เดือนมิถุนายน ถือเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง หรือ LGBTQ Pride Month ของกลุ่มหลากหลายทางเพศ ตลอดเดือนนี้ ชาว LGBTQ ในอเมริกาจะออกมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลอง เดินขบวน รวมถึงโบกธงสีรุ้ง เพื่อเรียกร้องสิทธิและความเท่าเทียมทางเพศ เป็นประจำทุกปี แล้วเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไม “สีรุ้ง” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของชาว LGBTQ และใครเป็นเริ่มต้นใช้สัญลักษณ์เป็นคนแรก? “สีรุ้ง” ได้ถูกจดจำและกลายเป็นสัญลักษณ์ของชาว LGBTQ มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 เริ่มต้นจาก Harvey Milk นักการเมืองชาวอเมริกันคนแรกที่เปิดตัวว่าเป็นเกย์ ได้ร่วมกับเพื่อนสนิทชื่อ Gilbert Baker สร้างสรรค์สัญลักษณ์เพื่อเป็นตัวแทนของชุมชนผู้มีหลากหลายทางเพศขึ้น Baker ซึ่งก็เป็นนักกิจกรรมผู้เรียกร้องสิทธิให้ชาวเกย์เช่นกัน จึงได้ออกแบบธงที่มีแถบสี 8 สีขึ้น โดยแต่ละสีก็สื่อความหมายพิเศษ ได้แก่ สีชมพูสื่อถึงเรื่องเพศ, สีแดงสื่อถึงชีวิต, สีส้มสื่อถึงการผสมผสาน, สีเหลืองสื่อถึงแสงอาทิตย์, สีเขียวสื่อถึงธรรมชาติ, สีฟ้าสื่อถึงความวิเศษ, สีน้ำเงินสื่อถึงความสงบ และสีม่วงสื่อถึงจิตวิญญาณ เมื่อถามถึงไอเดียในการออกแบบแล้ว เอาเข้าจริงก็ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า ทำไม Baker จึงเลือกใช้สีรุ้งเป็นสัญลักษณ์ของชาว LGBTQ? บ้างก็ว่าเพื่อระลึกถึง Judy Garland หนึ่งในดาราคนแรก ๆ ที่เปิดตัวว่าเป็นรักร่วมเพศ ซึ่งเธอโด่งดังจากการร้องเพลงชื่อ “Somewhere Over the Rainbow” ในภาพยนตร์เรื่อง The Wizard of Oz ขณะที่บางส่วนก็เชื่อว่า Baker ได้รับแรงบันดาลใจมากจากธงหลากสีที่ใช้ในมหาวิทยาลัยในปี 1960 ซึ่งสื่อความหมายถึง สันติภาพและความสามัคคีของโลก หลังจากออกแบบเรียบร้อย ไม่กี่เดือนต่อมา Milk ก็ได้เปิดตัวสัญลักษณ์สีรุ้งครั้งแรกในงาน Gay Freedom Pride Parade ซึ่งจัดขึ้นในเมืองซานฟรานซิสโกในปี 1970 ซึ่งก็ได้รับคำชื่นชมจากบรรดากลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศเป็นอย่างดี และกลายเป็นที่จดจำนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จากนั้นได้มีการปรับสีธงจากเดิมที่มี 8 สี ให้เหลือเพียง 6 สี ได้แก่ สีแดง, สีส้ม, สีเหลือง, สีเขียว, สีน้ำเงิน และสีม่วง เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการผลิต และทำให้ดีไซน์ง่ายต่อการจดจำมากยิ่งขึ้นนั่นเอง นอกเหนือจากธงสีรุ้งแล้ว ยังมีการสร้างสรรค์ธงขึ้นอีกหลากหลายเวอร์ชั่น เพื่อเป็นตัวแทนของกลุ่มย่อยของผู้มีความหลากหลายทางเพศ เช่น ไบเซ็กชวล, ทรานเจนเดอร์ ฯลฯ รวมถึงยังได้แตกแขนงการเรียกร้องสิทธิทางเพศที่เท่าเทียม ผ่านการนำสีรุ้งไปสอดแทรกลงในสิ่งต่าง ๆ อีกมากมาย นับตั้งแต่เสื้อยืด, แก้วน้ำ, ผ้าเช็ดตัว, ผ้าปูที่นอน และอีกมากมาย ขอบคุณภาพปกจาก ISO Republic // ขอบคุณภาพประกอบเนื้อหาจาก Pexels :: ภาพที่ 1 | ภาพที่ 2 | ภาพที่ 3