การพัฒนาตัวเองเสมอ จะช่วยให้ชีวิตเราไม่สิ้นหวังยังไงล่ะ!หลายคนคงจะสงสัยกันใช่ไหมว่าแล้วใครจะไม่อยากพัฒนาตัวเองล่ะ เอาจริงๆตอนแรกก็สงสัยเหมือนกันแต่พอได้เจอคนเยอะๆก็รู้ว่ามีคนที่ไม่อยากพัฒนาตัวเองจริงๆนะก็ทำให้เกิดปัญหามากในการทำงาน เพราะคนเหล่านี้มัวแต่เกี่ยงงานให้กับคนอื่นทำ แล้วผลที่เกิดขึ้นคือเมื่อใช้แต่คนอื่นทำคนอื่นก็เก่งไง แต่ตัวเองไม่เก่ง ในที่นี้เราอยากจะให้เพื่อนๆทุกคน ใส่ใจกับการพัฒนาตัวเองจริงๆนะ บางทีพอเราใช้ชีวิตหรือทำงานไปทุกๆวันเราจะเกิดอาการเฉื่อยชาและเคยชินจนในที่สุดก็ใช้ชีวิตไปวันๆ จะกลายเป็นการใช้เวลาไม่คุ้มค่าเลย ถ้าเวลาที่เราใช้ไปนั้นไม่ได้เกิดการพัฒนาตัวเองแล้วล่ะก็ มันน่าเสียดายจริงๆนะข้อดีของการพัฒนาตัวเองเสมอ เมื่อเราหมั่นฝึกฝนตัวเองเสมอ เราจะกลายเป็นคนที่มีความสามารถที่ติดกับตัวเราเอง ไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหนเราก็อุ่นใจที่เรามีความสามารถและทักษะในด้านต่างๆ คือเราจะกลายเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองโดยอัตโนมัติเลยแล้วด้วยความที่เรามันฝึกฝนตัวเองเสมอ ก็ส่งผลให้หน้าที่การงานเติบโตรวดเร็วยิ่งขึ้น เราจะมี performance ที่ดี มีผลงานที่ดีในสายตาเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าแน่นอนส่วนในเพื่อนๆที่ทำงาน ในด้านการเป็นนายตัวเอง การเป็นฟรีแลนซ์ หรือในด้านการทำธุรกิจ ก็ยิ่งต้องพัฒนาตัวเองมากขึ้นไปอีก เพราะยิ่งเรามีสกิลที่เชี่ยวชาญมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งสร้างสรรค์ผลงานให้ตัวเองได้มากเท่านั้น ชีวิตการทำงานไม่น่าเบื่ออีกต่อไป เรียกได้ว่าเราจะมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพื่ออัพเดทสกิลใหม่ๆ รีสกิลเดิม เราจะกลายเป็นคนที่ตั้งเป้าหมายให้ตัวเองพัฒนาในสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา พูดง่ายๆก็คือเราจะกลายเป็นคนที่รู้ว่าตัวเองตื่นมาแล้วจะทำอะไร เราจะตื่นเต้นกับเช้าวันใหม่ แทนที่จะเป็นคนเดิมที่ตื่นขึ้นมาแล้ว "เฮ้อ วันนี้เราต้องไปทำงานอีกแล้วหรอ"มาดู 4 เทคนิคดีๆในการพัฒนาตัวเองกันดีกว่าหากระดาษมาสักแผ่น ดินสอซักแท่ง แล้วแบ่งกระดาษออกเป็น 3 ช่องเพื่อเขียนหัวข้อต่อไปนี้1. รู้จักตัวเอง จะเขียนสิ่งที่เราอยากพัฒนาตัวเองลงไป เขียนถึงลักษณะของตัวเองในตอนนี้ว่าเราเป็นอย่างไร เช่น เราพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง เราขี้ลืมจำรายละเอียดงานไม่ค่อยได้ เราชอบไปทำงานสาย เป็นต้น 2. เป้าหมายที่เราอยากเดินไปถึง เป็นสิ่งที่เราอยากเปลี่ยนแปลง ในช่องนี้จะเป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้เรา เราจะเขียนถึงทิศทางที่เราจะเปลี่ยนแปลงไป เป้าหมายของเราคืออะไร เช่น เราจะพูดภาษาอังกฤษได้ในอีก 1 เดือน เราจะบริหารจัดการงานได้ดีมากขึ้น เราจะจัดระเบียบความคิดของตัวเองได้ดีมากขึ้น เราจะไปทำงานก่อนเวลา 30 นาที เป็นต้น3. เราจะไปสู่เป้าหมายได้ต้องทำอย่างไรล่ะในที่นี้เราต้องเขียนวิธีที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายนั้นได้ เขียนวิธีการอย่างละเอียดอย่างเป็นรูปธรรมว่าเราต้องทำอย่างไรบ้าง ศึกษาเรื่องนั้นอยากเข้าใจลึกซึ้งถูกต้องเหมาะสมที่สำคัญต้องเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราด้วยนะ เช่น วิธีที่จะพูดภาษาอังกฤษให้ได้ภายใน 1 เดือน คือ การฟังและท่องจำคำศัพท์และวลีประโยครูปแบบการพูดภาษาอังกฤษให้ได้จำนวนหนึ่งให้มากที่สุดการท่องคำศัพท์ใน YouTube การฝึกฟังประโยคต่างๆแล้วฝึกพูดตามนั้นด้วยความมั่นใจ จำรูปแบบประโยคโครงสร้างประโยคและความหมายได้ หรือจะเข้าไป support เราได้ที่ ยูทูป Learn English on your own ในที่นี้เราตั้งใจว่าจะสะสมคำศัพท์และโครงสร้างประโยคต่างๆมาให้ทุกคนได้ท่องกันนะ ไปท่องศัพท์กันเล้ย เอาให้เต็มที่ 1036 ท่องศัพท์ Toeic การดูหนังภาษาอังกฤษช่วยให้รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ต้องพูดแบบไหน ต้องพูดคำว่าอะไร อันนี้จะช่วยให้เราเข้าใจบริบทของการพูดมากขึ้นคล้ายๆกับการสะสมชั่วโมงบินในการฝึกฝนตนเอง เราต้องฟังและสะสมให้มากที่สุด เป็นการ input เข้าไปมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แล้วก็ฝึก output ออกมาให้เป็นอัตโนมัติมากขึ้น วิธีนี้จะช่วยให้เราพูดได้เร็วขึ้น ดีขึ้น มั่นใจมากขึ้นน้าา 4. อย่าอายที่จะถามคนรุ่นน้อง จากประสบการณ์ที่เราเคยเห็น ขอเล่าถึงคนคนหนึ่งที่มี performance ในการทำงานที่ดูดีมาตลอด เนื่องจากเขาใช้ให้ลูกน้องทำงานที่เป็นของตัวเองตลอดเวลาในการทำงานแต่เมื่อถึงเวลาแสดงศักยภาพของเขาออกมา เขากลับทำได้ไม่ดีและไม่มีความชำนาญในงานของตนเอง จึงทำให้คนอื่น เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน รู้ว่าเขามีศักยภาพที่ไม่พอ คนเราควรหมั่นเรียนรู้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตามให้ค้นคว้าให้ถึงที่สุด แล้วถ้าไม่ได้จริงๆจึงถามเพื่อนร่วมงานหรือผู้ที่รู้ เขาอาจจะอายุมากกว่าหรือน้อยกว่าก็ได้ไม่จำเป็นต้องถือตัวตนว่าเขาอายุน้อยกว่า อย่ามัวแต่ถือตนเองว่าอายุเยอะกว่าเขา แล้วไม่กล้าถามเพราะกลัวเสียหน้า แนวคิดแบบนี้ไม่ดีต่อทั้งตนเองและคนรอบข้าง ข้อเสียของการไม่ยอมพัฒนาตัวเองก็คือการจะทำให้ตัวเองขาดโอกาสในการพัฒนา ขาดโอกาสที่จะได้รู้ความได้รับความรู้จากคนอื่น บางทีน้องคนนั้นอาจจะมีประสบการณ์ด้านนั้นมากกว่าเรามานานแล้ว เขาสามารถชี้ทางให้เราได้เพียงแค่ 10 นาที นี่ก็เท่ากับว่าเราประหยัดเวลาในการเรียนรู้เรื่องนั้นจาก 10 ปีมาเป็น 10 นาทีเลยทีเดียวแล้วแบบนี้เราจะมายึดถือตัวตนว่าเราแก่กว่าไปทำไมกัน สู้อ่อนน้อมถ่อมตนแล้วถามเขาดีกว่า ไม่มีอะไรต้องเสียเลยมีแต่ได้กับได้การลงทุนกับความรู้ในสมองและหัวใจของเราคุ้มค่ายิ่งกว่าสิ่งใด เพราะต่อให้เราไม่มีคนอื่นหรือลูกน้องมาคอย support เรา เราก็จะสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองได้ไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหนก็ตามรู้แบบนี้แล้วอย่ากลัวที่จะพัฒนาตัวเองทุกวันนะ รู้จักตัวเอง มีเป้าหมายที่ชัดเจน รู้วิธีและแนวทางในการไปสู่เป้าหมายนั้นให้สำเร็จ และที่สำคัญที่สุดก็คือลงมือทำอย่างจริงจังนะ หากรักกัน ชอบกัน ก็ขอกำลังใจนิดนุงนะ ฝากเพื่อนๆกดติดตาม กดแชร์ กดอ่านบทความด้วยน้าา ขอบคุณค่าาา ฝาก YouTube channel น้องใหม่ด้วยน้าา Learn English on your own ขอขอบคุณข้อมูลจาก: goodlifeupdate.comเครดิตภาพ: ภาพปกและภาพที่ 1-4 ออกแบบโดยผู้เขียน: Canva.comLearn English on your own 7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์