ไลฟ์แฮ็ก

ทำแบบนี้สิ แล้วจะเลิกผัดวันประกันพรุ่งอย่างถาวร

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ทำแบบนี้สิ แล้วจะเลิกผัดวันประกันพรุ่งอย่างถาวร

ชีวิตนี้มีสิ่งที่ต้องทำมากมาย แต่ไม่รู้ทำไม ไม่เห็นอะไรเกิดเป็นผลลัพธ์ที่เป็นชิ้นเป็นอันสักที งานก็ต้องทำ เที่ยวก็อยากไป หนังซีรี่ย์ก็อยากดู ทุกอย่างดูเยอะแยะเต็มไปหมด จนบางครั้งไม่รู้จะทำอันไหนก่อนดี และผลลัพธ์สุดท้าย ไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง แต่ถึงยังงั้นก็เถอะ กลับรู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูกทั้งๆ ที่ทำอะไรไม่เสร็จเลยสักอย่าง อยากรู้สาเหตุไหม และวิธีเลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่งไหม อ่านต่อเลยงานเยอะ

ภาพโดย PublicDomainPictures จาก Pixabay


ก่อนอื่นขออนุญาตเกริ่นก่อนว่า มันเป็นพฤติกรรมที่เราได้รับมาจากบรรพบุรุษของเราตั้งแต่ยุคที่มนุษย์ยังอาศัยอยู่ในถ้ำ วิถีของมนุษย์ในสมัยนั้นเป็นแบบวันต่อวัน อาหารก็หายาก ต้องออกไปล่าสัตว์ พอได้อาหารมาก็กลับมากินในถ้ำ และระหว่างนั้นก็ต้องรักษาพลังงานด้วย เพื่อที่จะได้มีแรงไปหาอาหารครั้งต่อไป ตรงนี้คือประเด็นของเราในวันนี้ คือด้วยวิถีชีวิตเดิมของเรา ที่เป็นแบบวันต่อวัน เราจึงมีพฤติกรรมที่เลือกความสุขต่อหน้าอยู่เสมอ เพราะเราไม่ได้คาดหวังกับอนาคตมากนัก แต่พอโลกพัฒนา เริ่มเพาะปลูกเอง เริ่มเลี้ยงสัตว์เอง ความสุขกับความสำเร็จรอบตัวเรา เริ่มเป็นแบบระยะยาว แต่สมองของคนเรายังติดพฤติกรรมที่เอาความสุขต่อหน้ามาก่อนความสุขในอนาคตมนุษย์ถ้ำ

Advertisement

Advertisement

ภาพโดย UnifiArt จาก Pixabay


อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เวลาที่เราจะทำอะไรก็แล้วแต่ สมองของคนเราจะคำนวณก่อนเสมอว่า มันใช้พลังงานเท่าไหร่ ซึ่งมันจะมีระบบประหยัดพลังงานที่จะเลือกอะไรก็แล้วแต่ที่มันใช้พลังงานน้อยกว่าเสมอ เพราะเราต้องรักษาพลังงานไว้สำหรับการล่าสัตว์ครั้งต่อไป ซึ่งในสมัยนั้นมันทำให้เรารอดมาได้ แต่มันไม่ใช่กับโลกในสมัยปัจจุบัน เพราะปัจจุบัน ความสุขหรือความสำเร็จมักจะเป็นเรื่องที่ต้องวางแผนและลงมือทำเป็นปี อย่างการเรียนหนังสือ กว่าจะจบได้ก็ใช้เวลาไปค่อนชีวิต ฉะนั้นไม่แปลกที่เรามักจะเลือกดูซีรีย์มากกว่าทำรายงานส่งอาจารย์ เพราะอย่างแรกมันให้ความสุขเราทันที ต่างจากอย่างที่สองที่กว่าจะให้ความสุขเราก็ตอนที่เราเรียนจบซึ่งอีกหลายปี อย่างน้อยก็อีกหลายเดือน

ลองดูตัวอย่างกัน สมมุติว่า ผมให้คุณเลือกทำ 2 อย่างนี้ ระหว่าง ตบมือ 1 ครั้ง กับวิดพื้น 10 ที ถ้าให้ทำตอนนี้เลย คุณจะเลือกทำอันไหนครับ น่าจะร้อยเปอร์เซ็นเลยที่เลือกข้อที่ 1 (ถ้าคุณเลือกข้อ 2 ต้องให้แน่ใจแล้วว่าคุณไม่ใช่ลูกหลานของแรมโบ้ 555) เพราะข้อที่ 1 มันง่ายกว่า ใช้พลังงานน้อยกว่าวิดพื้น

Advertisement

Advertisement

ภาพโดย Manfred Richter จาก Pixabay


จริงๆถ้าเราทำอะไรไม่เสร็จเยอะๆเข้า เราจะรู้สึกเหนื่อย เพราะจิตของเรายังคงคิดถึงงานที่ทำค้างนั้นอยู่ ฉะนั้นเราต้องรีบทำให้เสร็จหรือไม่ก็ให้คนอื่นทำแทนก็ได้ ถ้าเป็นงานที่สามารถมอบหมายได้

ร่ายมาซะยาว ทีนี้มาดูวิธีแก้กัน ง่ายมากเลยครับ เคล็ดลับอยู่ที่ การเริ่ม สมมุติว่าคุณขี้เกียจอ่านหนังสือ ให้บอกตัวเองว่าจะอ่านแค่ 1 บรรทัดครับ แต่เชื่อไหมครับว่า คุณจะไม่เลิกที่ 1 บรรทัดคุณจะไปต่อเรื่อยจนถึงจุดๆหนึ่งเลยแหละครับ เพราะเมื่อเราได้เริ่มทำอะไรสักอย่าง เราก็จะขี้เกียจที่จะเลิกทำมัน ลองนึกดูว่า เรากินข้าวอร่อยๆอยู่ดีๆ แล้วมีคนมาเรียกให้เราไปทำอะไรสักอย่าง เราก็จะบอกเขาว่า เดี๋ยวๆขอกินข้าวให้เสร็จก่อน ใช่ไหมล่ะครับเคล็ดลับคือการเริ่ม

ภาพโดย Ryan McGuire จาก Pixabay


แล้วเวลาที่เราเริ่ม ให้เราแบ่งงานออกเป็นย่อยๆ เพื่อที่เราจะได้เริ่มได้ง่าย หรือก็คือเคล็ดลับหนึ่ง สมมุติเราอยากจะไปวิ่ง ให้เริมบอกก่อนว่า เราแค่จะเปลี่ยนชุด สมองมันจะไม่ต่อต้าน เพราะใช้พลังงานไม่มาก พอเปลี่ยนชุดเสร็จ ให้บอกกับตัวเองว่า จะแค่ใส่รองเท้า พอใส่รองเท้าเสร็จ ก็บอกว่าจะออกไปหน้าบ้านเฉยๆ พอถึงหน้าบ้านแล้ว บอกว่า จะแค่วิ่งเบาๆ แต่พอได้เริ่มวิ่งแล้วเรามักจะหยุดไม่ได้ ถ้าใครได้ลองวิ่งแล้วหยุดกลับมานอนที่บ้านต่ออันนี้ไม่น่าใช่ปกติแล้วล่ะ

Advertisement

Advertisement

จริงๆชีวิตของเราเป็นอะไรที่สนุกและท้าทายน่ะครับ ขอแค่เรารู้เทคนิคและวิธีการ เราก็จะสามารถทำอะไรที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้อย่างราบรื่น จากที่เราต้องเครียดกับปัญหาชีวิต ให้เราเอ็นจอยมันอย่างฉลาดกันดีกว่า

เครดิตปก Anja Heidsiek จาก Pixabay


เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์