เมื่อกล่าวถึงนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือ หน่วยซีล (SEAL) ที่หลายคนรู้จักและถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมากในเรื่องของการฝึกทั้ง ความโหดและระยะเวลาของการฝึกที่ยาวนานที่สุด (ประมาณ 8 เดือน) ในบรรดาหลักสูตรทางทหาร ดั้งนั้นจากสาเหตุที่กล่าวมา ทหารและตำรวจหลายนายจึงยกให้เป็นสุดยอดหลักสูตรรบพิเศษของกองทัพไทย ซึ่งมีไม่กี่คนที่จะสามารถฝึกผ่านหลักสูตรมหาโหดนี้ไปได้ และเมื่อพูดถึงพลเรือนทั่วไป มีจำนวนน้อยคนที่จะสัมผัสและรับรู้ถึงความโหดของการฝึกนี้กับตาตัวเอง แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่าตลอดระยะเวลา 25 ปี ได้มีพลเรือนกลุ่มหนึ่งที่มีโอกาสเข้าไปใช้ชีวิต กิน นอน และฝึกไปพร้อม ๆ กันกับมนุษย์กบ บนเกาะพระ ณ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ สังกัดกองเรือยุทธการ (นสร.กร.) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ฮูย่าาาาา!!! เสียงตะโกนขานรับต่อครูฝึกของเหล่า นพอ. หรือนักดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ เป็นกลุ่มนักดำน้ำในโครงการอุทยานใต้ทะเลจุฬาภรณ์ 36 สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ซึ่งในแต่ละปีจะทำการฝึกกันเพียงแค่ 1 รุ่น โดยบุคคลที่เข้ารับการฝึกจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นในหลักสูตร ผู้ที่เข้ารับการฝึกจะมีทั้งพลเรือนที่มาจากหลากหลายอาชีพและข้าราชการ ทหาร ตำรวจ โดยจะต้องผ่านการทดสอบกันอย่างเข้มข้นเพื่อคัดเลือกบุคคลที่มีความพร้อมทางด้านร่างกายและสภาพจิตใจให้ทนต่อการฝึกตลอดระยะเวลา 16 วัน ตลอดระยะเวลาการฝึกของนักดำน้ำการใช้ชีวิตต่าง ๆ จะอยู่ในรูปแบบทหาร แต่อาจจะไม่เคร่งเท่าการฝึกของทหาร และที่สำคัญผู้ฝึกสอนคือครูฝึกชุดเดียวกันกับชุดครูฝึกของนักทำลายใต้น้ำจู่โจมที่จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันดูแลตลอดหลักสูตร ส่วนในเรื่องของการเรียนการสอนของ นพอ. จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือส่วนแรกจะเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับภาคทฤษฎี เช่น วิชาสรีรศาสตร์ใต้น้ำ โรคใต้น้ำและการรักษา การช่วยเหลือคนตกน้ำ ฟิสิกส์การดำน้ำ อุปกรณ์การดำน้ำ การเตรียมอุปกรณ์การดำน้ำ เป็นต้น ในส่วนที่ 2 จะเป็นการเรียนรู้ภาคปฏิบัติ เช่นการว่ายน้ำ ดำน้ำโดยใช้อุปกรณ์พื้นฐาน (หน้ากาก ตีนกบ ท่อหายใจ) การดำน้ำเพื่อความคุ้นเคยในสระด้วยอุปกรณ์ดำน้ำ การแก้ไขเหตุขัดข้องใต้น้ำ การดำน้ำในหอลึก 40 ฟุต ฝึกดำน้ำแบบ Jack Stay ในเวลากลางวันและกลางคืน ฝึกการดำน้ำความลึก 30 ฟุต 60 ฟุต และ 90 ฟุต เป็นต้น จะเห็นได้ว่าการเรียนรู้ภาคปฏิบัติจะมีการเพิ่มระดับความยากที่ค่อยเป็นค่อยไปเพื่อการปรับตัวและความปลอดภัยของนักเรียนเอง สุดท้ายนี้ เหนือสิ่งอื่นใดของผู้ที่เข้ารับการฝึกนักดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ คือการได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมทางทะเล ความรู้สึกหวงแหนต่อทรัพยากรทางทะเล ซึ่งทำให้เหล่านักดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ได้เป็นกระบอกเสียงสู่สังคมให้ได้รับรู้ถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเล มากกว่าการมองเพียงแค่ความสวยงาม เพราะพวกเขาคือ นักดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ ภาพทั้งหมดโดยนักเขียน : ณัฏฐนันท์ พุ่มสะอาด