ทักษะการนำเสนอ และการสื่อสารเป็นสิ่งจำเป็น เพราะทักษะเหล่านี้ จะสร้างความประทับใจให้นายจ้าง และสร้างความโดดเด่นท่ามกลางพนักงานคนอื่น ในบางบริษัทต้องมีการขายงาน หรือ “Pitch project” ก่อนถึงจะสามารถเริ่มงานได้ ดังนั้นการนำเสนอจึงเป็นด่านแรกของความสำเร็จเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่มหาวิทยาลัย ฯ อาจจะไม่มีการจัดการเรียนการสอน เทคนิคการนำเสนอ อย่างจริงจัง ในวันนี้ผู้เขียนเลยจะมานำเสนอเทคนิค 6 ข้อง่าย ๆ ที่ทำให้ผู้อ่านได้ขัดเกลาทักษะของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ด้วยหลัก SUCCESS ซึ่งมาจากหนังสือ Made To Stick หรือติดอะไรไม่เท่าติดหนึบ ของ Chip Heath และ Dan Heath ใครสนใจอยากอ่านสามารถสั่งซื้อได้ที่นี่เลยS.U.C.C.E.S.S คือตัวย่อของหลักการ 6 ข้อ ดังนี้Simple ทำให้การนำเสนอของคุณ “เรียบง่าย”สิ่งที่คนที่มั่นใจในตัวเองสูงมักพลาดคือ การโอ้อวด หรือใช้ศัพท์เทคนิคเยอะจนเกินไป ซึ่งจะทำให้ผู้ฟังเกิดอาการ งง หรือหยุดฟังเอาดื้อได้ ดังนั้นคุณจะต้องนำเสนอให้เรียบง่ายเข้าไว้ ความเรียบง่ายอาจจะวัดได้จากการที่คุณสามารถพูดสรุปสิ่งที่คุณนำเสนอออกมาได้ ใน 2 – 3 ประโยค แต่ถ้าเรื่องที่นำเสนอมันซับซ้อนจริง ให้ลองใช้การเปรียบเปรย เช่นแอปพลิเคชั่นของเรา คือ “Uber สำหรับผู้สูงอายุ” สังเกตได้ว่า ถึงแม้เราจะไม่รู้จักแอปพลิเคชั่นนี้เลย แต่เราจะพอเดาได้ว่า ต้องเป็นแอปพลิเคชั่นอะไรที่เกี่ยวกับ การแชร์การเดินทาง อะไรแบบนั้นแน่ ๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ฟังสามารถเชื่อมโยงเรื่องของผู้นำเสนอ กับสิ่งที่เขารู้จักอยู่แล้วได้ หรืออีกตัวอย่างนึง ถ้าผู้นำเสนออยากจะนำเสนอ สมาร์ทโฟน เขาอาจจะพูดว่า “คอมพิวเตอร์ขนาดพกพาเป็นต้น”Unexpected ทำให้การนำเสนอของคุณ “คาดไม่ถึง” คำว่าคาดไม่ถึง สำหรับการนำเสนองาน อาจจะฟังดูไม่ดี แต่คำว่าคาดไม่ถึง ไม่ได้แปลว่าจะต้อง “ตกใจ” เสมอไป เพราะคาดไม่ถึงในที่นี้ ก็สามารถเป็น “ดีเกินคาด” “เข้าใจผิด” ดังนั้นผู้นำเสนออาจจะต้องทำยังไงก็ได้ให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกคาดไม่ถึง เช่น ถามคำถามที่ผู้ฟังน่าจะอยากรู้ หรือ พูดโน้มน้าวให้ผู้ฟังเข้าใจอีกอย่าง แต่ที่จริงแล้วเป็นอีกอย่าง เช่น “บริษัทเรา ที่ผ่านมาไม่เคยรับโทรศัพท์ หรือจ้างคนมารับสายโทรศัพท์ปัญหาจากลูกค้า คือเราไม่มีลูกค้าโทรมาเลย” “เพราะว่าเราตั้งกลุ่ม Facebook ให้ลูกค้าถามตอบและช่วยเหลือกันเอง” สังเกตได้ว่าในตัวอย่างนี้ เราทำให้ผู้ฟังคาดไม่ถึง เพราะตอนแรกคิดว่า การที่บริษัทไม่มีลูกค้าโทร เพราะไม่มีลูกค้าจริง ๆ หรือลูกค้าโทรหาไม่ติด (ความรู้สึกเชิงลบ) แต่ก็มาคาดไม่ถึงเมื่อ บริษัทใช้กลุ่ม Facebook ในการรับฟังและช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้า (ความรู้สึกเชิงบวก)Concrete ทำให้การนำเสนอของคุณ “มีรายละเอียด” ผู้อ่านพอนึกภาพออกมั้ยว่า ทำไมเราถึงจดจำเรื่องเล่าสยองขวัญได้จำขึ้นใจ เพราะเรื่องเล่าสยองขวัญมีรายละเอียดให้จดจำนึกถึงได้ หรืออาจจะบอกว่ารายละเอียดคือกิมมิคให้จดจำก็ได้เช่นกัน รายละเอียดอาจจะหมายถึงสิ่งที่จับต้องได้ ทำให้เห็นภาพด้วย อย่างเช่น ในการนำเสนอผู้นำเสนอ อาจจะโชว์ภาพเปรียบเทียบ ก่อน และหลัง เพื่อนำเสนอประสิทธิภาพ ของเครื่องออกกำลังกายของเขา ก็ทำให้เกิดรายละเอียดที่จดจำได้เช่นกันCredit ทำให้การนำเสนอของคุณ “น่าเชื่อถือ” การสร้างความน่าเชื่อถือ เชื่อให้ผู้ฟังเชื่อถือคุณได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวถึงประวัติการศึกษาตัวเอง ประวัติการทำงาน หรืออ้างอิงงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง เช่น “สิ่งที่ผมพูดมาได้รับการยืนยันความถูกต้องจาก สถาบัน XYZ แล้ว” ก็ล้วนแล้วแต่สร้างความน่าเชื่อถือทั้งนั้น หรือการใช้ตัวเลขก็สร้างความน่าเชื่อถือได้เหมือนกัน เช่น ตามหลักจิตวิทยา คนเรามักเชื่อถือรายละเอียด เช่น ถ้าในข่าวบอกว่า “ร้อยละ 83.5% ของผู้ชายไทยเป็นลูกคนเดียว” กับ “ประมาณ 80 กว่าเปอร์เซ็น ของผู้ชายไทยเป็นลูกคนเดียว” แบบไหนดูน่าเชื่อถือกว่ากัน ?Emotion ทำให้การนำเสนอของคุณ “เร้าอารมณ์” การเร้าอารมณ์ จึงช่วยผู้ฟังติดตามอยากฟังต่อ แล้วจดจำอารมณ์ความรู้สึกได้ ซึ่งแน่นอนว่าปกติเวลาผู้ฟังได้รับสารอะไรก็ตามจะมีอารมณ์ความรู้สึกด้วยอยู่แล้ว เช่น “ฉันไม่ชอบสินค้าแบบนี้” การที่เราทำให้การนำเสนอของเราเร้าอารมณ์จะช่วยเปลี่ยนความรู้สึกที่มีอยู่ตอนแรก แต่ถ้าคุณนำเสนอผลงานวิจัย แล้วรู้สึกว่าตัวเรื่องมันไม่เร้าอารมณ์เอาซะเลย คุณก็สามารถพูดให้ดูเร้าอารมณ์ได้ กล่าวคือ การเน้นจังหวะหนัก เบา การพูดเร็วหรือช้าในบางจุด เพื่อให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์ร่วมขึ้นมาก็ได้เหมือนกันStory ทำให้การนำเสนอของคุณเป็น “เรื่องเล่า” คุณสมบัติพิเศษของเรื่องเล่า คือมันเป็นเรื่องเดียวกัน และมีรายละเอียดที่น่าเชื่อถือ ต่างจากคนบางคนที่พูด แต่เนื้อหาอย่างเดียว ซึ่งคนจะจดจำได้น้อยกว่า แต่ถ้าผู้นำเสนอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ก็สามารถโน้มน้าวผู้ฟังได้ เช่นแทนที่จะเล่าว่าสินค้าของเราดียังไง ให้เล่าเรื่อง คุณยายคนนึง ที่ได้ใช้สินค้าของเราแทน จะทำให้ผู้ฟังรู้สึกโน้มน้าวใจได้มากยิ่งขึ้น สำหรับเทคนิค SUCCESS น่าจะช่วยให้ผู้อ่านนำเสนอได้อย่างมืออาชีพแน่นอน ซึ่งแน่นอนผู้อ่านอาจจะไม่คุ้นชินกับบางเทคนิคที่ไม่เคยใช้ ผู้เขียนแนะนำว่าให้ลองฝึก ค่อย ๆ พัฒนาไปเรื่อย ๆ และจะทำได้จนชำนาญเอง อ้างอิงอ้างอิงจากหนังสือ Made To Stickภาพหน้าปก และภาพประกอบจัดทำโดยผู้เขียน