ฟุตบอลโลก หากเอ่ยคำนี้ออกมาคอบอลทั่วโลกย่อมรู้จักดีอย่างแน่นอน เพราะนี่คือทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยทุกๆ 4 ปีจึงจะมีการจัดแข่งขันฟุตบอลโลกขึ้น เพื่อที่จะหาชาติที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกลูกหนัง โดยฟุตบอลโลกครั้งแรกนั้นได้จัดขึ้นเมื่อปี 1930 จนถึงครั้งล่าสุดเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา มีชาติที่สามารถก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์โลกได้อยู่ 8 ทีมได้แก่ บราซิล, เยอรมนี, อิตาลี, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, สเปน, อาเจนติน่า และอุรุกวัย ฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ฟุตบอลโลกมีคู่ชิงที่น่าฮือฮาที่สุดครั้งหนึ่งเลยที่เดียว โดยเป็นการพบกันระหว่างทีมชาติฝรั่งเศส และทีมชาติโครเอเชีย โดยสิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมากในนัดนี้นั่นก็คือตราหมากรุกโครเอเชียทีมที่แทบไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะสามารถฝ่าด่านเข้ามาถึงสังเวียนนัดชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แม้สุดท้ายพวกเขาจะต้องพ่ายให้กับทีมตราไก่ไปอย่างน่าเสียดาย โดยแม้ว่านัดชิงในปี 2018 จะจบลงด้วยการพ่ายแพ้ของทีมชาติโครเอเชีย แต่ก็ถือเป็นการบอกได้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทีมชาติเล็กๆที่มักจะเป็นม้านอกสายตาในฟุตบอลโลก มีการพัฒนาขึ้นมากจนสามารถสู้กับทีมชาติระดับใหญ่ได้อย่างสูสี ในอนาคตก็อาจเป็นไปได้ว่าบัลลังก์แชมป์โลกอาจจะถูกครองไว้โดยทีมชาติหน้าใหม่ๆ แต่ทีมชาติไหนจะมีโอกาสทำได้เราจึงจะมาลองวิเคราะห์กันในครั้งนี้ 1. ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เปิดหัวข้อแรกมาสำหรับอัศวินสีส้มหรือก็คือทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ทีมชาติที่เคยเข้าชิงฟุตบอลโลกมาแล้วถึงสามครั้งในปี 1974,1978 และ2010 แต่ก็ต้องอกหักเป็นแค่พระรองทั้งสามครั้ง ซ้ำร้ายในฟุตบอลโลก 2018 พวกเขาก็ต้องอกหักไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายได้อีกด้วย แต่ทว่าในปัจจุบันขุมกำลังของทีมแดนกังหันถือว่ากลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยมีนักเตะหลักๆเช่น เวอจิล ฟาน ไดจ์ค, แฟรงกี้ เดอ ยอง และเมมฟิส เดปาย เป็นต้น รวมถึงขุมกำลังดาวรุ่งแกร่งๆ อีกมาก ซึ่งในอนาคตทีมชาติเนเธอร์แลนด์ถือว่าเป็นทีมที่มีโอกาสมากที่สุดเลยก็ว่าได้สำหรับการขึ้นไปเป็นน้องใหม่ในทำเนียบแชมป์ฟุตบอลโลก 2.ทีมชาติเบลเยี่ยม ข้อนี้สำหรับทีมชาติเบลเยี่ยมทีมที่ซึ่งหลายๆคนมองว่าทีมชาติของพวกเขา ได้ก้าวผ่านยุคทองของตัวเองไปแล้ว แต่ถ้าพูดในแง่ขุมกำลัง ก็คงต้องบอกว่าเบลเยี่ยมในตอนนี้ถือว่ายังเป็นทีมที่มีขุมกำลังแข็งแกร่งอันดับต้นๆ ของโลก และยังมีนักเตะเด่นๆที่อาจเป็นกำลังหลักในอนาคตได้อีกมากเช่น ยูริ ติเลอมองส์, แดนนิส ปราต หรือเลอันโดร เดนด็องเคอร์ และถ้าหากเบลเยี่ยมยังคงผลิตนักเตะชั้นยอดมาประดับวงการได้สม่ำเสมอ พวกเขาอาจยืนระยะอยู่ในระดับท็อปได้นานเหมือนประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างเนเธอร์แลนด์ และอาจลุ้นที่จะก้าวไปถึงจุดสูงสุดอย่างแชมป์ฟุตบอลโลกก็เป็นได้ 3.ทีมชาติโปรตุเกส มาถึงข้อสุดท้ายนั่นก็คือทีมชาติเจ้าของแชมป์ยูโร 2016 นั่นก็คือทีมฝอยทองโปรตุเกส นี่ถือเป็นทีมที่มีขุมกำลังแข็งแกร่งมากๆ ในตอนนี้ ถึงแม้ว่ากองหน้าที่เป็นเหมือนไอคอนของชาติอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในตอนนี้จะอายุ 35 ปี และใกล้ปลดระวางกับทีมชาติเต็มทีแล้ว แต่หากไปไล่ดูรายชื่อนักเตะของโปรตุเกสในปัจจุบัน เรียกได้ว่าแข็งแกร่งทั่วแผ่นเลยก็ว่าได้พวกเขามีนักเตะชั้นยอดมากมายทั้ง แบร์นาโด้ ซิลวา, บรูโน่ เฟอร์นานเดส, ราฟาเอล เกอร์เรโร่ และพวกเขายังมียอดกองหน้าดาวรุ่งอย่าง ชูเอา เฟลิกซ์ เมื่อมองดูบรรดานักเตะที่เป็นกำลังหลักแล้วโปรตุเกสถือเป็นทีมที่น่าจับตามองและมีความเป็นไปได้มากทีเดียว สำหรับการเป็นเจ้าของแชมป์ฟุตบอลโลกทีมใหม่ในอนาคต ทั้งนี้ในฟุตบอลโลกทุกครั้งมักมีเหตุการณ์น่าตื่นตาตื่นใจอยู่ตลอด เราอาจจะได้เห็นทีมชาติม้ามืดอื่นๆ นอกจากที่เราพูดถึงกันในบทความนี้โผล่ขึ้นมาเป็นจุดสนใจได้อีกมาก ดังนั้นเราจะมาลุ้นกันว่าอนาคตจะมีทีมชาติไหนสามารถขึ้นมาเป็นแชมป์โลกหน้าใหม่ได้บ้าง และคงต้องรอดูทุกๆ 4 ปีกันต่อไป ขอบคุณภาพประกอบจาก sport.trueid.net ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 ขอบคุณภาพปกโดย sport.trueid.net , unsplash.com ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพถ้วยแชมป์