การสังเคราะห์ด้วยแสง หรือ Photosynthesis เป็นกระบวนการเดียวของธรรมชาติที่สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงให้เป็นพลังงานเคมีที่อยู่ในสารอินทรีย์ ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่สามารถสังเคราะห์แสงได้ก็จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถสร้างสารอาหารให้กับตัวเองได้เช่น สาร่าย ยูกลีนา และพืช แต่ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืชเป็นหลัก พืชเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถสร้างอาหารให้กับตัวเองได้ โดยสารอาหารที่เรียกว่าคาร์โบไฮเดรต ซึ่งคาร์โบไฮเดรตที่เป็นตัวดูดซึมเก็บสะสมเพื่อนำมาเป็นแหล่งพลังงาน และอีกหนึ่งหน้าที่ก็คือเป็นองค์ประกอบต่าง ๆ ในเซลล์ของพืชเช่น ผนังเซลล์ โดยทั่วไปคาร์โบไฮเดรตที่พบในพืชจะพบในรูปแบบของ- น้ำตาล- แป้ง- เซลลูโลสเพราะนั่นคือกระบวนการสร้างอาหารของพืชเราจะเรียกว่า กระบวนการสังเคราะห์แสงนั่นเอง ต่อมาเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการและขั้นตอนของกระบวนการสังเคราะห์แสง โดยเราจะอธิบายโดยใช้วิธีสมการเคมีเพื่อให้ทำความเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้นกระบวนการสังเคราะห์แสงหรือ (Photosynthesis) เป็นกระบวนการทางเคมีที่เกิดจาก คาร์บอนไดออกไซด์ + น้ำ ที่มีแสงเป็นตัวเร่งโดยพลังงานแสงจะถูกเก็บสะสมไว้ในคลอโรฟิลล์ เมื่อเกิดปฏิกิริยาผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ กลูโคส + ออกซิเจน ซึ่งถ้าหากเราเขียนเป็นสมการทางเคมีจะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้ ซึ่งกลูโคสที่ได้จากไลน์มาเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว รวมตัวกันจะได้เป็น - เซลลูโลส - แป้ง ที่จะไปสะสมอยู่ในพืชโดยเฉพาะใบสรุปปัจจัยที่สำคัญในการสร้างอาหารของพืชมีทั้งหมด 4 อย่าง ได้แก่ - คลอโรฟิลล์ - แสง - ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ - น้ำ และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงต้องปลูกต้นไม้เพราะต้นไม้จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกและที่สำคัญยังช่วยเพิ่มออกซิเจนซึ่งเป็นก๊าซที่สำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์อย่างพวกเรา แต่ในพืชแต่ละชนิดก็จะมีวิธีการดึงคาร์บอนไดออกไซต์ที่แตกต่างกัน เพื่อนำมาเป็นสารอาหารให้กับตัวเอง คุณเคยสังเกตไหมว่าทำไมต้นไม้บ้างชนิดที่ไม่มีน้ำแต่กลับยังคงมีใบที่เขียวทั้งต้น เพราะว่าต้นไม้เหล่านั้นดึงคาร์บอนไดออกไซต์เพื่อมาเลี้ยงลำต้นของตัวเองหวังว่าบทความนี้จะทำให้เพื่อน ๆ หลายคนเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการสังเคราะห์แสงกันมากขึ้นนะคะรูปภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียนโดย canva เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !