ถ้านึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวในฤดูร้อน คงหนีไม่พ้นการไปเที่ยวทะเล น้ำทะเลสีฟ้าหาดทรายสีขาวกับแดดร้อน ๆ ที่ส่องลงมาทำให้น้ำทะเลเป็นประกาย ช่างเป็นภาพที่สวยงามเหมาะแก่การไปพักผ่อนยิ่งนัก หลายคน (ซึ่งรวมเราด้วย) คงทำได้แต่นั่งนึกภาพเหล่านั้นเพราะวันลาพักร้อนที่มีอันน้อยนิดช่างไม่เอื้ออำนวยให้ได้ไปพักร้อนจริง ๆ จัง ๆ เสียที แต่อย่าเพิ่งหมดหวังไป เพราะหลังจากการหาข้อมูลสถานที่ที่สามารถไปเที่ยวได้ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เราก็เจอเกาะหลายเกาะแถวชลบุรี จังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เท่าไหร่นัก ดังนั้นทริปแรกที่เราเลือกก็คือ “เกาะสีชัง” เช้าวันเสาร์เราขับรถออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปท่าเรือเกาะลอย ที่นี่มีบริการเรือโดยสารข้ามไปยังเกาะสีชังซึ่งจะออกทุก ๆ ชั่วโมง เราจอดรถทิ้งไว้ที่เกาะลอย 1 คืนและโดยสารเรือไป นั่งชมวิวมองเรือสินค้าและรับลมได้ราว ๆ 30 นาที ก็เห็นประภาคาร นั่นทำให้เรารู้ว่าเราถึงเกาะสีชังแล้ว เมื่อขึ้นจากเรือข้างทางจะมีรถมอเตอร์ไซต์จอดเรียงรายอยู่เพื่อให้เช่า เราตัดสินใจเช่ามอเตอร์ไซต์เพื่อไว้ขี่เที่ยวรอบเกาะและขี่ไปยังที่พักเป็นอันดับแรก ที่พักที่เราจองเป็นที่พักที่อยู่บนเขาห่างจากท่าเรือพอประมาณ เราเลือกที่พักที่นี่เพราะห้องพักที่นั่นสามารถมองเห็นวิวทะเล ทางที่พักแจกโบชัวร์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวรอบเกาะ นั่นช่วยให้เราวางแผนและไปตามสถานที่ที่แนะนำให้ไปได้จนครบ วันแรกสถานที่แรกเริ่มจากการหาอะไรรับประทานก่อน มาทะเลก็ต้องกินอาหารทะเลซิ จัดไป...เย็นตาโฟทะเลกับโค้กเย็น ๆ ชื่นใจ จากนั้นเราก็ไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่เพื่อรับสิ่งมงคลและขอให้ทริปนี้แคล้วคลาดปลอดภัย จากนั้นมุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน ที่นั่นจะมีมัคคุเทศน์น้อยคอยให้บริการพาชมวังอยู่ ค่าจ้างไม่แพงเลยแล้วแต่สินน้ำใจที่เราจะให้ เดินไปสักระยะจากปากทางจะเจอจุดไฮไลต์ของเกาะสีชังที่ใครมาก็ต้องถ่ายรูป นั่นก็คือ สะพานอัษฎางค์ เดินเลยไปหน่อยจะมีเก้าอี้ไม้สำหรับนั่งชมทะเลและต้นลีลาวดี เหมาะแก่การถ่ายรูปเก็บเอาไว้มากเมื่อใกล้พระอาทิตย์ตกจุดที่ควรไปคือ ช่องเขาขาด เพื่อถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกย้อนแสงแบบเก๋ ๆ เมื่อถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกจนชื่นใจแล้วก็ได้เวลาหาอะไรรองท้อง ขี่มอเตอร์ไซต์ไปเรื่อย ๆ ก็เจอร้านนึงเป็นร้านขายข้าวต้มปลา ข้าวต้มปลาร้อน ๆ ไม่คาว น้ำซุปต้มจากปลาเข้มข้น ถือว่าเป็นข้าวต้มปลาที่อร่อยที่สุดที่เคยกินมาเลย จึงจัดไปคนละสองชาม จากนั้นเราก็กลับมาที่พักเพื่อพักผ่อน เมื่อนอนพักทั้งคืนจนเต็มอิ่มแล้ว รุ่งขึ้นได้รับประทานอาหารเช้าจากที่พักพร้อมดูวิวทะเล ทำให้อาหารอร่อยขึ้นไปอีกหลายเท่า วันนี้เราจะเริ่มทริปด้วยการไปสักการะรอยพระพุทธบาท ที่นั่นอยู่บนเขาสูง สามารถมองเห็นเกาะสีชังได้รอบ ๆ จากนั้นไปวัดพระเหลือง ถ้ำจักรพงษ์ ต่อด้วยหาดถ้ำพัง (อ่าวอัษฎางค์) และจุดสุดท้ายที่ไปก่อนกลับนั่นก็คือ แหลมงู เป็นจุดชมวิวที่สวยอากาศก็ดี และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องกลับบ้าน เราขนของแล้วก็ขี่มอเตอร์ไซต์มาจอดคืนที่ท่าเรือและลงเรือโดยสารกลับไปยังเกาะลอย โบกมือลาเกาะสีชัง เกาะที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เราประทับใจมาก ที่นี่คนไม่พลุกพล่านมากนัก ยังคงมีธรรมชาติให้ได้สัมผัส มีของกินอร่อย ๆ และหาง่าย ที่สำคัญคนที่นี่ใจดีมาก จอดมอเตอร์ไซต์เสียบกุญแจค้างไว้ก็ไม่มีใครมาขโมยไป โดยรวมแล้วการมาท่องเที่ยวที่นี่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการเติมพลังใจให้สดชื่นขึ้นเพื่อพร้อมกลับไปทำงานต่อได้อย่างเต็มที่ รูปภาพทั้งหมดโดย TAS.