ช่วงนี้ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลาย ๆ ที่ ที่ปัจจุบันเขาเริ่มมีนโยบายงดจุดธูปแล้ว เพื่อรักษาคุณภาพอากาศทั้งในและนอกอาคาร และลดความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัย...โดยส่วนตัว แม้การงดจุดธูปจะแปลกใหม่ไปจากวิถีทางที่เคยปฏิบัติมา แต่สิ่งที่ได้ทราบ จากคำแนะนำของคนมีญาณ และจากการปฏิบัติของคนสายบุญ ก็ช่วยให้การสักการะบูชาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่รู้สึกว่าขั้นตอนไม่สมบูรณ์ ไม่มีอะไรติดขัดค้างคาใจหรือทำให้ไม่สบายใจเลยค่ะ...จึงอยากเอามาแชร์ เพราะคิดว่าในอนาคต พวกเราน่าจะเจออีกหลายอีเวนท์และสถานที่ที่เปลี่ยนมาใช้นโยบายงดจุดธูปค่ะเมื่อเข้าใจ "ทำไมมีการจุดธูปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์?" ก็ปฏิบัติตัวได้ถูกในเวอร์ชันงดจุดธูปการจุดธูปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้มีญาณอธิบายว่า เป็นการอาศัยธาตุดิน ลม และไฟ ช่วยในการสื่อสารคำอธิษฐานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้รับรู้รับทราบค่ะความเชื่อและแนวปฏิบัติแต่โบราณถือว่า เป็นการแสดงความเคารพบูชา คือบูชาด้วยแสงสว่างและกลิ่นหอมค่ะการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เวอร์ชันงดจุดธูปจากประสบการณ์ส่วนตัวตั้งแต่เล็กจนโตของคนสายมูอย่างผู้เขียน แม้เราไม่ได้จุดธูป แต่เมื่อตั้งใจกล่าวถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่านึกในใจหรือพูดออกมาเป็นถ้อยคำ ถึงอยู่ที่บ้าน ไม่ใช่ที่วัดหรือศาล ก็มีสัญญาณบ่งบอกว่า ท่านได้รับรู้รับทราบ...ผู้เขียนจึงไม่มีความกังวลใจ เมื่อไม่ได้จุดธูปค่ะผู้เขียนเชื่อตามคำสอนในพระพุทธศาสนาที่ว่า "ความตั้งใจจริงสำคัญที่สุด" แม้ไม่มีธูปให้จุดหรือไม่ได้จุดธูป ก็เห็นว่าหลักใหญ่ใจความอยู่ที่ความตั้งใจในบูชา สักการะ และอธิษฐาน...และผู้เขียนก็สังเกตตัวเองว่า ในครั้งไหน ที่แม้ว่าจุดธูป แต่ใจไม่ตั้งมั่น ผู้เขียนก็จะรู้สึกว่าทำการบูชานั้นไม่เต็มที่...ดังนั้น ผู้เขียนจึงไม่ห่วงเรื่องไม่ได้จุดธูปหรือไม่มีธูปให้จุด แต่ห่วงเรื่องการตั้งใจให้ดีให้เป็นสมาธิมากกว่าค่ะเมื่อเข้าใจ "ทำไมมีการจุดธูปเมื่อถวายเครื่องสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์?" ก็ปฏิบัติตัวได้ถูกในเวอร์ชันงดจุดธูปการจุดธูปถวายเครื่องสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้เขียนเห็นจากพิธีพราหมณ์ที่มีการสักการะและถวายเครื่องบวงสรวงแก่เทพชั้นสูงว่า...เขาจะเริ่มด้วยการอธิษฐานถวาย แล้วจึงจุดธูปและปักลงบนเครื่องบวงสรวง (อาหาร ขนม ผลไม้ น้ำ) ครบให้ทุกอย่าง รอจนธูปไหม้หมดดอกจึงกล่าวลาเครื่องบวงสรวงค่ะผู้เขียนทราบจากพราหมณ์นำทำพิธีว่า...สิ่งไหนถ้าไม่ปักธูปเป็นสัญลักษณ์ว่าถวาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านก็จะไม่รับสิ่งนั้น...และสิ่งไหนที่ท่านรับ ธูปก็จะติดไฟ - ไหม้จนหมด สิ่งไหนที่ท่านไม่รับ ธูปก็จะดับก่อนที่จะไหม้หมดดอกค่ะ การถวายเครื่องบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เวอร์ชันงดจุดธูปเมื่ออธิษฐานจิตน้อมถวายเครื่องสักการะ บอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าเราถวายอะไร ๆ พร้อมขอให้ท่านได้โปรดรับ แล้วผู้เขียนจะรอ เหมือนรอให้ธูปไหม้หมดดอก ระหว่างรอจะเน้นทำใจให้สงบ ตั้งมั่น เป็นสมาธิค่ะ...สิ่งที่ช่วยได้มากที่สุดสำหรับผู้เขียน คือ การสวดมนต์ ค่ะบทสวดมนต์ที่ผู้เขียนใช้ นับว่าไม่สั้นและไม่ยาวจนเกินไปเป็นบทที่มักใช้ในงานมงคลและมีอานิสงส์มาก ก็คือ บท "พุทธคุณ 9 - ธรรมคุณ 6 - สังฆคุณ 9" ตามด้วย "พาหุงมหากา" ค่ะ...แต่ในสถานที่ที่ออกจะวุ่นวาย มีผู้คนจอแจ การนำเอาบทสวดมนต์ไปด้วยจะช่วยได้มากค่ะเมื่อสวดมนต์จบแล้ว นอกจากจะได้ถวายเครื่องสักการะแล้ว เราก็ยังสามารถอุทิศบุญกุศลจากการสวดมนต์ได้อีกต่างหาก นับเป็นการสักการะบูชาที่ดีเยี่ยมค่ะเมื่อเราอยากจะถวายเครื่องสักการะแก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราตั้งใจเลือกของที่เหมาะสม คุณภาพดี ทำความสะอาด และจัดให้สวยงาม แล้วเราน้อมใจถวายท่าน ก็นับเป็นการดีมากแล้ว...และจะดียิ่งขึ้น ถ้าระหว่างอยู่ที่ศาลสักการะ เราได้ปฏิบัติบูชา (เช่น สวดมนต์ ทำสมาธิ เป็นต้น) ถวายท่านด้วย...แม้ไม่ได้จุดธูป ผู้เขียนก็เชื่อว่า สื่อถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านก็เหมือนผู้ใหญ่ ไม่ได้ให้ความสำคัญในอามิส (ข้าวของ) มากไปกว่าความจริงใจ และมีปกติที่จะชื่นชมในความดี ท่านย่อมเมตตา ประทานพรหรือช่วยเหลือตามความเหมาะสมค่ะ.มรรษยวรินทร์(ภาพประกอบทุกภาพ โดย มรรษยวรินทร์) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !