ยุโรปไกลไหม? ถ้าเป็นยุคก่อนๆ ที่ยังไม่มีเครื่องบิน ก็คงไกล ต้องใช้เวลาบนเรือเป็นเดือนๆ กว่าจะไปถึง สำหรับยุคนี้ ก็ไกลเหมือนเดิมแหละ (แน่ล่ะสิ ระยะทางมันก็เท่าเดิมนี่นา) แต่แค่การมีเครื่องบิน ทำให้เวลามันสั้นลง นอนหลับข้ามคืนสิบสองชั่วโมง ตื่นมาก็ยุโรปแล้ว ยุโรปแพงไหม? ถ้าเป็นยุคก่อนๆ ที่การเดินทางออกนอกประเทศยังเป็นเรื่องยาก การจะซื้อตั๋วเครื่องบินต้องทำผ่านนายหน้า การขอวีซ่าช่างดูยากเย็น ก็คงแพง แต่สำหรับยุคนี้ที่อะไรๆ ก็เข้าถึงได้ด้วยระบบอินเทอร์เน็ต เชื่อมโยงทั่วโลก และหลายสิ่งที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องผ่านคนกลาง ต้นทุนลดลง เงินในประเป๋าก็เหลือเยอะขึ้น ยุโรป ขอวีซ่ายากไหม? ถ้าเป็นยุคก่อนๆ ที่ยังต้องเดินทางไปสถานทูตด้วยตัวเองหลายๆ ครั้ง การเตรียมเอกสารต้องขอความช่วยเหลือจากนายหน้าหรือผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลก็เข้าถึงยากกว่าจะรู้ว่าต้องเตรียมอะไร ต้องผ่านขั้นตอนยังไง ก็คงยาก แต่สำหรับยุคนี้ ข้อมูลแทบทุกอย่างสามารถเข้าถึงได้ง่าย ที่ไม่ง่ายก็โทรถามเพิ่มเติม เราแค่ต้องเตรียมตัวตามข้อแนะนำและรายการเอกสารที่ถูกแปะไว้บนหน้าเว็บไซต์ ทุกสิ่งอย่างดูง่ายลงหลายขั้น ไหนๆ ก็ได้เกิดมาในยุคนี้แล้ว อะไรๆ ก็ง่ายขึ้นแล้ว ลองออกไปผจญภัย เปิดหูเปิดตา เปิดโลกกันดีไหม ถ้ายังไม่รู้ว่าทำไมต้องไปเที่ยวไกลถึงยุโรปให้เปลืองเงินเปลืองทอง วันนี้เรามีเหตุผลมาฝากให้พิจารณาค่ะ ปุจฉา: ทำไมเราจึงควรไปเยือนยุโรปให้ได้สักครั้งในชีวิต วิสัชนา: ข้อ 1 เพราะตัวตนของเราจะลดลง บรรยากาศของกลุ่มประเทศในยุโรปมีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง แต่แค่คล้ายคลึงนะคะ พอก้าวข้ามพรมแดนเข้าไปในเขตของแต่ละประเทศแล้ว ลักษณะนิสัยของผู้คน สำเนียงการพูด ความรู้สึกของเราภายใต้ดินแดนของประเทศนั้นก็จะเปลี่ยนไป แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่มีร่วมกันของแทบทุกประเทศก็คือ ประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งที่เราสัมผัสได้ผ่านสถาปัตยกรรม ตึกรามบ้านช่อง โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ การวางผังเมือง ไปจนกระทั่งวัสดุปูพื้นถนนหนทางกันเลยทีเดียว อาคารใหญ่มหึมาทำให้เราตั้งคำถามขึ้นมาโดยอัตโนมัติว่า ในยุคโบราณกาลนั้น เขาสร้างสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และสวยงามขนาดนี้ได้ยังไง การไปยืนอยู่ตรงนั้น ตัวเราจะหดลง หดลง และรู้สึกว่า เรานี่ตัวกระจิ๋วเดียวเอง ไม่เพียงแค่ตึกรามบ้านช่องที่มหึมา ลักษณะรูปร่างของผู้คนยังทำให้เราเข้าใจแจ่มแจ้งว่า ทำไมจึงต้องแบ่งเสื้อผ้าเป็นไซส์คนยุโรป ไซส์คนเอเชีย สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่จอดไว้ริมทางสำหรับให้ผู้คนใช้แอพลิเคชั่นในมือถือเช่าใช้บริการ สำหรับเรานั้น อื้อหือ ลองขึ้นไปยืนแล้วให้ฟีลเหมือนยืนเกาะกำแพงชะเง้อดูอะไรสักอย่าง ไซส์มันไม่ได้จริงๆ บรรยากาศโดยรอบอย่างที่เล่ามาคร่าวๆ บวกกับลักษณะนิสัยของผู้คนที่ไม่แคร์สายตาคนอื่นและไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้าน ทำให้เราไม่จำเป็นต้องสร้างภาพ ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอคนรู้จักหรือถูกเอาไปนินทา ไม่ต้องพยายามดูดีตลอดเวลา ไม่ต้องแต่งหน้าหนาเตอะด้วย เราสามารถละวางตัวตนที่เราจำเป็นต้องสร้างเมื่ออยู่ในที่ที่รายล้อมด้วยผู้คนที่รู้จักเรา สำหรับยุโรป เราหน้าสดออกไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตก็ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลก ใครๆ ก็ทำกัน ใครๆ ก็ทำแค่อะไรที่ตัวเองอยากทำ ความเป็นยุโรปทำให้ตัวตนที่เป็นเปลือกของเราหายไป และให้โอกาสตัวตนที่แท้จริงของเราได้งอกงาม ข้อ 2 เพราะยุโรปคือความงดงาม นอกจากสถาปัตยกรรมสวยงาม (และยิ่งใหญ่มากๆ ไซส์บิ๊กเบ้อเริ่ม) แล้ว ความเย็นและสภาพภูมิอากาศที่คนเอเชียอย่างเราถึงขั้นยะเยือก ยังเป็นวัตถุดิบชั้นดีที่ผลักให้เราออกไปสัมผัสความอบอุ่นของบรรยากาศบ้านเมือง คนยุโรปชอบออกมาอาบแดด (เพราะการอยู่แต่ในบ้านแล้วเปิดฮีทเตอร์นานๆ มันอุดอู้มากๆ เหมือนเราที่ต้องกักตัวกันในช่วงโควิด-19 ยังไงล่ะ) ปั่นจักรยาน เดินเล่น ขยับเขยื้อนเพื่อสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย และด้วยความที่ผู้คนต้องออกมาเดินกันมากมาย หลายสถานที่ในย่านชุมชนจึงกลายเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์บ้าง นั่งชิลบ้าง เป็นซุ้มร้านค้าบ้าง แต่ที่เราชอบที่สุดคือ การที่ได้ออกไปเดินตามจัตุรัส ย่านหอนาฬิกาของหลายๆ เมือง ในย่านนั้นส่วนใหญ่จะมีโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ เปล่าค่ะ เราไม่ได้อินกับประวัติศาสตร์หรือคงแก่เรียนมุ่งสู่วิชาการอะไรขนาดนั้น ประเด็นสำคัญคือ ที่หน้าโบสถ์หรือสถานที่สวยๆ เหล่านั้น ผู้คนจะเดินผ่านไปมากันเยอะ จึงมักจะมีนักดนตรีเปิดหมวกมาแสดงฝีไม้ลายมือกันแทบทุกจุด นั่นแหละ สิ่งที่เราหลงรัก ท่ามกลางอากาศหนาว ยืนเอามือล้วงกระเป๋าเสื้อโค้ท ฟังเพลงเพราะๆ จากนักดนตรีเปิดหมวก สายตาสามารถเลือกวางไว้ที่นักดนตรีก็ได้ หรือจะกวาดไปรอบๆ สำรวจความงดงามทุกซอกทุกมุมของตึกรามบ้านช่องก็ได้...เป็นโมเมนท์ที่เราเชื่อว่าหลายคนจะหลงรักอย่างแน่นอน นอกจากดนตรีสดจากนักดนตรีเปิดหมวดตามถนนหนทางแล้ว ดนตรีแบบหรูหรามีระดับที่เล่นในฮอลล์ใหญ่ฮอลล์เล็ก ก็ยังสามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วย เพราะเปิดการแสดงแทบทุกวัน อยากดูก็แค่ไปซื้อบัตรช่วงบ่ายหรือเย็น แล้วรอเข้าไปนั่งชมช่วงค่ำ ดื่มด่ำบรรยากาศดนตรีอลังการก่อนนอน ฝันดีไปหลายคืนเลยค่ะ นี่อาจจะเป็นเหตุผลว่า ทำไมนักดนตรีชื่อก้องโลกหลายคนถึงมีถิ่นกำเนิดจากประเทศทางฝั่งยุโรป อาจเพราะบรรยากาศมันเป็นใจและสภาพวัฒนธรรมที่มีนิยมความงดงามของดนตรีนี่กระมัง ข้อ 3 เพราะยุโรปเป็นแหล่งเรียนรู้ อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น อาคารบ้านเรือนของประเทศในยุโรป โดยเฉพาะย่านชุมชน ส่วนใหญ่สร้างไว้เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ ร้านค้า โดยที่พิพิธภัณฑ์นั้นไม่ต้องพูดกันเยอะ อยากรู้อยากเห็นอะไร เดินเข้าไปซื้อบัตรแล้วสัมผัสได้เลย มีทั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ พิพธภัณฑ์ธรรมชาติ (จัดนิทรรศการและอธิบายเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ โลก ระบบนิเวศ สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ฯลฯ) หลากหลายสาขาความรู้ให้เราได้เลือกตักตวง และไม่ว่าจะเดินไปตรอกไหน นอกจากซูเปอร์มาร์เก็ตที่ขายของยังชีพแล้ว เราก็ยังจะพบร้านหนังสือไม่ว่าจะร้านเล็กๆ หรือร้านใหญ่ๆ อีกด้วย ร้านหนังสือในประเทศของเราอาจจะอยู่ลำบาก แต่ร้านหนังสือในยุโรป น่าจะอยู่ไปอีกนาน ด้วยภูมิปัญญาของคนยุโรป ลักษณะสังคมที่ส่งเสริมการสร้างตัวตนอย่างอิสระ ไม่บีบบังคับ ไม่ตีกรอบ แต่สนับสนุนด้วยทรัพยากรและวัตถุดิบให้เราเลือกไปปรุงแต่งสร้างตัวเอง การไปยุโรปอาจไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่คือการเดินทางเพื่อปลดปล่อยเปลือกและปลูกสร้างตัวตน หมดโควิด-19 แล้ว ลองดูสักครั้งไหมคะ ภาพทั้งหมดโดย : นักเขียน