดยขอให้ช่างฝีมือเขียนภาพทหารทั้งคู่ไว้ที่ประตูขนาดเท่าตัวจริง และหลังจากนั้นเป็นต้นมาวิญญาณของพญาเล่งอ๋องก็ไม่มารบกวนอีกเลยเรื่องราวดังกล่าวจึงเป็นที่มาของทวารบาลที่ใช้ปักธูปหน้าบ้าน เพื่อให้เทพประตูคุ้มครองดูแลคนในบ้านจากสิ่งชั่วร้ายและภูตผีมนตร์ดำต่าง ๆ ด้วยประการนี้แล้วหากบ้านใดสะดวกก็ขอแนะนำให้ติด หมึ่งซิ้ง ไว้ที่หน้าประตูบ้านด้านซ้ายและขวาเพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามาในบ้านได้ก็จะเป็นการดีสำหรับการบูชานั้น ทวารบาล ถือเป็นวิญญาณ หรือเทพในระดับล่าง ที่คอยปกป้องสถานที่ ซึ่งการบูชาครั้งแรกให้ทำการติดตั้งที่ปักธูปและตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้วิญญาณเจ้าที่เจ้าทาง หรือเทพในบริเวณดังกล่าว ปกปักรักษาบ้านของเราได้เลย สำหรับการบูชาครั้งต่อ ๆ ไป ให้จุดธูปปักข้างละดอก โดยปักที่ข้างซ้ายก่อน (หันหน้าเข้าบ้าน) และจะปักธูปเป็นที่สุดท้ายของบ้านเสมอ ซึ่งในการจุดธูปบูชาทวารบาลนี้เป็นไปตามวาระที่ปฏิบัติ เช่น บูชาศาลพระภูมิทุกวันก็จุดทุกวัน หรือถ้าเฉพาะวันพระก็จุดแต่เพียงวันพระ สุดแท้แต่ธรรมเนียมของบ้านท่านที่เคยทำมาสำหรับอานุภาพของทวารบาลนั้น มีเพื่อป้องกันภูตผี หรืออาถรรพ์ ที่ติดตามคนในบ้านมา ป้องกันคนในบ้านจากคุณไสย หรือลมเพลมพัดที่ต้องการเข้ามาในบ้าน รวมถึงป้องกันวิญญาณเร่ร่อนต่าง ๆ ก่อนที่จะเข้าไปพบกับเจ้าที่อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งหากสิ่งนั้นมีกำลังมากก็ย่อมจะสามารถป้องกันได้ดีกว่าเจ้าที่เพียงอย่างเดียวติดกล้องวงจรปิดดูแลบ้านในทางโลกแล้ว มีทวารบาลรักษาบ้านไว้อีกชั้น อุ่นใจขึ้นอนึ่ง สำหรับผู้ที่อยู่ในบ้านหลังใหญ่ขนาดคฤหาสน์, บ้านมีที่เปิดโล่งเนื้อที่เป็นไร่ หรือคอนโดฯ ตึกสูงต่าง ๆ ปกติแล้วจะไม่บูชาทวารบาลในแบบหมึ่งซิ้งที่ปักธูปซ้ายขวา แต่จะเป็นระดับองค์เทพที่สูงกว่า ตามแต่แต่ละที่ที่เคารพบูชา เช่น พระพรหม, เทพนาจา ฯลฯ ซึ่งถือเป็นการบูชาร่วมกันของทุกคนในพื้นที่นั้น ๆ แทนขอบคุณภาพประกอบภาพปก - ผู้เขียนภาพที่ 1 wikimedia - Nawit scienceภาพที่ 2 unsplash - JuniperPhotonภาพที่ 3 ผู้เขียน - ไซอิ๋ว ฉบับองค์การค้าของคุรุสภาภาพที่ 4 อาศรมสยาม - จีนวิทยา - จดหมายข่าวฉบับเดือนเมษายน 2558ภาพที่ 5 ผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !