ปัจจุบันนี้เราปฏิเสธไม่ได้เลยนะครับว่าการเดินทางไปต่างประเทศนั้นถือว่าเดินทางได้ง่ายมาก ๆ และตั๋วเครื่องบินนั้นก็ไม่ได้ถูกมาก ๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่าเราจะเห็นนักเรียน นักศึกษาหลายคน ที่เดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ รวมไปถึงการเรียนภาษาด้วยครับ ทั้งเรียนภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น รวมไปถึงภาษาจีน เช่นวันนี้นะครับผมจะมาแชร์เหตุผลว่า ทำไม "ถึงต้องไปเรียนภาษา" ไกลถึงเมืองนอก ? 1. ได้ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ได้ใช้ภาษาจริง ก่อนอื่นผมต้องบอกเลยนะครับว่าผมเป็นคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปเรียนภาษาจีน ที่ประเทศจีน โดยเมืองที่ผมไปชื่อว่าเมืองหนานทงมห่างจากเซี่ยงไฮ้ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง พอไปถึงและได้เริ่มเรียนช่วงแรกจะตามไม่ค่อยทันครับ แต่เหตุเพราะเราต้องใช้ภาษาจีนคุยกับร้านค้า คุยกับเพื่อน คุยกับพนักงานในห้าง หรือแม้แต่ไปเที่ยวก็ต้องคุยกับคนขับรถเมล์ว่าผ่านสถานที่ที่เราจะไปไหน เห็นไหมครับว่าทุกอย่างที่ผมพูดมา สถานการณ์ต่าง ๆ มันบีบบังคับให้เราว่าต้องพูดให้ได้ และต้องกล้าที่จะพูดเพราะถ้าไม่พูดก็ไม่มีใครช่วยได้ เราต้องช่วยเหลือตัวเอง อาจจะไม่ได้พูดรัวมาเป็นประโยคแบบน้ำไหลไฟดับ แต่เพียงแค่พูดให้คนจีนเขาเขาใจได้ว่าเราต้องการอะไร แค่นั้นก็เพียงพอแล้วครับ ผมเลยบอกได้เลยว่าสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยจะช่วยให้การเรียนรู้ของเรานั้นพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ส่งนั้นคือต้องไปยังสถานที่จริง เท่านั้นครับ2. ได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตของเจ้าของภาษา สิ่งต่อมาที่เราได้เรียนรู้คือ ลักษณะและการใช้ชีวิตของเขาครับ อย่างเข่นผมอยู่ที่จีน การพูดเสียงดัง ตะโกนคุยกัน มันเป็นเรื่องที่ปกติมาก ๆ ครับสำหรับในประเทศจีน ถ้าคนที่ไม่เคยมาจีน แล้วเห็นคนจีนทำแบบนี้ที่ไทยก็คงจะด่ากัน แต่เมื่อมาได้เห็นและรับรู้ เราก็เข้าใจได้ว่ามันคือวัฒนธรรมของเขา เพราะฉะนั้นเราจะไปตัดสินเขาไม่ได้ว่ามันไม่ดีครับ อีกอย่างหนึ่งเรื่องการบีบแตรครับ อันนี้ถือว่าบีบกันจนลำคาน จนผมนี่อดว่าให้ไม่ได้ตามหลัง แต่พออยู่นานไปเราก็จะชินครับ อาจจะเป็นเพราะเราซึมซับวัฒนธรรมนั้นไปแล้วครับ เรื่องที่ไม่พูดถึงเลยไม่ได้ครับ คือเรื่องของอาหารการกิน เราไปอยู่ที่จีน แน่นอนละครับว่าอาหารได้ดีมีให้เราเลือกกินมาก อย่างที่ไทยและคนไทยส่วนมากก็คงไม่ค่อยชอบอาหารจีนเท่าไหร่ เพราะมันเค็ม และมันเป็นส่วนใหญ่ คนไทยชอบเผ็ด ๆ แต่เราเลือกไม่ได้เราก็ต้องกินครับ พอกลับมาไทยผมกลายเป็นคนไม่ค่อยจะกินเผ็ดไปเลย และกลายเป็นคนที่ชอบอาหารรสชาติของจีนไปเลย นี่แหละครับที่ผมบอกว่าเราจะได้เรียนรู้ และซึมซับวัฒนธรรมของเข้าของภาษาครับ อาจจะเป็นเฉพาะบุคคลนะครับ ไม่ได้เหมารวมทุกคนหรืออาจจะเป็นแค่ผม เพื่อนที่เคยไปเรียนต่างประเทศบอกผมหน่อยนะครับว่าเป็นเหมือนผมไหม?3. ได้เพื่อนที่เป็นเจ้าของภาษาของจริง พอผมเรียนไปไม่ถึงเดือนด้วยความที่อยากได้เพื่อนคนจีนมา จึงลงทุนซื้อแพ็คเกจฟิตเนส เพื่อที่เราจะได้มีสถานที่เป็นจุดศูนย์รวมว่าอาจจะได้เพื่อนคนจีนจากตรงนี้ก็ได้ เพราะเวลาเราไปเรียนภาษาในห้องเรียน ไม่ได้มีเพื่อนคนจีนมานั่งเรียนกับเรานะครับ อย่าเข้าใจผิด เพื่อนคนจีนเขาก็ต้องเรียนของเขาครับ พอผมสมัครฟิตเนสผมก็ได้เพื่อนมาจริง ๆ และนั่นทำให้ผมได้รู้ว่าการที่มาเรียนภาษาที่จีน การมีเพื่อนคนจีนนั้นเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ เพราะเขาจะช่วยเหลือเราทุก ๆ อย่างครับ พาที่เที่ยวในที่ที่เราไม่รู้จัก พาไปกินของที่เราไม่เคยกิน พาไปซื้อของในร้านที่เราไม่เคยรู้ว่ามี เพราะต้องยอมรับความเขาคือเจ้าถิ่นครับ เขารู้ทุกที่ อีกอย่างเขามีรถครับ เราก็อาศัยเขาพาไปนู่นนี่นั้น และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เราได้ใช้ภาษากับเขาครับ เพราะการมีเพื่อนคนจีนถ้าเราพูดผิดหรือใช้ประโยคผิด เพื่อนสามารถแก้ให้เราได้ในขณะนั้นเลยครับ เทียบกับอาจารย์ที่สอนให้ห้องไม่ได้นะครับ ที่จะมานั่งแก้นั่งคุยกันทีละประโยค เราเหมือนได้ครูประจำตัวที่คอยสอนเราเพิ่มมาอีก 1 คน โดยที่ไม่ได้เสียค่าเรียนเพิ่มเลยครับ ส่วนเพื่อนคนจีน ด้วยความที่เราเป็นคนต่างชาติ เขาก็อยากมีเพื่อนเป็นคนต่างชาติอยู่แล้วครับ ผมเลยสอนภาษาไทยไปเพื่อเป็นการตอบแทนครับ และสิ่งที่ผมตอบได้เต็มปากเต็มคำเลยคือการมีเพื่อนที่เป็นเจ้าของภาษานั้น จะทำให้ระดับภาษา หรือการพูดและกรฟังของเรา พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดเช่นกันครับ4. ได้คอนเนคชั่นจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่มาจากหลาย ๆ ประเทศ จากเพื่อนคนจีนแล้ว เรายังจะได้เพื่อนชาวต่างชาติที่ไปเรียนเหมือนกับเรามาด้วยครับ ทำไมถึงต้องสนใจเพื่อนพวกนี้ล่ะ? ผมบอกเลยครับว่าถ้าใครไม่คว้าโอกาสนี้ไว้คือพลาดมาก เพราะเรามองไม่เห็นอนาคตครับ อย่างผมมีเพื่อนคนเวียดนาม คนอินโดนีเซีย คนลาว คนชิลี คนรัสเซีย ถามหน่อยครับว่าถ้าผมไปประเทศพวกนี้ในอนาคตแล้วเกิดปัญหาติดขัด ผมสามารถขอให้เพื่อน ๆ ของผมพวกนี้ช่วยเหลือได้นะครับ ในทางกลับกันถ้าเขามาที่ไทยเราก็ต้อนรับเขาเช่นกันครับ และเพื่อนส่วนมากทุกประเทศพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจะมาประเทศไทยแน่นอนครับ เราไม่รู้ว่าอนาคตของเราจะไปทางไหน แต่รู้จักคนเยอะไว้ก่อนก็ดีถูกไหมครับ ไม่ใช่ว่าเราไปเรียนถึงต่างประเทศแล้วกลับมาได้แต่ความรู้มาจริง แต่เพื่อน ๆ ในคลาสเดียวกันไม่รู้จักใครเลย แบบนี้ก็ไม่ดีนะครับ เพราะในวันข้างหน้าเราอาจจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันกับเพื่อนกลุ่มนี้ได้ครับ5. ได้ไปเรียนและพักผ่อนไปในตัว ข้อนี้ผมคิดว่าทุก ๆ คนก็น่าจะนึกไว้อยู่แล้วใช่ไหมครับ เพราะเราไปถึงที่มันก็ต้องมีการเที่ยวกันบ้าง บางคนยอมเก็บเงินไม่ซื้อของเพราะจะเก็บเงินไว้เที่ยว จะได้ไปแล้วไม่เสียเที่ยว เก็บสถานที่ท่องเที่ยวให้ครบจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาอีก จะได้มีเวลาไปเที่ยวที่อื่นต่อไป และการที่เราไปเรียนภาษา อย่างที่จีนเราถือวีซ่านักเรียนครับ จะได้ค่าส่วนลดในการเข้าแหล่งท่องเที่ยวต่าง 50% ดังนั้นใช้ตรงนี้ให้คุ้มครับ เพราะถ้าเราจะบินไปเที่ยวโยเฉพาะเป็นวีซ่าท่องเที่ยว เสียราคาเต็มนะครับบอกเลย ข้อดีของการที่ได้ออกไปเที่ยวก็คือการได้ออกไปใช้ภาษาที่เราได้ร่ำเรียนมาครับ เรียนมาเข้าใจขนาดไหนถ้าใช้ไม่เป็นมันก็เปล่าประโยชน์ถูกไหมครับ และการที่เราได้ออกไปพูดมันเป็นสิ่งที่จะทำให้เรานั้นมั่นใจในการพูด และทำให้พูดคล่องมากขึ้นครับ โดยเราก็สามารถจำประโยคที่คนจีนพูดสื่อสารกับเรา นำกลับมาทบทวนได้อีกด้วย บางครั้งได้คำศัพท์ใหม่กลับมาอีก ถือว่าคุ้มครับ ได้ทั้งเที่ยวได้ทั้งพูดไปในตัวครับ เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับเหตุผลที่ผมได้วิเคราะห์ว่า ทำไม "ถึงต้องไปเรียนภาษา" ไกลถึงเมืองนอก ? คำตอบของผม 5 ข้อที่ผมบอกไปเพื่อน ๆ เห็นด้วยไหมครับ ผมไม่ได้ยืนยันนะครับว่าถ้าไปจะได้ในสิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมด เพราะมันอยู่ที่แต่ละคนครับว่าจะหาอะไรให้ตนเอง อย่างเรื่องของการมีเพื่อนคนจีน บางคนไปเรียนอย่างรอบผมที่ไปบางคนไม่ได้เพื่อนคนจีนกลับมาด้วยซ้ำครับ แม้แต่คนเดียวก็ไม่ได้นะครับ เพราะเอาแต่เรียนในห้อง ไม่ยอมเข้าไปคุยหรือทำความรู้จักกับคนจีน ส่วนผมนั้นเพื่อนคนจีนยังคุยกับจนมาถึงปัจจุบันเลยครับ เหตุผลที่ผมบอกไป อารมณ์มันจะออกแนว ทำไมคนไทยเรียนภาษาอังกฤษ ตั้งแต่อนุบาล ยันตามไปถึงมหาวิทยาลัย แต่คนไทยส่วนมากถึงพูดภาษาอังกฤษกันไม่ค่อยได้ครับ เพื่อน ๆ ลองกลับไปคิดดูกันนะครับ สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่คิดอยากจะไปเรียนภาษาจีน หรือไปเรียนต่อในระดับปริญญา สิ่งที่ควรเตรียมไปที่สุดก็คือการเตรียมใจครับ เพราะไปที่นู่น เราไปเจอที่ใหม่ สถานการณ์ใหม่ เพื่อนใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่ บางครั้งอาจจะทำให้เราหลงลืมไปว่าเรามาทำอะไร (ผมก็เป็น) ดังนั้นต้องตั้งเป้าหมายไว้ให้ชัดเจนว่าเราไปเพื่ออะไร และตอนกลับไทยเราจะได้อะไรบ้าง การกาข้อมูลตั้งแต่ก่อนเริ่มเดินทาง จะเป็นสิ่งที่ดีมากในการเตรียมตัวว่าพอไปถึงที่นู่นเราจะโฟกัสการเรียนของเราไปในทางไหน เพราะคนเรามีวิธีการศึกษาหรือแนวทางในการหาความรู้ไม่เหมือนกันครับ สุดท้ายเลยที่อยากจะบอกคืออย่าลืมใช้ชีวิตและเก็บเกี่ยวความประสบการณ์ให้ได้มากที่สุดนะครับ ท้ายสุดนี้ผมคิดว่าบทความนี้น่าจะเป็นบทความที่สามารถตอบคำถามให้ใครหลาย ๆ คนกำลังลังเลว่าจะไปเรียนภาษาถึงต่างประเทศดีไหม มันจะดีจริงหรือเปล่า? ผมสามารถตอบได้ตรงนี้จากประสบการณ์ตรงของผมว่ามันดีครับ ถ้ามีโอกาสได้ไป รวมถึงที่บ้านสนับสนุนก็เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ไปลองทำอะไรใหม่ ลองใช้ชีวิตในต่างแดนดูครับ รับรองกลับมาได้มากกว่า 5 ข้อที่ผมได้พูดไปอีกครับ สุดท้ายนี้ผมก็ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านกันจนจบนะครับ เช่นเคยหากใครมีอะไรเพิ่มเติมสามารถมาแชร์กันได้นะครับ สำหรับวันนี้ขอบคุณและสวัสดีครับภาพประกอบทั้งหมดเป็นของนักเขียนปีกพญา -ปีกพญา-