ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักตัวไวรัสโควิด-19 กันก่อนดีกว่า Coronaviruses ที่เป็นตัวการก่อโรคโควิด-19 ได้ชื่อนี้มาจากลักษณะหนามบนผิวของตัวไวรัสที่มีหน้าตาเหมือนมงกุฎทั่วผิว ซึ่งคำว่ามงกุฎในภาษาละตินคือคำว่า Corona ก็เลยได้ชื่อ Coronavirus คือไวรัสที่มีมงกุฎนั่นเอง ซึ่งเจ้าหนามเนี่ยสำคัญมากๆสำหรับการผลิตวัคซีนที่เรากำลังจะพูดถึง คือวัคซีน mRNA แล้วไอ้เจ้า mRNA เนี่ย มันคืออะไรนะ คล้ายๆ DNA มั้ย เห็นชื่อคล้ายๆกัน คำตอบคือ เป็นคนละอย่างกันค่ะ mRNA เป็นกรดที่สำคัญมากๆทางพันธุกรรม หน้าที่ของ mRNA คือการเป็นครูสอนวิชาการผลิตโปรตีนให้กับร่างกายของเรา ส่วน DNA คือชื่อของกรดที่ทำหน้าที่เป็นสารพันธุกรรม มีหน้าที่คือเป็นห้องสมุดเก็บข้อมูลทางพันธุกรรมของโรงเรียนร่างกาย ซึ่ง mRNA ที่เอามาใช้ทำวัคซีน ทำด้วยการนำ mRNA ที่กำหนดการสร้างตัวหนามมงกุฎบนผิวของไวรัสโคโรน่า มาห่อด้วยตัวห่อหุ้มที่สามารถป้องกัน mRNA จากการถูกทำลาย เพราะคุณครูคนนี้ค่อนข้างบอบบางเป็นพิเศษนั่นเองค่ะ และงานของคุณครู mRNA ก็ได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เข้าไปในโรงเรียน คือร่างกายของเรา และเมื่อคุณครูคนใหม่เข้ามา ก็เริ่มต้นการสอนวิชาใหม่ทันที คือวิชาการผลิตโปรตีนหนาม ซึ่งเราจะสมมุติให้โปรตีนตัวนี้เป็นคนที่สวมมงกุฎอยู่ เมื่อเซลล์ ซึ่งก็คือนักเรียนในโรงเรียนร่างกายสร้างคนคนนี้ขึ้นมาก็จะเรียนรู้ได้หลังจากสตั๊นไป 10 วิ ว่าเจ้านี่มันคนแปลกหน้า ต้องกำจัดออกไปจากโรงเรียนให้ได้! จึงได้ทำการสร้างยามคนใหม่ที่ชื่อว่าแอนติบอดีขึ้นมาจำนวนมากเพื่อเอาเจ้ามงกุฎคนนี้ออกไป เนื่องจากคนสวมมงกุฎเป็นแค่โปรตีนหนาม ไม่ใช่ไวรัส ทำให้เขาเป็นคนร้ายที่ค่อนข้างอ่อนแอกว่าไวรัสตัวจริง สุดท้ายด้วยความสามารถของคุณยาม แม้อาจจะเกิดการบาดเจ็บเป็นไข้ ปวดหัว และอาการแพ้อื่นๆ แต่ก็ทำการกำจัดโปรตีนหนามออกไปได้สำเร็จ และทำการไล่คุณครู mRNA ที่สอนอะไรอันตรายๆแบบนี้ออกไปด้วย หรือก็คือการทำลายตัว mRNA ที่กำหนดการสร้างโปรตีนหนามออกไป ซึ่งไม่ได้ยากเพราะอย่างที่รู้คือคุณครูค่อนข้างบอบบางอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ทางการของโรงเรียนก็ไม่ได้ประมาท ทำการตระเตรียมอุปกรณ์ผลิตคุณยามให้พร้อม แปะป้าย Blacklist หน้าตาของคนสวมมงกุฎไว้ตัวใหญ่ๆบนผนังของโรงเรียนให้ทุกคนจำได้ว่าถ้ามีคนสวมมงกุฎเข้ามาอีก ให้จัดการได้เลยแบบไม่ต้องถามไถ่หรือรอจังหวะสตั๊นใดๆ เมื่อมีคนสวมมงกุฎกล้ามโต หรือไวรัสโควิด-19ตัวจริงเข้ามา โรงเรียนที่ทำการเตรียมพร้อมไว้อย่างดีก็สามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมไว้ ทำให้สามารถปกป้องนักเรียนในโรงเรียนได้สำเร็จ เฮ! เพิ่มเติม วัคซีน mRNA เป็นนวัตกรรมใหม่ก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ว่าวงการวิจัยวัคซีนเพิ่งมารู้จักตอนนี้ ความจริงแล้วเจ้า mRNA ถูกศึกษาและวิจัยมาหลายสิบปีแล้ว เนื่องจากสามารถพัฒนาโดยใช้วัสดุที่หาได้ง่าย สามารถกำหนดมาตรฐานและขยายขนาดการผลิตได้ ทำให้การพัฒนาวัคซีนทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้มีการศึกษาวัคซีน mRNA สำหรับไข้หวัดใหญ่ ซิกา พิษสุนัขบ้า และไซโตเมกาโลไวรัส (CMV) อยู่แล้ว ทันทีที่มีข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับไวรัสที่เป็นสาเหตุของโควิด-19 นักวิทยาศาสตร์ก็เริ่มออกแบบคำสั่ง mRNA สำหรับเซลล์เพื่อสร้างโปรตีนหนามที่มีลักษณะเฉพาะในวัคซีน ซึ่งเทคโนโลยีวัคซีน mRNA ในอนาคตอาจมีความสามารถที่วัคซีน 1 ตัวสามารถป้องกันโรคได้หลายโรค ที่จะช่วยลดจำนวนการฉีดวัคซีนสำหรับการป้องกันโรคทั่วไปได้ ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/vaccines/different-vaccines/mrna.html และอินโฟกราฟิกที่เข้าใจง่ายมากๆ https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/downloads/vaccines/COVID-19-mRNA-infographic_G_508.pdf ภาพประกอบที่ 2 โดย Tuemaster Admin ภาพหน้าปก ภาพประกอบที่ 1 และภาพประกอบที่ 3-8 โดย JustAOEI เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !