ขอบคุณรูปภาพจาก : Free-Photos ใน pixabay ผมเป็นหนึ่งในหลายร้อยล้านคนที่หลงรักในกีฬาที่ว่ากันว่าไม่ใช่เป็นเพียงแค่กีฬา แต่ยังเป็นถึงชีวิต หัวใจ หรือจิตวิญญาณของใครหลายคน จะว่าไปแล้วในโลกของฟุตบอลแทนที่จะมีเพียงแค่การแข่งขันที่จบลงด้วยเวลาเพียง 90 นาทีเท่านั้นที่ควรถูกสนใจ ทว่าก่อนเสียงนกหวีดจะเริ่ม เราได้เห็นถึงความหวังของคนหลายคน ความมุ่งมั่น ความกระหายในชัยชนะ รวมไปถึงภูมิหลังที่แสนเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าในวัยเด็ก การถูกดูแคลน การตราหน้าว่าตัวเล็กผอมแห้งหรือตัวสูงเก้งก้างเกินไป การต้องทนดูเหล่าเพื่อนในรุ่นประสบความสำเร็จไปทีละคน การหมั่นฝึกซ้อมในวันที่เหน็บหนาว การร้องไห้หลังจากที่เพื่อน ๆ กลับไปพักผ่อนหลังซ้อมเสร็จ ของเหล่านักเตะทั้งหลาย เหล่านี้คอยหล่อหล่อม ปลุกปั้น คน ๆ หนึ่งที่มีฝันอันยิ่งใหญ่ให้กลายเป็น นักเตะที่เจิดจรัญเฉิดฉายบนเวทีลูกหนัง ขอบคุณรูปภาพจาก : tookapic ใน pixabay เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น สำหรับการแข่งขันบางแมตช์แล้ว ทำเอาสายตาเกือบทุกคู่บนโลกจับจ้องไปยังพื้นสนามสีเขียวที่มีผู้เล่น 22 คน ที่ฟาดฟันกันด้วยทักษะ พลังกำลัง ความมุ่งมั่น ความศรัทธา และความคาดหวังของเหล่าแฟนบอล เพื่อหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นเสียมากกว่าชัยชนะเหลือคู่แข่ง ขณะนั้นเองเราได้เห็นผู้ที่เป็นดั่งภาพแทนความสงบสุข ความรัก และความเมตตา อย่าง Mohamed Salah เราได้เห็นผู้ที่เปรี่ยมไปด้วย Passion อย่าง Lionel Messi แม้กระทั่ง ผู้ซึ่งเป็นภาพแทนความมีวินัยและความเป็นมืออาชีพอย่าง Cristiano Ronaldo ขอบคุณรูปภาพจาก upstairsgbr ใน pixabay ขณะที่เกมส์กำลังดำเนินไป เราได้เห็นการแก้สถานการณ์ของทั้งเหล่านักเตะ และผู้จัดการทีด้วยความฉลาดหลักแหลมและเป็นมืออาชีพ เราลุ้นแทบบ้าในขณะที่ทีมที่เราเชียร์เป็นฝ่ายบุก และแทบลืมหายใจในขณะที่ฟุตบอลถูกยิงด้วยจังหวัง น้ำหนัก และทิศทางที่พอดีและลงตัวเสียยิ่งกว่าการเกิด Big Bang ของจักรวาล อย่างไรก็ตาม มันมักจะมีบางจังหวะที่ทำให้เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำตัดสินของกรรมการ แม้กระทั่งกับเพื่อนของเราที่เชียร์ฝั่งตรงข้าม ความหัวร้อนหัวเสียยิ่งทวีขึ้น เมื่อจังหวังดังกล่าวเป็นการฟาวล์ในกรอบเขตโทษ จากนั้นไม่กี่นาทีเรากลับมาสะใจอีกเป็นเท่าทวี หลังจากที่ฟุตบอลถูกผู้รักษาประตูปัดไปชนค้านแล้วแฉลบออกหลัง ทว่าอาการหัวเสียกลับมาอีกครั้งเมื่อคู่แข่งได้ประตูจากลูกแตะมุม ด้วยการเปิดไปที่เสาสองแล้วกองหลังฝั่งเราสกัดออกมา ทว่าทีมคู่แข่งกดติดสูตรปั่นโค้ง ๆ จากมุมด้านขวาของกรอบเขตโทษ พุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ซึ่งก็ประมาณนี้แหละครับ ขอบคุณรูปภาพจาก bici ใน pixabay พอเมื่อเสียงสัญญาณบอกว่าหมดเวลา เราได้เห็นอารมณ์ที่พรุกพร่าน ฉูบฉีด เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีในหมู่แฟนบอลที่ฝั่งที่คว้าชัย ขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่หดหู้เศร้าหมองของฝ่ายที่ปราชัย มากไปกว่านั้น ในบางเกมส์ที่ผลออกมาเสมอกัน เรามักจะได้เห็นทั้งความพอใจของฝ่ายที่เป็นรอง และความหัวเสียของฝ่ายที่เป็นต่อ รวมไปถึงการออกมาวิเคราะห์ถึงจุดแข็งจุดอ่อนของเหล่ากูรูทั้งหลาย ขอบคุณรูปภาพจาก 7721622 ใน pixabay กลับไปที่หัวเรื่องของบทความอีกครั้งครับ ที่ว่า “ทำไมต้อง...ฟุตบอล” สำหรับผมแล้ว ฟุตบอลนอกจากจะเป็นกีฬาที่หนึ่งในใจที่สนุกและทำให้มีชีวิตชีวา ฟุตบอลยังสอนให้รู้จักความรัก ความเอาใจใส่ ความหลงใหล รวมไปถึงความมีวินัยและความเป็นอาชีพ นอกจากนั้น ยังมีอีกหลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกฟุตบอล ที่ไม่สามารถเขียนออกมา เล่าออกมา หรือแสดงออกมาได้ หากแต่มันสามารถทำให้เราปลื้มปิติจนต้องน้ำตาไหลได้ สุดท้าย...ขอบคุณที่อ่านจนจบ...และขอให้มีความสุขกับศาสตร์แห่งลูกหนังครับ