ทัศนาปักษา ตอนที่ ๑ : เที่ยวทิพย์ - ดูนก - ส่องนก ณ ทะเลน้อย ทะเลสาบน้ำจืด ตำบลพนางตุงและตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุงโดย นายสัณหวัช รามพูล (ขนุน) - นามปากกาและนามช่างภาพ : สัณห์ส่องไพร ต.อ. ๗๙เตรียมอุดมศึกษา รุ่นที่ ๗๙โบราณคดีรุ่นที่ ๖๕ ศิลปากรรุ่นที่ ๗๖สาขาวิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ วันนี้ ผมจะมานำชม เพื่อพาทุกคนไปส่องนก - ดูนกที่สวยงามในทะเลสาบน้ำจืด นามว่า "ทะเลน้อย" กันครับ ดังนั้น เรามาทำความรู้จักกับทะเลน้อยกันก่อนนะครับทะเลน้อย หรือ "อุทยานนกน้ำทะเลน้อย" ตั้งอยู่ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ตำบลพนางตุงและตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง นับเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญของประเทศไทย เนื่องจากได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น "พื้นที่ชุ่มน้ำโลก" ตามอนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) เป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยทะเลน้อยมีพื้นที่ครอบคลุม ๓ จังหวัด ได้แก่ พัทลุง นครศรีธรรมราช และสงขลา ทะเลน้อยเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่อยู่เหนือทะเลสาบสงขลา โดยมี "คลองนางเรียม" เชื่อมต่อทะเลน้อยกับทะเลหลวง ซึ่งเป็นทะเลสาบสงขลาตอนบน ภายในทะเลน้อยมีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์อันสำคัญ คือ "พรุควนขี้เสี้ยน" ซึ่งเป็นแหล่งทำรังวางไข่ของบรรดานกน้ำทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพ โดย "พรุควนขี้เสี้ยน" จัดเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ (Ramsar Site) ลำดับที่ ๙๔๘ นอกจากนี้ภายในทะเลน้อยยังอุดมไปด้วยป่าไม้หลากหลายประเภท ได้แก่ ป่าพรุ ป่าเสม็ด ป่าบึงน้ำจืด และป่าดิบชื้น ครับ ภาพที่ ๑ สัณห์ส่องไพร ต.อ. ๗๙ หน้าป้ายศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าทะเลน้อย ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุงที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - เจ้าของภาพ ครั้นยามรุ่งมุ่งท่องล่องเรือเที่ยว เข้าป่าเขียวเดียวเด่นเล่นแสงใสงามขจีพงพีพรุป่าไทย ขจรไกลทะเลน้อยแรมซาร์แดนอุดมบัวทั่วถิ่นระบิลขาน ยามแย้มบานสราญรื่นชื่นสุดแสนชมพูแดงแสงเด่นเล่นทั่วแคว้น ดั่งเมืองแมนแถนมอบให้พาราหมู่บัวสายผายบานสราญโรจน์ เปรมปราโมทย์โลดเล่นเต้นพฤกษาอยู่เกลื่อนกล่นพ้นแดนแคว้นธารา ประดับตาสาโรชทั่วโยชน์บึง ต่อไป เราเริ่มเดินทางไปเที่ยวทิพย์ - ดูนก - ส่องนกที่ทะเลน้อยกันได้เลยครับ เมื่อเราเดินทางมาถึงหน้าป้ายที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ผู้อ่านหรือผู้ชมที่น่ารักทุกท่านก็เลี้ยวซ้ายไปจนถึงหน้าป้ายศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าทะเลน้อย หลังจากนั้นทุกท่านก็เดินไปทางขวา เพื่อเดินตรงไปยังท่าเรือนำเที่ยว - เรือรับจ้าง - เรือหางยาว เพื่อลงเรือแล้ว พวกเราก็ล่องเรือไปส่องนก - ดูนกแห่งทะเลน้อยได้เลยครับ ถ้าอย่างนั้น เรามาเริ่มมาเริ่มต้นกันกับนกอีโก้งเลยครับ นกอีโก้งซึ่งเป็นนกที่ผมเห็นในธรรมชาติเป็นลำดับที่ ๔ ครับภาพที่ ๒ นกอีโก้ง (Purple Swamphen / Purple Gallinue)ที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ นกอีโก้งตัวเล็กหัวแดงชาด สวยสะอาดสีน้ำเงินเด่นสดใสหาอาหารจิกหาเหยื่อไม่หนีไป ตัวเท่าไก่ตามบ้านงามกายาร้องคร้ากคร้ากเสียงแหบดังเจ้าไก่น้ำ สีไม่คล้ำอยู่น่ารักเมื่อก้าวขาฟ้าอมม่วงหงอนสีแดงเด่นดวงตา สกุณาวิ่งเล่นทั่วชลาลัย ภาพที่ ๓ นกอีโก้ง (Purple Swamphen / Purple Gallinue)ที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ นกอีโก้ง นกอีโก้งมีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษว่า Purple Swamphen (Purple Gallinue) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Porphyrio porphyrio (Linnaeus, 1768) จัดอยู่ในอันดับนกกระเรียนและนกอัญชันและวงศ์นกอัญชัน นับว่าเป็นนกที่มีสีสันสดใสมาก ดูแล้วสบายตา ขนบนส่วนหน้าของหัวมีสีแดงตัดกับขนสีน้ำเงินบนลำตัวได้อย่างลงตัว ประกอบเข้ากับพืชน้ำสีเขียวที่อยู่รายรอบแล้ว ช่างดูเป็นบรรยากาศที่ทำให้หลงเสน่ห์ธรรมชาติที่สะอาดบริสุทธิ์ คือ ตัวตนที่ไร้สิ่งเจือปนอย่างแท้จริงภาพที่ ๔ นกอีโก้ง (Purple Swamphen / Purple Gallinue)ที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ ต่อมาเป็นนกพริกนะครับ นกพริกเป็นนกที่ผมเห็นในธรรมชาติเป็นลำดับที่ ๓๑ ครับภาพที่ ๕ นกพริก ที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ นกพริกนกพริกมีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษว่า Bronze - winged Jacana ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Metopidius indicus (Latham) 1790. และจัดอยู่ในวงศ์นกอีแจว สีสันสวยงามไปอีกแบบในโทนสีดำ สีขนของลำคอเป็นสีดำตัดกับสีขนปีกและลำตัวเป็นสีเหลืองโทนแบบ Cookie Brown และแต้มสีแดงที่ส่วนหน้าของหัวสักหน่อย ได้นกน้ำสีโทนมืดที่มีความสวยงามอย่างลงตัว ต่อมานกที่ผมเห็นและถ่ายภาพได้ คือ นกกระสาแดง นกกระสาแดงเป็นนกที่ผมเห็นในธรรมชาติเป็นลำดับที่ ๓๖ ครับ ภาพที่ ๖ นกกระสาแดงที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ นกกระสาแดงนกกระสาแดงมีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษว่า Purple Heron ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Ardea purpurea จัดอยู่ในวงศ์นกยางและสกุลนกกระสา นับว่าเป็นนกที่มีรูปร่างสวยงามที่ลำคอคล้ายกับรูปตัวเอส (S) ในภาษาอังกฤษ สีขนม่วงแดงสมกับชื่อสามัญในภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ รวมถึงชื่อวิทยาศาสตร์ในภาษาละตินที่ว่า "purpurea" เมื่อเห็นนกกระสาแดงแล้ว มักนึกถึงนกกระสาที่เป็นตัวละครในนิทานอีสปเลยนะครับ อย่างเช่น เรื่อง กบเลือกนาย ครับ กระสาแดงแหล่งนี้สีสง่า งามกายาทาน้ำตาลปานวาดเขียนเที่ยวท้องทุ่งรุ่งหากินบินวนเวียน ตามที่เตียนเพียรหาภักษากายอยู่ที่นี้เคยชินถิ่นที่อยู่ สำอางดูหมู่เจ้าเนาเหลือหลายผ่านพ้นไปให้เห็นเป็นมากมาย มิวอดวายหายมอดวอดเผ่าวงศ์เวลาบินผินคองอรูปเอส งามพิเชฐเขตแคว้นแดนสูงส่ง คิดดูเล่นเห็นคล้ายกายภุชงค์ คดเคี้ยววงลงเลี้ยวเกี่ยวงามงอนลุยน้ำตื้นลื่นเท้าเจ้าปากแหลม คอยสอดแนมแย้มตาภักษาสลอนยืนแน่นิ่งประวิงมองจ้องคอยช้อน มัจฉานอนนิ่งใจให้วายปราณ ภาพที่ ๗ นกกระสาแดง ที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ ผ่านท้องทุ่งมุ่งมาป่าเสม็ด สุขสำเร็จเตร็ดเที่ยวเกี่ยวสมานทั้งพ่อแม่พี่น้องผองวงศ์วาน กิจสราญย่านพนาพฤกษ์ไพรทัศนาต้นยาวสกาวเด่น สำอางเช่นต้นขานารีไหนพงพุ่มเขียวเหลียวเห็นชัดแต่ไกล วารีไพรให้ร่มชมชื่นตา ล่องเรือลอยคอยเฝ้าเจ้าปักษี ทั่วธาตรีที่นี้ดีมากหนาบรรยากาศสาดแสงแหล่งชีวา ให้เภตราหายล้าลงมากครัน เห็นพืชกกรกร้างหว่างท้องที่ ให้ชีวีปลาหอยคอยสุขสันต์ประโยชน์มากหลากหลายสารพัน ดั่งร่มกั้นยันแสงพระสุริยา ต่อมาผมเห็นและถ่ายภาพนกเป็ดคับแคได้ ซึ่งเป็นนกที่พบในธรรมชาติเป็นลำดับที่ ๓๘ ของผมครับภาพที่ ๘ นกเป็ดคับแค ที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ เป็ดคับแคเป็ดคับแคมีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษว่า Cotton Pygmy - goose ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Nettapus coromandelianus และจัดอยู่ในวงศ์เป็ดและห่าน นับว่าเป็นเป็ดตัวเล็กน่ารักตัวหนึ่ง ขนสีขาวนวล เห็นแล้วดูน่าเอ็นดูภาพที่ ๙ เป็ดคับแคในดงสาหร่ายข้าวเหนียว ณ ทะเลน้อยที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ ประมวลภาพนกเป็ดคับแคที่ทะเลน้อยครับ ภาพที่ ๑๐ - ๑๑ นกเป็ดคับแค ที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ เมื่อพวกเรามองดูทิวทัศน์รอบ ๆ อาณาบริเวณทะเลน้อย พวกเราจะเห็นต้นตาลโตนดแห่งทะเลน้อยคู่กับเขาอกทะลุ สัญลักษณ์ของเมืองพัทลุง โดยคำว่า "โตนด" มาจากคำว่า ត្នោត (ตโนว์ด) ในภาษาเขมรครับ ทิวทัศน์ดูสวยงามและสบายตา แสดงถึงความเป็นเมืองพัทลุงได้อย่างลงตัว ที่กล่าวกันว่าเป็นเมือง "เขา ป่า นา เล" ครับภาพที่ ๑๒ ต้นตาลโตนดแห่งทะเลน้อยคู่กับเขาอกทะลุ ที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ ต่อมานกที่ผมเห็นและถ่ายภาพได้ คือ เป็ดแดง เป็ดแดงเป็นนกที่ผมเห็นในธรรมชาติเป็นลำดับที่ ๗๙ ครับ เป็ดแดง เป็ดแดงมีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษว่า Lesser Whistling - duck และชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Dendrocygna javanica ขนทั้งตัวมีสีแดงสมกับชื่อ ตัวเล็กน่ารัก อ้วนตุ้ยนุ้ย น่ากอดๆ เป็ดแดงเป็นเป็ดที่คนทั่วไปรู้จักกันว่า "นกเป็ดน้ำ" ครับ ภาพที่ ๑๓ เป็ดแดงที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ ต่อมานกที่ผมเห็นและถ่ายภาพได้ คือ เหยี่ยวแดง เหยี่ยวแดงเป็นนกที่ผมเห็นในธรรมชาติเป็นลำดับที่ ๘๐ ครับ เหยี่ยวแดงภาพที่ ๑๔ เหยี่ยวแดงที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ เหยี่ยวแดงเหยี่ยวแดงมีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษว่า Brahminy Kite ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Haliastur indus เหยี่ยวแดงดูองอาจ ปีกทั้งข้างกางเด่นสง่าผ่าเผย ต่อมานกที่ผมเห็นและถ่ายภาพได้ คือ นกอีล้ำ นกอีล้ำเป็นนกที่ผมเห็นในธรรมชาติเป็นลำดับที่ ๙๕ ครับ นกอีล้ำภาพที่ ๑๕ นกอีล้ำที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ นกอีล้ำนกอีล้ำมีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษว่า Common Moor hen และชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Gallinula chloropus (Linnaeus, 1758) นกน้ำตัวอ้วนเล็ก น่ารัก ดูตุ้ยนุ้ย ขนลำตัวสีดำตัดกับขนส่วนหน้าของหัวที่เป็นสีแดงได้อย่างสวยงาม ต่อมานกที่ผมเห็นและถ่ายภาพได้ คือ นกอีแจว นกอีแจวเป็นนกที่ผมเห็นในธรรมชาติเป็นลำดับที่ ๑๐๗ ครับ นกอีแจวภาพที่ ๑๖ นกอีแจวที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ นกอีแจวนกอีแจวมีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษว่า Pheasant - tailed Jacana ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Hydrophasianus และจัดอยู่ในวงศ์นกอีแจว นกอีแจวจัดได้เป็นนกน้ำที่สวยงามเป็นอย่างมาก จนได้ชื่อว่า "ราชินีแห่งนกน้ำ" รูปร่างปราดเปรียว ขนสีขาวตัดกับขนสีน้ำตาลและสีเหลือง ดูแล้วสวยงามอย่างลงตัว ต่อมานกที่ผมเห็นและถ่ายภาพได้ คือ เหยี่ยวออสเปร เหยี่ยวออสเปรเป็นนกที่ผมเห็นในธรรมชาติเป็นลำดับที่ ๑๑๓ ครับ นกใหม่ของผมอีกหนึ่งชนิด คือ เจ้าออสเปร!!! แห่งทะเลน้อย ภาพที่ ๑๗ เหยี่ยวออสเปรที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ เหยี่ยวออสเปรเหยี่ยวออสเปรมีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษว่า Western Osprey ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Pandion haliaetus และจัดอยู่ในวงศ์เหยี่ยวออสเปร ปีกทั้งสองกางร่อนอย่างองอาจสง่าผ่าเผยมากครับ ภาพที่ ๑๘ - ๑๙ นักท่องเที่ยวที่มาล่องเรือดูนก - ชมบัว ที่ทะเลน้อยที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ สุดท้ายแล้ว นกที่ผมเห็นและถ่ายภาพได้ คือ นกช้อนหอยขาวหรือนกกุลา นกช้อนหอยขาวหรือนกกุลาเป็นนกที่ผมเห็นในธรรมชาติเป็นลำดับที่ ๑๑๙ ครับ นกช้อนหอยขาวหรือนกกุลาภาพที่ ๒๐ นกช้อนหอยขาวที่มาของภาพ : นายสัณหวัช รามพูล (สัณห์ส่องไพร ต.อ.๗๙) - ผู้บันทึกภาพและเจ้าของภาพ นกช้อนหอยขาวหรือนกกุลานกช้อนหอยขาวหรือนกกุลามีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษว่า Black - headed Ibis ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Threskiornis melanocephalus และจัดอยู่ในวงศ์นกช้อนหอย จัดเป็นนกน้ำอีกหนึ่งที่มีขนขาวนวลสวยงามสะอาดตา เห็นแล้วนึกถึงสำลีสีขาวเลยครับ ประกอบกับตั้งแต่หัวจนถึงคอเป็นสีดำและความยาวโค้งงอนที่มีปลายแหลมของจะงอยปากที่สวยงาม หมายเหตุ ภาพทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียนและเป็นของผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !