ในสภาวะวิกฤตในวิกฤต คงจะหนีไม่พ้นปัญหาปากท้อง ถ้าคุณคิดว่าผมจะบอกว่า "เป็นกำลังใจให้นะ" หรือ "สู้ ๆ " คุณคิดผิด! คุณคิดผิดแต่ผมอยากชวนผู้อ่านลองพิจารณาเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ว่าจริงหรือไม่นะครับ? 1. คุณรู้จักวิกฤตต้มยำกุ้ง วิกฤตยูโร hamburger crisis ไหมครับ?สุดท้าย มันจะทิ้งไว้เพียงบทเรียนอย่างน้อยมันก็ทำให้เราเรียนรู้ว่าเมื่อความไม่แน่นอนเป็นสิ่งแน่นอน การป้องกันย่อมดีกว่าแก้ไข คล้ายกับวิกฤตครั้งนี้ ถ้าคุณปฏิเสธการเข้ารับวัคซีนและโชคร้ายติดโควิดขึ้นมา แม้คุณจะพบว่าแท้จริงแล้วโควิด เกิดจากสาเหตุใดจริง ๆ ผมถามสั้น ๆ ง่าย ๆ คุณจะหายไหมครับ? ด้วยตรรกะง่าย ๆ ถ้าคุณเข้ารับการฉีดวัคซีน ดูแลตัวเองดี ๆ ใส่หน้ากาก ล้างมือ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ - คุณอาจจะไม่ป่วยหนัก? ถ้าอธิบายด้วยหลักกฎหมาย แล้วสุจริตด้วยกันผู้ประมาทเลินเล่อย่อมเป็นผู้เสียเปรียบ ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 7906/2544 เพราะฉะนั้น คุณจะไปอ้างอะไรกับคนที่นำโควิดเข้ามา เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าเขาติด แต่ตัวคุณก็ประมาทเอง เว้นแต่ถ้าคุณพิสูจน์ได้ว่า เขาจงใจเอาเชื้อมาติดคุณ เพราะเขามองเห็นช่องโหว่จากจากความประมาทของคุณ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับที่กล่าวข้างต้นนะครับ - เขาไม่รู้ตัวเองว่าติด คุณก็ไม่ทราบว่าเขาติด และเมื่อคุณติดจากเขาโดยพบว่าคุณก็ประมาทเอง ไม่มีอะไรนอกจากคำว่า You deserve ityou deserve itเมื่อเวลาล่วงเลยไป วิกฤตเหล่านั้น จะค่อย ๆ บรรเทาลง2.ระหว่างที่เวลาเดินไปเรื่อย ๆ คุณทำอะไร? นั่งเรียกร้องความเป็นธรรม โดยที่คุณไม่ลงมือทำอะไรเลยนะครับ คล้าย ๆ คุณพยายามบอกว่าคุณสอบไม่ผ่าน เพราะโควิด ทั้งที่จริงคุณยังไม่ได้ทบทวนตำราเลย เท่ากับว่า คุณพยายามอ้างโควิดเพื่อจะขอสอบใหม่? - มันใช่? มันใช่?3.ในระหว่างที่คุณกำลังรอ ให้วิกฤตมันค่อย ๆ บรรเทาลง คุณต้องไม่ลืมว่าทุก ๆ แบกต้นทุนค่าเสียโอกาสอยู่ ยกตัวอย่าง เพื่อนคุณกำลังเร่งพัฒนาตัวเอง แต่คุณกลับไม่ทำอะไรเลย เมื่อวิกฤตมันสิ้นสุดลง ใครครับที่จะมีมูลค่าเพิ่มในตัวเองสูงกว่า จำไว้นะครับ ถ้าเราเลือกที่จะนิ่งเฉยไม่ทำอะไร ถือเป็นกฎหมายปิดปากไม่ให้คุณอ้างว่าคุณสมควรได้รับการปฏิบัติเยี่ยงคนที่เขาพยายามนะครับกฎหมายปิดปาก4."โอกาส" หรือ "ความสำเร็จ" มีไว้สำหรับคนที่พร้อม เพราะความเป็นธรรมควรต้องพิจารณาจากต้นทุนที่เหมือนกัน มิเช่นนั้น คนที่พยายามมากกว่าย่อมเสียเปรียบ หรือครับ? กล่าวอย่างง่ายคือ อย่าอ้างความเป็นทำเมื่อคุณไม่ทำอะไรเลย (ดุมาก) โอกาสรับเข้าทำงานสุดท้ายนะครับ ผมอยากให้คุณตระหนักว่า5. ตำแหน่งงานที่กำลังรอคุณอยู่ในภายภาคหน้า มันเป็นไปตามกฎของเศรษฐศาสตร์ที่ว่า "เมื่อทรัพยากรในธรรมชาติมีอยู่อย่างจำกัด (งาน) แต่ความต้องการมีอยู่ไม่จำกัด (ผู้สมัคร) ใครจะเป็นผู้ครอบครองทรัพยากรดังกล่าวคือผู้ที่ให้ราคาดีที่สุด (มูลค่าเพิ่มในตัวเอง)6. เมื่อการจ้างงานมิใช่มูลนิธิ การที่คุณจะได้รับโอกาสหรือไม่ คุณคือปัจจัยหลักที่เป็นผู้กำหนดว่าคุณสมควรจะได้รับโอกาสหรือไม่ไม่ใช่โควิด ... พูดแล้วก็เหมือนจะอวยตัวเอง-ผมกล้ายืนยันตรงนี้ว่าที่ผมได้รับงานวิจัย ไม่ใช่เพราะเขาสงสารที่ผมป่วย แต่เพราะความสามารถครับ ถ้ามองจากสายตาผู้ให้ทุน สมมุติคุณเป็นผู้ให้ทุนและทราบว่าทราบว่าผู้รับทุนป่วยคุณยังอยากจะให้ทุนผมอยู่ไหม?7. ถ้าคุณตกงาน นั่นไม่ได้แปลว่าคุณจะไม่มีโอกาสได้รับงานที่อาจจะดีกว่าเดิม ดังนั้น หมั่นเติมคุณค่าให้ตัวเองเรื่อย ๆ เพราะวันหนึ่งจะเป็นของคุณ trust me because I am a lawyerท้ายนี้ขอบพระคุณภาพ1. ปก โดย Benjamin Disinger จาก unsplash2. ที่ 1 โดย Texler จาก pixabay3. ที่ 2 โดย nastya_gepp จาก pixabay4. ที่ 3 โดย geralt จาก pixabay5.ที่ 4 โดย TastyCinnamonn จาก pixabay6.ที่ 5 โดย VISHNU_KV จาก pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !