สวัสดีคุณผู้อ่านทุก ๆ ท่าน วันนี้ผม Ti on My Way จะพาทุกท่านเดินทางไปเที่ยวยังต่างประเทศซึ่งไม่ไกลจากประเทศไทย จุดหมายปลายทางที่พวกเราจะไป คือ "ดาลัด" ( Dalat ) สถานที่อยู่บริเวณภาคใต้ของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา มีความสูงจากระดับนํ้าทะเล 1,500 เมตร มีอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็นตลอดทั้งปี สถานที่ต่าง ๆ มีความสวยงามและโรแมนติก เหมาะกับการเดินเล่นถ่ายรูปสวย ๆ แถมมีของกินให้ได้ลิ้มลองรสชาติมากมาย ถ้าหากพร้อมแล้ว...ออกเดินทางกันเลยครับ :) ผมออกเดินทางตอนเย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน ก็รีบนั่งรถมาสนามบิน ออกเดินทางเวลา 20.00 น. ใช้เวลาบินประมาณชั่วโมงนิด ๆ ก็มาถึงสนามบิน "เตินเซินเญิ้ต" เมืองโฮจิมินห์ ถ้ามาช่วงกลางวันจะมีรถ Shuttle Bus คอยบริการ รับ-ส่ง ที่สนามบินเข้าในเมือง ซึ่งจะช่วยทำให้เราเซฟค่าใช้จ่ายได้เยอะมากเลยล่ะครับ แต่มาถึงตอนกลางคืน ก็คงต้องเหมารถ Taxi ไปอย่างเดียว ใช้เวลาไม่นานจากสนามบิน พี่คนขับก็พามาถึง "ฟามงูเหลา" Night Street แหล่งท่องเที่ยวยามคํ่าคืนของเมืองโฮจิมินห์ อารมณ์คล้าย ๆ กับถนนข้าวสารบ้านเรา จากนั้นพวกเราได้ไปยัง "Futa Bus" สถานที่จำหน่ายตั๋วโดยสารเพื่อเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ สามารถดูวิธีการจองตั๋วได้จาก คลิกที่นี่ รถนอนที่เวียดนามส่วนใหญ่จะมีลักษณะในภาพ ในตัวรถเป็นเตียง 2 ชั้น มี 3 แถว สามารถนอนเหยียดขาได้เลย ขอบอกเลยว่านอนสบายมาก ก่อนขึ้นรถแต่ละคนจะได้รับถุงพลาสติกไว้ใส่รองเท้า ป้องกันกลิ่นไปรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น คืนนี้นอนหลับสบาย ๆ ไปบนรถครับ ถึงเมืองดาลัดประมาณ 6 โมงเช้า จากท่ารถของ Futa Bus ที่ดาลัดจะมีรถคอยบริการ รับ-ส่ง เข้าเมืองฟรี ผมจองโรงแรมไว้ชื่อ "Tulip Hotel" จองจากเว็บฯ ราคาอยู่ที่คืนละ 500 บาท ถือว่าคุ้มค่าเกินราคามาก เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย โรงแรมตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ และใกล้ตลาดกลางคืน สามารถเดินเที่ยวเล่นหาของอร่อย ๆ ทานได้อย่างสะดวก โชคดีหน่อยที่เช้านี้พนักงานโรงแรมให้เราเข้าเช็คอินได้เลย เนื่องจากมีห้องว่างอยู่พอดี ถ้าเป็นบางที่อาจจะต้องรอจนถึงบ่ายโมงเลยทีเดียวกว่าจะได้เช็คอิน หลังจากอาบนํ้าและทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็ได้ไปเดินเที่ยวสำรวจเมืองดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง ถ้าเห็นร้านอาหาร ร้านกาแฟที่พวกเราสนใจก็จะเล็งไว้ก่อน แล้วค่อยมาชิมอีกทีในภายหลัง ร้านกาแฟแต่ละร้านตกแต่งได้อย่างน่ารักมาก ๆ ถูกใจนักท่องเที่ยวสายคาเฟ่อย่างพวกเราเลยล่ะครับ เช้านี้พวกเราได้ไปลองทาน "เฝอเนื้อ" ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากตัวโรงแรม รสชาติหอมกลมกล่อม เส้นเหนียวนุ่ม ได้ซดนํ้าซุปร้อน ๆ ในบรรยากาศเย็น ๆ มันเป็นอะไรที่ฟินมาก ๆ เลยล่ะ และได้ไปลองชิม "บั๋นหมี่" ( Banh Mi ) หรือแซนวิชสไตล์เวียดนาม จากร้าน Coi Xay Gio ซึ่งเป็นร้านยอดฮิตของเมืองดาลัด อาคารสีเหลืองโดดเด่นที่ใครเห็นก็อดใจไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเก๋ ๆ เพื่อเช็คอิน แต่ต้องรอคิวนิดนึงนะครับ เพราะคนรอถ่ายรูปเยอะมาก ๆ แต่ขอบอกเลยว่าบั๋นหมี่ร้านนี้อร่อยมากจริง ๆ Coi Xay Gio มีหลายสาขาแต่ถ้าอยากจะถ่ายรูปกับอาคารสีเหลืองและป้ายชื่อร้านที่โดดเด่นก็ต้องสาขานี้เท่านั้น ซึ่งอยู่ใกล้กับตลาดกลางคืนของดาลัด หากใครได้ไปดาลัดขอแนะนำว่าต้องห้ามพลาดเด็ดขาด สิ่งที่ผมตั้งใจอย่างมากที่สุดของการมาดาลัด คือ อยากไปลองทาน "แหนมเนือง" ตามแบบฉบับของคนเวียดนาม จึงได้เสิร์ชหาข้อมูลร้านแหนมเนืองที่อร่อยของที่นี่ มีชื่อร้านว่า "nem nuong ba hung" เดินไปตามแผนที่ร้านเรื่อย ๆ ที่ร้านคนเยอะมาก ราคาคิดเป็นชุดต่อคน แหนมเนืองตามสไตล์ของเวียดนาม จะไม่นําแป้งแช่นํ้าเหมือนของไทย ตัวแป้งมีความพอดีและไม่แข็งมากจนเกินไป แหนมเนืองที่ถูกย่างมาใหม่ ๆ กลิ่นหอม เวลาทานนําทุกอย่างมาห่อใส่แผ่นแป้ง ใส่เต้าหูทอดกรอบพร้อมกับพริกสดที่ปั่นมาใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ ทานคู่กับนํ้าจิ้มถั่วสูตรเฉพาะของทางร้าน ยัดเข้าปากแบบเต็ม ๆ คำ ผักและนํ้าจิ้มสามารถขอเพิ่มได้ โดยรวมแล้วถือว่าอร่อยตามแบบฉบับแหนมเนืองเวียดนามจริง ๆ เป็นอีกร้านที่ผมแนะนำว่าห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด ทานแหนมเนืองเสร็จ ก็ได้ไปร้าน "Up Coffee" นั่งดื่มกาแฟชิลล์ ๆ มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เก๋ ๆ มากมาย หรือจะดูวิวสวย ๆ ของเมืองดาลัดเพลิน ๆ หลังจากนั่งเล่นที่ Up Coffee จนถึงเย็น พวกเราก็เดินกลับเข้าในเมืองกัน ระยะทางที่เดินประมาณ 2 กิโลเมตรกว่า ๆ แต่เดินลงเขาเลยรู้สึกสบายหน่อย ช่วงกลางคืนบริเวณตลาดกลางคืนดาลัด ผู้คนเยอะมาก ๆ มีร้านอาหาร ร้านค้าแผงลอยขายของกินต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าหากอยากทานอะไรในร้านอาหารล่ะก็ ต้องเช็คข้อมูลหรือรีวิวต่าง ๆ ของร้านให้ดี เพราะเคยมีข่าวคราวเกี่ยวกับการโกงราคาอาหาร หลังจากหาอะไรทานเสร็จ ผมก็กลับเข้าโรงแรมพักผ่อนหลังจากที่เที่ยวและกินแบบจุก ๆ ในวันแรก ตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่น เพราะเมื่อคืนอากาศหนาวเย็นทำให้หลับสบายมาก ๆ เช้านี้หลังจากทานข้าวเสร็จได้ไปนั่งดื่มกาแฟที่ร้าน "An Coffee" ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่พักเท่าไหร่ บรรยากาศร้านนั่งสบาย ๆ ตกแต่งในสไตล์รื่นรมย์ชวนนั่งพักผ่อนเพลิน ๆ มีมุมถ่ายรูปชิค ๆ ให้ได้ถ่ายรูปลงโซเชียลมากมาย มีอาหารทั้งคาวหวานรวมทั้งกาแฟและเครื่องดื่มต่าง ๆ ไว้คอยบริการ หลังจากนั่งดื่มกาแฟที่ร้าน An Coffee จนถึงเที่ยง ผมก็อยากไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ของดาลัด จึงได้เหมารถ Taxi ให้พาเที่ยวแบบครึ่งวัน โดยพี่คนขับเสนอราคามาที่ราว ๆ 500 บาทกับการพาไป 4 สถานที่ท่องเที่ยว โดยสถานที่แรกที่ไปคือ "น้ำตกดาลันตา" ไฮไลท์เด็ดของที่นี่ คือ จะต้องนั่งรถรางโรลเลอร์คอสเตอร์ลงไป ขอบอกเลยว่าสนุกตื่นเต้นมาก คุ้มค่าราคากับเงินค่าตั๋วที่จ่ายไป บอกเลยว่าเป็นสิ่งที่ห้ามพลาดอย่างมากเมื่อมาเที่ยวดาลัด เสร็จจากเที่ยวชมนํ้าตกดาลันตาก็มาต่อที่ "วัดตั๊กลัม" ( Truc Lam Pagoda ) วัดพุทธนิกายเซน มีกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น มีสวนดอกไม้สวย ๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป บรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่น สถานที่ต่อมาที่ได้ไปเยือน คือ "Crazy House" สถานที่นี้ผมรู้สึกเฉย ๆ ไม่ค่อยมีอะไร ใครอยากมาก็มาได้ แต่ถ้าเป็นไปได้ไม่มาดีกว่า เพราะจะรู้สึกเสียดายค่าตั๋วขึ้นมาทันที และสถานที่สุดท้ายของทัวร์แบบครึ่งวันคือ "Dalat Railway Station" หรือสถานีรถไฟดาลัดนั่นเอง เป็นสถานีรถไฟเก่าที่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ดูรวม ๆ ก็ยังคงความคลาสสิคไว้ เหมาะกับการแวะถ่ายรูปคูล ๆ เก๋ ๆ ค่าตั๋วในการเข้าชมถือว่าถูกมากครับ หลังจากจบ Haft Day Trip ก็ได้มานั่งเล่นที่ "Lam Vien Square" เป็นจุดศูนย์กลางของผู้คน บางคนมานั่งรับลมเย็น ๆ บางคนก็มาออกกำลังกาย มีคาเฟ่ร้านกาแฟตึกกระจกสีเขียวในรูปทรงดูแปลกตา มีร้านค้าแบบแผงลอยมาขายของกิน และผมได้ลองทานพิซซ่าเวียดนาม ซึ่งมีขายหลายแผง เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี ราคาประมาณ 20-30 บาท ช่วงที่ผมอยู่ดาลัดจัดไปหลายชิ้นเลย ถ้าได้มาเที่ยวที่ดาลัดอย่าพลาดที่จะลิ้มลองนะครับ อร่อยมาก ๆ คอนเฟิร์ม!! บรรยากาศดีมาก ๆ เลยครับ >< เช้าวันถัดมาเตรียมตัวกลับ ซึ่งผมได้ติดต่อจองตั๋วรถนอนเพื่อกลับโฮจิมินห์ไว้ล่วงหน้ากับทางโรงแรม รอบ 08.00 น. ถึงเวลาจะมีรถมารับที่หน้าโรงแรม ถือว่าง่ายและสะดวกมาก ๆ หรือใครอยากประหยัดเวลาก็มีเที่ยวบิน บินตรงจากดาลัดกลับถึง กทม. แต่แพลนการเดินทางกลับของผมจะนั่งรถกลับโฮจิมินห์ก่อน แล้วค่อยบินกลับ กทม.อีกที ใช้เวลาเดินทางจากดาลัดประมาณ 6 ชั่วโมง ถึงโฮจิมินห์ประมาณบ่ายสอง ยังพอมีเวลาเที่ยวเล่นในเมืองโฮจิมินห์ เพราะผมจองเที่ยวบินกลับ กทม.ไว้รอบ 20.00 น. แต่ละสถานที่จะอยู่ไม่ไกลกันมาก สามารถเดินเท้าได้ครับ สถานที่ ๆ ผมได้ไปเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาคารไปรษณีย์กลาง (Saigon Post Office), ศาลากลางโฮจิมินห์ (Ho Ci Minh City Hall), ตลาดบินถั่น (Ben Thanh Market), มหาวิหารนอร์เธอดาม (Notre Dame Cathedral), The Cafe Apartment และสถานที่อื่น ๆ จบแล้วครับกับทริปเที่ยวง่าย ๆ 3 วัน 2 คืน ที่ดาลัด-โฮจิมินห์ ในความรู้สึกส่วนตัวอยากจะบอกว่าชอบเมืองดาลัดมาก ๆ เพราะตั้งแต่ถึงเมืองก็อากาศเย็นสบาย เช้าจะหนาวมาก พอช่วงบ่ายเริ่มเบาลงแต่อากาศก็ยังเย็นสบายมาก ๆ ได้ความรู้สึกเหมือนอยู่ยุโรป เราโชคดีมากตั้งแต่ไปเจอแต่คนดี ไม่โกง ประทับใจ แต่ส่วนใหญ่จะไม่พูดภาษาอังกฤษ เราก็ใช้ภาษามือกัน แต่ก็เข้าใจได้ ถ้ามีโอกาสอยากกลับไปอีกครั้ง การเดินทางในครั้งนี้ขอบอกเลยว่า กินอิ่ม หลับสบาย ที่สำคัญใช้งบไม่เยอะด้วยนะ มีเวลาช่วงหยุดยาวแค่ 3 วัน ก็สามารถเดินทางไปได้ครับ แล้วเจอกันใหม่ในทริปต่อไป..ขอบคุณที่เดินทางไปด้วยกันครับ :) ภาพประกอบทั้งหมด โดยผู้เขียน : Ti on My Way