คนต่างประเทศหลายๆคนคงอยากไปทำงานและใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้และประเทศญี่ปุ่นเพราะวัฒนธรรม J-Pop หรือ K-pop culture อย่างมังงะ อนิเมะ คอสเพลย์ การ์ตูน หรือ ไอดอล เคซีรีส์ เคดราม่า เคป๊อบ แต่พอได้มาอยู่จริงๆกลับเครียดมากๆ อย่างประเทศญี่ปุ่น หากเราเป็นโอตาคุที่มาเรียนภาษาเพราะชอบมังงะและการ์ตูน หรือเกม เราก็ต้องถามตัวเองว่าเรายอมรับได้มั้ยหากเราอยู่ในโลกที่ผู้คนในสังคมไม่ได้ให้การยอมรับเราหรือสนใจเรา หากเราคุยเรื่องความชื่นชอบหรืองานอดิเรกของเราให้ใครฟังไม่ได้เลยไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่ทำงานหรือเพื่อนสนิท แม้แต่คนญี่ปุ่นที่เป็นโอตาคุยังปรับตัวได้ยากเลยในที่ๆคนญี่ปุ่นส่วนมากรังเกียจโอตาคุ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่โรงเรียนหรือเพื่อนที่ทำงาน คนเกาหลีใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบมากๆจนมีคำติดปากว่าบัลรีๆ (เร็วๆ เร็วๆ) หากเราอยู่ในวัยทำงานแล้วบอกกับเพื่อนๆว่าชอบไอดอล เราก็อาจจะถูกมองด้วยสายตาแปลกๆนิดหนึ่ง แต่หากชอบเคซีรีส์หรือเคดราม่าเราอาจหาเพื่อนคุยกันได้ง่ายๆ หากหนังและซีรีส์เรื่องนั้นเป็นที่นิยม คนญี่ปุ่นและคนเกาหลีเป็นพวกชาตินิยมจัดๆ ขอบเขตความสนิทและความเป็นเพื่อนที่คนเกาหลีและคนญี่ปุ่นปฏิบัติต่อเพื่อนต่างชาติและเพื่อนชาติเดียวกันแตกต่างอย่างชัดเจน จนบางทีก็ดูไบแอสอย่างเห็นได้ชัด และกันคนต่างชาติให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอก แม้พวกเขาจะพูดภาษาญี่ปุ่นและเกาหลีได้อย่างคล่องแคล่ว และใช้ชีวิตทำงานในประเทศๆนั้นมายาวนานก็ตามไหนจะวัฒนธรรมการทำงานหนักและการแข่งขันกันสูงทั้งในประเทศเกาหลีใต้และประเทศญี่ปุ่น ที่คนญี่ปุ่นทำงานหนักมากจนการตะโกนออกมาท่ามกลางพื้นที่สาธารณะทั้งๆที่มีฝูงชนเดินผ่านไปผ่านมาถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติ ทั้งๆที่จริงๆ ไม่ควรเป็นเรื่องที่ปกติ หากนี้คือประเทศสากล ก็คงมีการหันไปถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า หรือมีอะไรให้ช่วยเหลือได้มั้ย แต่คนญี่ปุ่นแค่เดินผ่านไปและไม่หันมาสนใจราวกับนี้คือเรื่องที่ธรรมดาของสังคม ส่วนคนในประเทศเกาหลีใต้ก็ทำงานจนไม่มีความสุข และติดอยู่ในกรอบความคิดว่า ฉัน/ผม/เรายังไม่ดีพอ เมื่อเราอยู่ในเกาหลีใต้ มันไม่สำคัญเลยว่าเราจะมีรายได้มากเท่าไร มีตำแหน่งสูงแค่ไหน มีคนให้ความเคารพนับถือและชื่นชมเรามากยังไง เรามักจะถูกตัดสินและให้ความสำคัญจากคำติเตียนของผู้คนเสมอว่าเราไม่ดีพอ และไม่ว่าชีวิตของเราจะสำเร็จและผลงานของเราจะทำได้ดีแค่ไหน คนเกาหลีใต้มักจะไม่มีความสุขอยู่เสมอด้วยความคิด เราไม่ดีพอ หรือเรายังดีไม่พอ ทำให้พวกเขาทำงานหนักตลอดเวลาและแม้จะทำงานหนักจนเป็นวัฒนธรรม เขาก็จะยังมีความคิดแบบนี้อยู่ ทำให้ชีวิตแบบนี้เป็นชีวิตที่เครียดมากๆสำหรับคนต่างชาติที่ตอนแรกก็ไม่ได้เป็นคนแบบนี้ แต่หลังจากได้รับผลกระทบทางความคิดและผู้คนในสังคม พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะถูกทำให้มีความคิดหรือมีนิสัยร่วมแบบนี้ไปด้วย ทำให้พวกเขาอยากโบกมือลาประเทศที่พวกเขาเคยใฝ่ฝันจะใช้ชีวิตและอยากกลับบ้านเกิดของตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะทนไม่ได้ก็จริงเพราะทั้งประเทศญี่ปุ่นและประเทศเกาหลีคือประเทศที่พัฒนาทั้งการคมนาคม การขนส่ง กฎหมาย ค่าแรงขั้นต่ำที่อัตราการจ้างค่าเงินสูงกว่าบ้านเราหลายเท่าตัว แม้วัฒนธรรมการทำงานหนักและความคิดของคนที่นั้นจะดูน่าหดหู่ในและน่าเหนื่อยหน่ายใจจนคนหมดไฟได้ง่ายๆก็ตาม แต่ผู้เขียนก็อยากมีประสบการณ์ลองทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เจริญแล้วสักครั้งค่ะ อย่างน้อยถ้าไม่ได้อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน ก็คงได้ประสบการณ์ บางทีเรื่องที่เรามองว่า ฉันอาจจะสุขภาพจิตเสียกับเรื่องนี้ อาจเป็นเรื่องที่ถูกแล้วในการตัดสินใจของเราก็ได้ ขอขอบคุณ เครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canvaรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 โดย djedj/Pixabayอัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !