ทำไมมนุษย์เราถึงขี้เกียจ? และการขี้เกียจส่งผลดีไหม? โดยรวมเเล้วเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าความขี้เกียจนั้นคืออะไร โดยปกติธรรมชาติของมนุษย์นั้นย่อมมีความรักสบายเป็นธรรมดาจึงไม่เเปลกที่มนุษย์ส่วนใหญ่จะมีอาการขี้เกียจแต่ก็มีหลายครั้งที่มนุษย์นั้นขี้เกียจจนสร้างปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน นั่นจึงนำไปสู่คำถามที่ว่าทำไมมนุษย์ถึงขี้เกียจ?การที่มนุษย์นั้นขี้เกียจมันไม่ได้มีสาเหตุหรือเหตุผลที่ซับซ้อนเลยแต่เป็นเพราะ " มนุษย์ชอบที่จะทำเรื่องง่ายๆ มากกว่าเรื่องที่ยุ่งยากและจัดการลำบาก ยกเว้นแต่ว่าจะมีเเรงจูงใจหรือเป้าหมายที่ชัดเจน "นั่นจึงเป็นสาเหตุว่า ทำไมตอนที่คุณไม่มีเเรงจูงใจและไม่มีเป้าหมายคุณถึงได้ขี้เกียจและเสียเวลาทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์แต่ถ้าหากคุณมีเป้าหมายเเละเเรงจูงใจที่จะทำสิ่งต่างๆ คุณก็สามารถที่จะเอาชนะความขี้เกียจได้ เช่นกันถ้าหากคุณมีเป้าหมายว่าอยากจะมีหุ่นในแบบที่คุณฝันไว้คุณอาจเลือกลงมือออกกำลังกายมากกว่านั่งขี้เกียจก็ได้ขี้เกียจส่งผลดีอย่างไร?ในประเด็นนี้หลายๆ คนคงมีความคิดเห็นที่ว่าความขี้เกียจนั้นน่าจะส่งผลร้ายมากกว่าที่จะส่งผลดีเนื่องจากที่ว่าหลายๆ คนนั้นอาจจะเคยพบเจอกับปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันซึ่งส่งผลมาจากความขี้เกียจจึงทำให้หลายๆ คนมองว่าความขี้เกียจนั้นคือปัญหาและมองข้ามส่วนที่ดีของมันไปถ้าหากเราลองมองอีกด้านหนึ่งของความขี้เกียจดูเราจะพบว่า ความขี้เกียจนั้นสามารถช่วยในการพัฒนาของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างมหาศาลถ้าหากไม่มีคนขี้เกียจที่จะชงกาเเฟกินในทุกๆ เช้า เครื่องชงกาเเฟที่พวกเราใช้อยู่ในปัจจุบันคงไม่ได้ถูกคิดค้นขึ้นมาอย่างเเน่นอน หรือ ถ้าหากไม่มีคนขี้เกียจที่จะใช้แป้นพิมพ์พิมพ์ตัวอักษรทีละตัว การพิมพ์ หรือ การสั่งการด้วยเสียงคงไม่เกิดขึ้นซึ่งการสร้างสิ่งของที่ให้ความสดวกสบายและตอบสนองต่อความขี้เกียจในชีวิตประจำวันของผู้คน บางธุรกิจสามารถทำเงินได้จนกลายเป็นธุรกิจที่ใหญ่โตเลยก็มีโดยสรุปแล้วความขี้เกียจนั้นส่งผลทั้งดีเเละร้ายขึ้นอยู่กับว่าคุณจะสามารถควบคุมหรือนำมันมาใช้ประโยชน์ได้มากแค่ไหนถ้าคุณอยากที่จะจัดการกับความขี้เกียจในตัวคุณ คุณควรฝึกที่จะรับมือกับมัน หรือ หาหนังสือในการพัฒนาตัวเองมาอ่านสักเล่ม ถึงมันอาจจะช่วยคุณได้ไม่มากเท่าไหร่เเต่ก็พอเป็นแนวทางให้คุณจัดการกับความขี้เกียจในตัวของคุณได้ All Creditภาพที่ 1 ( ภาพปก )ภาพที่ 2ภาพที่ 3ภาพที่ 4