หลายๆคนน่าจะมีโอกาสได้ดื่มกาแฟตามร้านกาแฟต่างๆแล้วเกิดความรู้สึกชอบ อยากดื่มแบบนี้ทุกวัน แต่ไม่ค่อยมีเวลาหรือไม่สะดวกไปดื่มที่ร้านหรืออยากชงดื่มเองที่บ้าน เลยขอซื้อเมล็ดกาแฟแล้วถามวิธีการชงต่างๆมาเพื่อที่จะชงให้ได้เหมือนกับที่บาริสต้าทำให้เราดื่มที่ร้าน บาริสต้าจะบอกเราคร่าวๆว่ากาแฟตัวนี้รสชาติออกไปโทนไหน และบอกวิธีการชงให้เราเสร็จเรียบร้อย แต่พอกลับไปชงเองที่บ้าน... ... ทำไมรสชาติไม่เห็นเหมือนที่ร้านเลย?? ทั้งที่เราก็ชงตามที่บาริสต้าบอกแล้วนะ วันนี้ผม(บาริสต้า) จะมาบอกเคล็ดลับที่เพื่อนๆสามารถนำไปปรับใช้ในการชงกาแฟที่บ้านยังไง ให้ได้กาแฟ(ใกล้เคียง)กับที่ร้านกาแฟนั่นเอง ซึ่งสาเหตุหลักๆที่ทำให้รสชาติกาแฟไม่เหมือนกันนั่นก็คือ “น้ำ” ใช่แล้ว น้ำเป็นสาเหตุหลักเพราะว่ารสชาติของกาแฟนั่น สกัดออกมาผ่านน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการชงผ่านเครื่องชงกาแฟหรือการดริปกาแฟและวิธีอื่นๆ ทำไมน้ำถึงมีผลต่อรสชาติ?? ปกติแล้วในน้ำดื่มทั่วไปที่เราใช้ดื่มกันนั้นจะมีแร่ธาตุต่างๆอยู่ น้ำแต่ละแบรนด์นั้นจะมีแร่ธาตุต่างกัน ซึ่งตัวแร่ธาตุนี่แหละที่ทำให้รสชาติที่ชงออกมาต่างกันนั่นเอง ร้านกาแฟส่วนใหญ่จะใช้น้ำที่ไม่มีแร่ธาตุ(หรือมีแร่ธาตุน้อยมาก)หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าน้ำRO(Reverse Osmosis) เพื่อทำให้สามารถดึงรสชาติของเมล็ดกาแฟออกมาได้ โดยที่ไม่มีแร่ธาตุเข้ามาทำให้รสชาติเปลี่ยนไป ตัวอย่างเช่น เราซื้อเมล็ดกาแฟจากร้านกาแฟที่เราชอบมา 1 ถุง ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟตัวเดียวกันกับที่ร้านกาแฟใช้ บาริสต้าชงที่ร้านกาแฟ ใช้ : น้ำ (RO) = ได้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เราชงเองที่บ้าน ใช้ : น้ำแร่(A) = ได้รสชาติหวานอย่างเดียว ใช้ : น้ำดื่ม(B) = ได้รสชาติเปรี้ยวอย่างเดียว ในตัวอย่างนั้น จะเห็นว่า เราใช้เมล็ดกาแฟตัวเดียวกัน วิธีการชงแบบเดียวกัน แต่ใช้น้ำคนละแบรนด์หรือน้ำที่มีแร่ธาตุต่างกัน ทำให้ชงออกมาแล้วได้รสชาติที่ต่างกันออกไป การที่เราได้ลองใช้น้ำหลายๆแบบมาชงนั้น จะสามารถฝึกให้เราได้เรียนรู้และลองรสชาติกาแฟใหม่ๆได้ด้วย ซึ่งมันไม่มีถูกหรือผิด ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลยครับ บทความนี้ ผมเขียนขึ้นมาเพราะอยากแชร์ความรู้ประสบการณ์ที่ทำงานในร้านกาแฟให้เพื่อนๆได้สามารถนำไปปรับใช้กัน อยากให้ทุกคนได้มีกาแฟแก้วโปรดของตัวเอง บทความต่อไปจะมีเรื่องราวอะไรมาแชร์ สามารถกดติดตามไว้ได้เลยครับ เครดิต : ประสบการณ์การทำงานโดยตรง เรียบเรียง : BaristaYo รูปภาพ : Cover / 01 / 02 / 03 / 04 / 05