หลายคนคงเห็นภาพเหล่ามหาวิหารต่างๆ ในยุโรปที่สวยงดงามแลดูมีความยิ่งใหญ่ จนอาจเกิดข้อสงสัยว่าสถาปัตยกรรมเหล่านี้เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะแบบใดกันและศิลปะเหล่านี้มีรูปแบบเฉพาะหรือเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง?ดังนั้นวันนี้เราจึงพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับรูปแบบศิลปะที่เป็นหนึ่งในงานออกแบบของมหาวิหารส่วนใหญ่ในยุโรป นั่นคือ ศิลปะแบบ"กอธิค" ผ่านมหาวิหารนอเทรอดาม มหาวิหารที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่สวยที่สุดในโลก!!ภาพโดย ian kelsall จาก Pixabay ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่าศิลปะแบบกอธิคว่ามีความเป็นมาและมีเอกลักษณ์อย่างไรบ้าง โดยอย่างแรกจุดเริ่มต้นของศิลปะแบบกอธิคถือกำเนิดขึ้นในช่วงราวคริสต์วรรษที่ 12 ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเอกลักษณ์ของศิลปะชนิดนี้คือ จะเน้นสร้างสถาปัตยกรรมที่มีเสาหรือหลังคาแหลมแบบสูงโปร่ง ผนังเปิดกว้างไม่เน้นการเขียนภาพวาดแต่เน้นการประดับตกแต่งด้วยกระจกสีตามช่องประตูและบานหน้าต่าง มีการปั้นรูปจำลองที่พริ้วไหวโดยเฉพาะรายละเอียดของเสื้อผ้าที่มีความสมจริงมาก ซึ๋งจากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้หลายคนอาจยังไม่เห็นภาพ ดังนั้นเราลองมาดูองค์ประกอบทีละส่วนผ่านตัวมหาวิหารนอเทรอดามกันภาพโดย Ronile จาก Pixabay เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกตามสไตล์กอธิคจะเห็นได้ว่า หลังคาพุ่งสูงชี้ฟ้ามีความโปร่งแลดูอ่อนช้อยมากกว่าบึกบึนทนทาน มียอดหอคอยแหลมเป็นองค์ประกอบบนหลังคา ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเด่นและจุดสังเกตุง่ายๆ ของศิลปะแบบกอธิค หากเราเห็นมหาวิหารในยุโรปที่มีรูปร่างลักษณะเน้นหลังคาแบบพุ่งสูงเช่นนี้ก็อาจเป็นไปได้ว่านั่นคือสถาปัตยกรรมในแบบกอธิคนั่นเองภาพโดย Barry Bibbs จาก Unsplashต่อมาคืออีกหนึ่งจุดเด่นของศิลปะแบบกอธิค คือลักษณะสถาปัตยกรรมที่ใช้การค้ำยันจากภายนอกโดยใช้หินหรืออิฐปูนมาช่วยให้เกิดการรองรับน้ำหนักจากหลังคาและกระจายน้ำหนักลงสู่ส่วนต่างๆ ของอาคารได้อย่างลงตัว นั่นจึงทำให้สถาปัตยกรรมแบบกอธิคมีความแข็งแรงไม่ถล่มลงมาได้ง่ายแม้จะดูมีความอ่อนช้อยก็ตามภาพโดย WikiImages จาก Pixabayมาถึงองค์ประกอบสำคัญอย่างการใช้กระจกสีตกแต่งภายในมหาวิหารกันบ้าง ซึ่งจากรูปเป็นการใช้กระจกสีตกแต่งหน้าต่างภายในมหาวิหารนอเทรอดามโดยมีการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคริสตศาสนาผ่านการตกแต่งนี้ และจุดนี้เองที่กลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญของศิลปะกอธิคคือไม่เน้นการวาดภาพจิตกรรมบนฝาผนังแต่จะเน้นการตกแต่งด้วยกระจกสีตามหน้าต่างหรือบานประตูผ่านการเล่าเรื่องราวในคริตศาสนาแทนภาพโดย Ronile จาก Pixabay และจุดสังเกตุสุดท้ายคือประติมากรรมที่เน้นความพริ้วไหว อ่อนช้อย ซึ่งจากภาพเป็นเทวดากับนักบุญและบุคคลสำคัญของคริตศาสนาสองท่าน คือ พระเจ้าชาร์เลอมาญมหาราช (ริมซ้ายมือ) และนักบุญเดนิส (ผู้ที่ถือหัว) ตั้งอยู่บริเวณด้านนอกของมหาวิหารนอเทรอดาม ซึ่งประติมากรรมรูปปั้นนี้หากสังเกตุที่เสื้อผ้าแล้วจะพบว่ามีความอ่อนช้อย พริ้วไหว ในขณะที่ใบหน้าก็มีความยิ้มแย้มซึ่งนี่ถือเป็นประติมากรรมในแบบกอธิคที่ชัดเจนภาพโดย Reno Laithienne จาก Unsplashและนี่ก็ถือเป็นวิธีการสังเกตุศิลปะในแบบกอธิคตามมหาวิหารต่างๆ ในยุโรปอย่างง่ายๆ ซึ่งหากใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวชมมหาวิหารเหล่านี้ก็อาจนำจุดสังเกตุข้างต้นมาปรับใช้และอาจบอกเล่าเป็นความรู้ให้กับผู้อื่นได้ด้วย อีกทั้งจะช่วยให้เรามีความสุขกับการดูงานศิลปะผ่านมหาวิหารต่างๆได้มากยิ่งขึ้น