ทำไมลูกน้อย? สะอึก , แหวะนม บิดตัว นอนผวา วันนี้คุณแม่ยุงลายมีความรู้เกี่ยวกับลูกน้อยมาฝากคุณแม่ทุกคนค่ะ คุณแม่หลายคนอาจจะมีความกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องลูกท้องอืด ลูกสะอึก มันเป็นภาวะที่เกิดจากการที่เด็กทารกแรกเกิด ซึ่งเด็กก็จะต้องมีการดูด การกลืน แล้วก็การหายใจ ซึ่งเด็กจะทำทั้ง 3 อย่างนี้ไปพร้อมๆ กัน แต่ช่วงแรกเกิดเด็กอาจจะยังฝึกไม่เก่งมาก มีการดูด กลืน กลั้น ไม่หายใจบ้าง หรือว่าอาจจะมีการดูดๆ แต่ไม่ยอมกลืนก็มี ซึ่งก็เลยทำให้การทำงานของกระบังลมเคลื่อนไหวได้ผิดจังหวะก็เลยทำให้เด็กสะอึก อาการสะอึกมักจะเป็นหลังจากที่เด็กกินนมเสร็จใหม่ๆ แต่ว่าไม่ผิดปกติ ภาวะสะอึกในเวลาที่เด็กเป็นจะสะอึกไม่เคยเกินครึ่งชั่วโมงแล้วก็มีวิธีแก้ไข คือ เราก็จะต้องทำให้ลูกเรอ โดยการอุ้มพาดบ่าก็ได้หรือว่าจะเป็นอีกวิธี คือ จับลูกนั่ง เวลาที่เราจับลูกนั่งก็จะช่วยไล่ลมแล้วทำให้อาการสะอึกดีขึ้น แต่ก็มีคนเฒ่าคนแก่บอกให้กินน้ำหรือไม่ก็ให้กินนมตอนที่สะอึก อันนี้ไม่แนะนำให้ทำนะคะ เพราะว่าถ้ายิ่งทำจะทำให้อาการสะอึกของลูกเป็นหนักขึ้นแล้วบางทีก็จะสำลักได้ มีอีกหลายอย่างที่คุณพ่อคุณแม่จะกังวลนอกจากเรื่องสะอึก บางทีเราจะได้ยินคำถามว่าลูกแหวะนมบ่อย คือ กินๆ เสร็จแล้วก็แวะออกมา ส่วนมากก็จะเป็นหลังจากกินนมทันที หรือไม่ก็หลังจากที่กินนมไปแล้วประมาณ 30 นาที บางครั้งมีแหวะออกมาที่มุมปากบ้างหรือแหวะแล้วก็มีอาการที่ออกมาทางจมูกด้วย ก็เลยทำให้คุณพ่อคุณแม่ตกใจ แต่จริงๆ แล้วอาการแหวะนมเป็นเรื่องปกติเช่นกัน เพราะว่าเด็กทารกแรกเกิดนั้นจะมีเรื่องของกล้ามเนื้อหูรูดที่หลอดอาหารส่วนปลายกับตัวกระเพาะไม่แน่น เพราะฉะนั้นเวลาที่เขากินนมในปริมาณที่มาก หรือว่ากินนมแล้วไม่ได้ไล่ลมออกก็จะมีนมที่ล้นขึ้นมาที่หลอดอาหาร แล้วทำให้เด็กแหวะนมออกมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือการแหวะนมอาจจะมีส่วนมาจากการที่ให้ทารกดื่มนมที่มากเกินไป นมก็จะเกินปริมาณความจุของกระเพาะ วิธีจริงๆ แล้วการที่ลดอาการแหวะในเด็กก็อาจจะเริ่มจากไม่ควรให้นอนหงายแล้วป้อนนม หรือบางทีจะมีผ้ามาพันๆ แล้วก็มาดันขวดนมไว้ ซึ่งเราจะเจอบ่อยในการเลี้ยงลูก บางทีก็ให้ลูกนอนแล้วแม่ก็ป้อนนมไป แต่วิธีป้อนนมที่ดี คือ เราต้องอุ้มลูกทุกครั้ง อุ้มเฉียงๆ ขึ้น คือ เป็นท่ากึ่งนอนกึ่งนั่ง ซึ่งถ้าเอาเข้าเต้าหรือให้นมแม่เราก็จะอุ้มลูกอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าในปัจจุบันบางคนก็จะมีการเลี้ยงลูกด้วยนมผสม แนะนำให้คุณแม่อุ้มป้อนทุกครั้งจะดีกว่า และจะช่วยลดอาการแหวะนมได้ แล้วก็ลดอาการลมที่อยู่ตรงบริเวณขอบจุกนมเข้าท้องได้ หรืออีกอันหนึ่งก็คือ อาจจะนอนหัวสูงหน่อย อาจจะเป็นหัวสูงจากพื้นราบประมาณ 10 องศา ในปัจจุบันมีหมอนขาย แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อก็คือ เราอาจจะไปหาผ้ามาหนุนให้ได้องศาตามที่บอก แล้วก็ถ้าเกิดว่าลูกเรอเสร็จแล้วแม่ๆ อาจจับให้ลูกนอนตะแคงขวาลงนิดหนึ่ง เพื่อให้ตรงกระเพาะอยู่สูงหน่อยเพื่อช่วยลดอาการนมล้นขึ้นมาได้ ที่ต้องให้นอนตะแคงขวาอย่างเดียวเพราะจะทำให้หูรูดกระเพาะและก็หลอดอาหารไปอยู่ด้านบน ส่วนอีกเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่กังวลใจกัน คือ การที่ลูกบิดตัวบ่อย เมื่อคุณพ่อคุณแม่เห็นลูกบิดตัวเยอะๆ ก็จะคิดว่าปวดท้องรึเปล่า บางคนจะบิดตัวจนหน้าดำหน้าแดง และบิดหลังจากที่กินนมเสร็จกับก่อนที่ลูกจะถ่ายท้องหรือบิดหลังจากตื่นนอน แล้วเมื่อลูกบิดดตัวมากๆ พ่อแม่ผู้ปกครองก็จะคิดว่าท้องอืดรึเปล่า เพราะเวลาบิดเสร็จเด็กก็จะกลั้นหายใจแล้วท้องโต เขาจะคิดว่าปวดท้อง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ และการบิดตัวก็คือเป็น Reflex อย่างหนึ่งของเด็ก ซึ่งเด็กจะต้องบิดตัวอยู่แล้ว เดี๋ยวพออายุสักประมาณ 3 อาทิตย์จนถึง 2 เดือนก็จะไม่มีแล้ว เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่กังวล แต่จริงๆ ไม่มีอะไร รวมถึงการนอนผวาของลูกน้อยด้วย บางคนก็จะบอกว่าทำไมลูกนอนผวาบ่อยจัง บางคนคิดว่าพอลูกนอนผวาแล้วลูกจะตื่น คุณพ่อคุณแม่บางคนก็ใช้วิธีไปซื้อหมอนกันผวามาใช้ก็มีนะคะ ปัจจุบันมีขายแต่ว่ามันไม่ได้มีผล ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะว่าการนอนผวาเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าลูกเราได้ยินเสียงที่ปกติ คือ แสดงว่าประสาทสัมผัสของลูกเราไวต่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นการคลี่ผ้าหรือแค่ปิดประตูบางทีลูกก็ผวาขึ้นมา อันนี้ก็เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่เจอได้ แล้วมันเป็น Reflex ของร่างกายด้วยค่ะ แล้วอีกอย่างก็คือ การผวาหรือหลับอยู่แล้ว แบบเหมือนลูกหลับไม่สนิท เหมือนกระตุกนิดๆ อะไรอย่างนี้ มันเป็นภาวะที่เวลาลูกหลับลึกและลูกเข้าสู่การนอนแบบ Rapid eye movement หรือ REM Sleep ลูกจะเป็นแบบนั้น ซึ่งเด็กทารกจะนอนแบบ REM Sleep มากกว่าแบบ Non-REM Sleep ซึ่งเราจะเจอได้ การที่ลูกขยับตัวสะดุ้งผวาไม่ได้หมายความว่าลูกตื่น แต่คือเขาหลับอยู่ค่ะ มันเป็นกลไกของเขาที่เขานอนแบบนั้น แล้วสักพักเขาจะหายไปเองเหมือนกันค่ะ....เป็นกำลังใจให้แม่ๆทุกคนนะคะ ภาพประกอบโดย "ยุงลาย ยุงลาย"