คำถามที่ว่านี้ หลายคนคงสงสัยว่า "ทำไมคนเราต้องคาดหวัง?" หรือ "คาดหวังแล้วได้อะไร?" และรู้หรือไม่ว่าการ "คาดหวัง" ที่มากเกินไปอาจจะส่งผลกระทบต่อตัวเรา ยังไงล่ะ เรามาหาคำตอบกันก่อนอื่นอยากให้ลองจินตนาการตามสถานการณ์ต่อไปนี้ 1. คุณกำลังที่จะเตรียมแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดของเพื่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คุณลงแรงลงเงินเยอะมากเพื่อให้งานวันเกิดเพื่อนของคุณออกมาดี แต่เมื่อถึงวันเกิดของคุณ เพื่อนคนนั้นไม่ได้ทำอย่างเดียวกับที่คุณทำ และคุณก็เริ่มโมโหแล้ว2. คุณกำลังคาดหวังให้ร้านกาแฟที่คุณไปนั่งทำงานประจำมีที่ว่างให้คุณได้นั่ง แต่พอไปถึงหน้าร้านกลับพบว่า ร้านเต็มไปด้วยเหล่าเด็กนักเรียนที่จับจองพื้นที่ในร้าน จนคุณไม่สามารถหาที่นั่งทำงานได้https://pixabay.com/get/g8723c0825819abc7a712feec96d8ae7d9caba2bda2edd5b1ca3cae445c75d08464e2c7cc0a3165bf4f11f10ac503d0cbdd156c1b0e46dd5f8b253b8484470073_1920.jpgเรื่องราวเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นเพราะคุณคาดหวัง และเชื่อได้ว่ามันต้องเกิดขึ้นกับชีวิตของเราอย่างแน่นอน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เรื่องราวเหล่านี้ก่อให้เกิด "ความคาดหวัง" นั้นเอง แต่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่บอกเรา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่น้อง ภาพยนตร์ หรือโทรทัศน์บอกว่า อย่าคาดหวังให้มากนัก เพราะมันอาจจะทำให้สุขภาพนั้นแย่ลง มีทฤษฎีกล่าวว่า ยิ่งเรานั้นตั้งความหวังไว้น้อยเท่าไหร่ เราก็จะคาดเดาถึงผลลัพธ์มากเท่านั้น ในทางทฤษฎีการมองว่าสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นชุดเรื่องราวของความประหลาดใจกับผลลัพธ์จากความคาดหวังที่เราทำด้วยตัวเองจากการช่วยให้เรานั้นรู้สึกเป็นเรื่องที่เหนือการควบคุมจากตัวเราเองแต่นั้นหมายความว่าเรา "ห้าม" คาดหวังหรือไม่? ทุกสิ่งที่เรามองจะต้องมองเป็นเรื่องในแง่ร้ายเสมอเลยหรือไม่? สมัยตอนที่เรายังเป็นเด็ก พ่อแม่และคุณครูอาจจะเคยบอกให้ทุกคนของตั้งความหวัง อธิษฐาน สวดมนต์ เพื่อให้ความฝัน ตั้งจุดหมายและให้เรามองโลกในแง่ดี นั้นก็นับว่าเป็นเรื่องของความหวัง แล้ว เราจะต้องละทิ้งสิ่งเหล่านั้นไปเหรอ? รู้สึกว่าจะไม่เป็นแบบนั้น จริงไหม?จุดหมายปลายทางของเราคือความคาดหวังจากผู้อื่น?จริง ๆ แล้วเราทุกคนเคยไปที่นั้นมาแล้วล่ะ นั้นคือจุดที่มีความคาดหวังจากผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นความคาดหวังจากพ่อแม่ เพื่อนฝูง และพวกเขาก็เป็นเช่นกัน พวกเขานั้นก็อาจจะเป็นเหมือนกับเรา พวกเราหลายคนอาจไม่ได้รับการตอบสนองสิ่งที่เราต้องการ และสิ่งนี้อาจทำให้เกิดความตึงเครียดในความสัมพันธ์ของเรา บางครั้งเราก็พบว่าตัวเองเชื่อคนคนหนึ่ง ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อย่างน้อยก็ในความคิดของเรา และยิ่งดีถ้าพวกเขาไม่แสดงกระทำที่เราคาดหวังจากพวกเขา เรามักจะอารมณ์เสีย ที่พวกเขาไม่ได้เลือกในสิ่งที่เราต้องการ ซึ่งอาจจะทำให้ความสัมพันธ์เรานั้นตกอยู่ในอันตรายได้Napthali Roberts นักบำบัดโรคที่เกิดขึ้นในครอบครัว ได้บอกว่ามันมีกฎอยู่ 1 กฎ ชื่อว่า “one strike or you’re out” หรือแปลว่า “จะเลือกหยุดงานหรือจะเลือกออกไป” มันมีความสำคัญที่ว่า พวกเราหลายคนสร้างนิสัยชอบตั้งค่าตัวเพื่อทำลายข้อตกลง และเขายังบอกว่า เราควรหลีกเลี่ยงการคาดเดาไม่ให้ผู้อื่นทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการ และไม่ให้ผู้อื่นทำผิดพลาดกับเรา แม้จะฟังดูซ้ำซาก ความผิดพลาดมักจำเป็นต่อการเติบโตในความสัมพันธ์ เพื่อนำไปสู่การพูด นำไปสู่ความเข้าใจ เพราะไม่มีใครสมบูรณ์แบบ และเราไม่สามารถคาดหวังให้ผู้อื่นเปลี่ยนแปลงได้ สิ่งเดียวที่เราทำได้คือเปลี่ยนทัศนคติของเราที่มีต่อคนอื่นนั้นเองhttps://pixabay.com/get/ga83cbb60344dff11f72fb9c4c8766ebf3500c9fa41cbd7ad508a3ad68093f880729607569afa9f2c2cd1eaeba05e3439e141955dc06068503caf6e52db4f6acc_1920.jpgมีผลการวิจัยที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Pygmalion Effect” ซึ่งมันเป็นงานวิจัยที่บอกว่าการคาดหวังจากคนอื่นอาจเป็นเรื่องดี โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาพบว่าความเชื่อและความคาดหวังที่เรามีต่อผู้อื่นนั้น อาจส่งผลต่อพฤติกรรมที่พวกเขาแสดงออกมา ทฤษฎีที่ว่าคือการที่เรานั้นปฏิบัติต่อผู้คนให้ดีขึ้น โดยให้โอกาสเขา โอกาสประสบความสำเร็จก็จะมากขึ้น แต่ทางกลับกัน คนที่ใกล้ชิดกับเราตอนนี้มีแรงจูงใจที่จะผลักดันตัวเอง ให้บรรลุเป้าหมายบางอย่าง แล้วจะต้องการประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่เพื่อตัวเองเท่านั้น แต่เพื่อเราด้วย ซึ่งสถานการณ์นี้เรียกว่า Win-Win อย่างแท้จริง โดยพื้นฐานแล้ว ความผิดหวังจากผู้อื่นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเราคาดหวังผู้คนจะเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตนเอง เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของเรา ทั้งหมดที่สามารถทำได้จริง ๆ คือ สิ่งที่เราจะปฏิบัติต่อความสัมพันธ์ของเราด้วยความเคารพ ความเอาใจใส่ และในทางกลับกัน สิ่งนี้จะช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น และเราจะใช้ชีวิตที่ดีที่สุดของเรา การคาดหวังคือสิ่งที่อยู่นอกเหนือความควบคุมของคุณ จริง ๆ แล้วเราสามารถสนุกกับความหวังของเราได้ เราสามารถผูกสัมพันธ์กับเพื่อนของคุณ หลังจากที่คุณกลับมามีความคาดหวังสูง ซึ่งมันส่งผลต่อการตัดสินใจของคุณและอาจทำให้คุณไม่พอใจ การคาดหวังสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นได้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดว่าเราชอบอะไรมากแค่ไหน แต่แทนที่จะยึดถึงสิ่งประสบการณ์ใหม่ ๆ เราอาจจะคาดเดาไปว่าสิ่งเหล่านั้นขาดไป จริง ๆเราควรจะปล่อยวางให้ตัวเองประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และใช้เวลานั้นเพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้จากมันได้ https://pixabay.com/get/gbe5b538a2cf449d77181d8d84d05684c1ab3a968ef1c526446b19103de5111b8604977c9290f8e8792ec08ac3ccfd97e582dc7924f3a5bce208ea0465e86c00e_1920.jpgเมื่อเราพูดถึงความคาดหวังแล้ว สิ่งสำคัญน้อยกว่าสำหรับสิ่งต่าง ๆ คือ การลองหาสิ่งใหม่ ๆ ที่คาดหวังน้อยกว่าเดิม เพราะจริง ๆ แล้วเราอาจจะตระหนักได้ว่า เราไม่จำเป็นต้องคาดหวัง แน่นอนว่าประสบการณ์ประเภทนั้นอาจจะรำคาญ แต่มันก็หายไปเช่นกัน ซึ่งอาจจะทำให้เราหงุดหงิดเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมง แต่หลังจากนั้นมันก็จะหายไป และเราอาจจะมองเห็นโลกที่กว้างใหญ่ ความคาดหวังนั้นไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อตัวเรา เพราะมันไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย สิ่งที่เราทำได้คือปรับตัวและก้าวต่อไป ความแตกต่างระหว่าง "เป้าหมาย" กับ "ความคาดหวัง"การแสวงหาความสมบูรณ์แบบสำหรับตัวเราเองนั้น เป็นสิ่งที่พวกเรานั้นทำมาตั้งนานแล้ว แม้ว่าการตั้งความหวังไว้สูงสำหรับตนเองนั้น อาจจะเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง แต่มันก็เข้ามาขวางความสุขของเรามากจนเกินไป และอาจทำลายความภาคภูมิใจของตนเองได้ โดยพื้นฐานแล้วแนวความคิดที่ให้เหตุผลมีอำนาจในการปรับเปลี่ยนวิธีคิดของเรา เพื่อกำหนดความคาดหวัง และมาตรฐานสำหรับตัวเราเอง อาจนำจิตใจของเราสู่พฤติกรรมที่มีผลลัพธ์สุดท้ายที่เราต้องการได้อย่างง่ายดาย เป้าหมายถือได้ว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของความคาดหวัง เนื่องจากเป็นสิ่งที่เราตั้งใจทำงานให้จนเสร็จ ด้วยความพยายามและความเข้าใจที่เฉพาะเจาะจงของเรา ข้อดีของเป้าหมายอย่างหนึ่งคือ การมีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดที่แน่นอน โดยมีเกณฑ์มาตรฐานอยู่ระหว่างนั้น และสิ่งนี้จะสร้างสภาพจิตใจให้คุณ ไม่เพียงแต่สามารถเห็นว่าคุณใกล้จะถึงเป้าหมายของคุณแล้วหรือไม่ แต่มันจะสามารถให้เราเห็นถึงความใกล้และไกลของจุดเริ่มต้นและเป้าหมาย ซึ่งน่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้เราทำมันจนสำเร็จ https://pixabay.com/get/g9b3b8dc76f7ce9336b60bb9ab8dddb5754176f157c8504df74a6df71b26d32b8291fbf517cd2dd4d8a59fd0475dbd5eeecb6f2ec2f1efec71c966541ff49c718_1920.jpgการจัดการกับความคาดหวังนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เนื่องจากมันมีข้อดีและข้อเสียของ “ความคาดหวัง" เราควรจำไว้เสมอว่า บางสิ่ง บางอย่างอาจอยู่ในการควบคุมของเรา แต่ในขณะเดียวกันบางอย่างก็ไม่เป็นเช่นนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราจะต้องตระหนักถึงความคาดหวังทั้งหมดที่เรากำลังสร้าง และในขณะเดียวกัน ก็จะต้องเข้าใจถึงเหตุผลเบื้องหลัง ว่าทำไมเราถึงต้องการความคาดหวังเหล่านั้น ซึ่งนั่นอาจช่วยให้เราจัดการกับสิ่งที่เราต้องการได้ และอาจทำให้เรามีความสุขมากใน "ความคาดหวัง" นั่นเอง ขอขอบคุณข้อมูลประกอบบทความbustle | discovermagazine | bbc | forbes | psychologytodayขอขอบคุณรูปภาพประกอบรูปปก รูปที่ 1 Image by Pexels from Pixabay ขอขอบคุณรูปภาพประกอบบทความรูปที่ 1 Image by silviarita from Pixabay รูปที่ 2 Image by 1388843 from Pixabay รูปที่ 3 Image by Muscat_Coach from Pixabay รูปที่ 4 Image by geralt from Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !