นิทานน้ำตา.........กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว....ณ เมืองเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งมีพระราชาองค์หนึ่งพร้อมพระมเหสีและเจ้าหญิงน้อยๆสามพระองค์.พระราชาดูแลและปกครองเมืองเป็นอย่างดีทำให้ประชาชนใช้ชีวิตและทำงานอย่างมีความสุขแต่เมื่อครั้งเหล่าเจ้าหญิงยังเล็กพระมเหสีก็ป่วยและจากโลกไป.ในตอนท้าย...ก่อนที่พระมเหสีจะจากไปนั้นเจ้าหญิงตัวน้อยทั้งสาม ก็ร้องไห้อยู่ข้างๆ.พระมเหสีจึงตรัสกับลูกน้อยทั้งสาม เบาๆ...ก่อนสิ้นใจเมื่อตรัสเสร็จ...เจ้าหญิงทั้งสามก็หยุดร้องไห้.เหตุการณ์นี้ทำให้นางฟ้าที่ดูอยู่รู้สึกสะเทือนใจจึงลงมาให้พรเจ้าหญิงทั้งสามว่าเมื่อใดที่เจ้าหญิงทั้งสาม ร้องไห้อีกน้ำตาของพวกเธอจะกลายเป็น เพชรที่ใสบริสุทธิ์เพื่อตอบแทนความรักที่มีต่อแม่.เมื่อนางฟ้าหายไป พระราชาที่อยู่ข้างๆก็ถามถึงคำพูด...ที่มเหสีกระซิบก่อนจากไปเจ้าหญิงทั้ง 3 ก็บอกว่า“เป็นความลับของผู้หญิง”.ผ่านมาอีกหลายปี เจ้าหญิงทั้ง 3 ก็เติบโตเป็นสาวสวยพระราชาจึงประกาศหาคู่ครอง."ตามที่ทุกคนรู้ว่าฉันมีลูกสาวสามคนแต่ละคนมีความงามเป็นเลิศและน้ำตาของพวกเธอสามารถเปลี่ยนเป็นเพชรที่มีราคาแพงจากนี้อีกหนึ่งเดือน ฉันขอเชิญชวนชายหนุ่มทุกคนเข้าร่วมพิธีคัดเลือกคู่ครองของเจ้าหญิงทั้งสามผู้คนที่ถูกคัดเลือกจะมีโอกาสได้สืบทอดราชบัลลังค์และสมบัติของฉัน”.อีกหนึ่งเดือนต่อมาปราสาทของกษัตริย์ก็เต็มไปด้วยชายหนุ่มมากมายทั้งเจ้าชาย อัศวินและบุตรชายของเศรษฐีจากทั้วทุกเมือง.เมื่อถึงเวลาพระราชาเสด็จมาที่วังพร้อมกับเจ้าหญิงทั้งสามของพระองค์.และเพื่อแสดงการต้อนรับแขกที่มาร่วมงาน.เจ้าหญิงองค์แรกร้องเพลงให้ทุกคนฟังด้วยเสียงที่ไพเราะดั่งนางฟ้าจากสรวงสวรรค์เจ้าหญิงองค์ที่สองเต้นรำอย่างงดงาม ราวกับเทพธิดาเจ้าหญิงองค์ที่สามมีเพียงแค่รอยยิ้มที่งดงามที่เมื่อมีคนเห็นก็จะรู้สึกว่าโลกใบนี้สดใสขึ้นแต่เธอไม่มีการแสดงอะไรเพียงแค่หลบอยู่ด้านหลังพระราชาโดยตลอดเพราะตื่นกลัวผู้คน.เพื่อที่จะได้รับเลือกจากเจ้าหญิง.ชายหนุ่มทุกคนก็ผลัดกันแสดงให้เห็นถึงความสามารถ.บางคนโชว์พลังด้วยการทุบหินบางคนก็เขียนบทกวีขึ้นมาเพื่อสรรเสริญความงามบางคนวาดรูปของเจ้าหญิงองค์แรกบางคนแสดงเพลงดาบและขี่ม้าเพื่อเจ้าหญิงองค์ที่สองและบางคนก็ออกมาจากขุมทรัพย์ที่หายากของโลกมอบให้กับเจ้าหญิงองค์ที่สาม.เจ้าหญิงองค์แรกและเจ้าหญิงองค์ที่สองมีความสุขมากและค่อยๆตัดสินใจเจ้าหญิงน้อยเท่านั้นที่ยังคงซ่อนตัวอยู่หลังพระราชา.ในที่สุดเจ้าหญิงองค์แรกก็เลือกเจ้าชายที่หล่อเหลาเขาสัญญากับเธอว่าจะพิชิตโลกเพื่อเธอและจารึกชื่อของเธอไว้ที่ปราสาทแต่ละแห่ง ที่พิชิตมาได้เจ้าหญิงองค์ที่สองในที่สุดก็เลือกลูกชายของพ่อค้าผู้มั่งคั่งที่ดูภูมิฐานเขาสัญญาว่าจะหาเงินให้มากที่สุดและสร้างพระราชวังที่งดงามที่สุดในโลกและเต็มไปด้วยสมบัติที่งดงาม.แม้จะมีชายหนุ่มมากมายที่เหลืออยู่แต่เจ้าหญิงน้อยองค์ที่สามก็ทรงไม่เลือกผู้ใด.ในขณะนั้น หนุ่มเลี้ยงแกะผู้หนึ่งเดินออกมาจากฝูงชนเขาเดินตรงไปที่เจ้าหญิงองค์ที่สามและพูดอะไรบางอย่างทันใดนั้นเจ้าหญิงองค์ที่สามก็ยิ้มแย้มแจ่มใสมากและเธอก็ไม่ลังเลที่จะกุมมือของหนุ่มเลี้ยงแกะ.ด้วยวิธีนี้เจ้าหญิงทั้งสามจึงมีคู่ครองของตัวเอง..ห้าปีผ่านไป ....….สามีของเจ้าหญิงองค์แรกใช้น้ำตาที่เป็นเพชรของเธอในการสร้างกองทัพทุกครั้งที่เห็นคนตายในสงครามเจ้าหญิงองค์แรกก็จะร้องไห้มากขึ้นทำให้กองทัพขยายไปเรื่อยๆจากการขายเพชรที่มาจากน้ำตาแต่ทุกปราสาทที่เขาพิชิตนั้นก็จารึกด้วยชื่อของเจ้าหญิงองค์แรกตามที่เค้าสัญญาเธอรู้สึกมีความสุขมาก.สามีของเจ้าหญิงคนที่สองใช้น้ำตาที่กลายเป็นเพชรสำหรับค่าใช้จ่ายในการทำการค้า และได้กำไรมากมายเค้าหาวิธีดุด่า และทำร้ายเพื่อให้เจ้าหญิงร้องไห้มากๆเพื่อเป็นเพชรเพื่อไปขายในไม่ช้าเขาได้สะสมทรัพย์สมบัติจำนวนมากแม้ว่าเขาจะไม่ได้สร้างวังที่หรูหราที่สุดในโลกแต่ก็ให้เงินทองและสมบัติมากมายและเลิกด่าว่า ทุบตีทำให้เจ้าหญิงองค์ที่สองพึงพอใจเธอรู้สึกมีความสุขมาก.ตั้งแต่วันที่เจ้าหญิงองค์ที่สามออกจากปราสาทพร้อมกับหนุ่มเลี้ยงแกะในวันนั้นทั้งคู่พร้อมฝูงแกะ ก็เริ่มเดินทางไปทั่วอาณาจักร.ต่อมาพวกเขาพบสถานที่หนึ่งที่สวยงามและเงียบสงบมีทะเลสาบ ป่าไม้ และลำธาร พร้อมฝูงสัตว์เล็กๆที่น่ารักหนุ่มเลี้ยงแกะจึงใช้เวลาครึ่งเดือนสร้างบ้านหลังใหญ่ด้วยไม้และฟางเค้าทำของใช้ด้วยตัวเองและเริ่มทำคอกแกะและเลี้ยงสัตว์อื่นๆพวกเขาปลูกผักจำนวนมากไว้ด้านหลังบ้านนอกจากไว้ใช้ทำอาหารพวกเขายังนำไปขายเพื่อเป็นรายได้เจ้าหญิงองค์ที่สามยังปลูกดอกไม้ที่สวยงามในสวนเล็ก ๆ ของเธอในตอนเย็นพวกเขาจะนั่งริมทะเลสาบเพื่อตกปลาหรือนับดวงดาวทั้งสองใช้ชีวิตเรียบง่าย แม้ยากจน แต่พวกเขามีความสุขมาก..ตอนนี้พระราชาป่วยหนักและกำลังจะสิ้นพระชนม์จึงอยากมอบเมืองและสมบัติให้เจ้าหญิงและสามีเพียงคู่เดียวที่เหมาะสมที่สุด.ทหารคนสนิทจึงเดินทางไปหาเจ้าหญิงทั้งสามและและคู่ครองของพวกเธอ..เมื่อทั้งสามเดินทางมาถึง..........เจ้าหญิงองค์แรกบอกว่าเธอมีความสุขดีชื่อของเธอถูกจารึกไว้ที่ปราสาทมากมายแต่เธอก็อยู่แค่ปราสาทหลังเดิมเพียงที่เดียวพร้อมฝันร้ายถึงวิญญาณในทุกคืน..เจ้าหญิงองค์ที่สองบอกว่าเธอมีความสุขดีแม้สามีไม่สามารถสร้างพระราชวังที่สวยงามและใหญ่ที่สุดในโลกได้เธอก็มีทรัพย์สมบัติมากมายที่ใช้ไม่มีวันหมดแต่เธอมักจะอยู่คนเดียวเพราะสามีของเธอร่ำรวยมากจึงไม่ต้องใช้เพชรจากน้ำตาของเธอแล้วเมื่อถึงเจ้าหญิงองค์ที่สามพระราชาแปลกใจมากที่พบว่าเจ้าหญิงน้อยสวมเสื้อผ้าที่ปะแต่ยังดูสะอาดเจ้าหญิงองค์ที่สามบอกว่าเธอและสามีมีความสุขมากกับบ้านและความเป็นอยู่.พระราชก็สงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงยากจนและทำไมเจ้าหญิงองค์ที่สามถึงเลือกหนุ่มเลี้ยงแกะเจ้าหญิงองค์ที่สามจึงบอกว่า.“ในวันเลือกคู่ ที่เลือกเค้าเพราะเค้าเดินเข้ามาพูดว่าแม้น้ำตาของคุณจะเป็นเพชรที่ราคาแพงแต่ฉันขอสัญญาว่าตลอดชีวิตนี้ฉันจะไม่ทำให้คุณร้องไห้.และที่ผ่านมา…….หม่อมชั้นก็ไม่เคยร้องไห้เลยสักครั้ง....เมื่ออยู่กับเค้า”.หลังจากได้ฟังพระราชาก็นิ่งเงียบไปและถามว่าเมื่อตอนพระมเหสีสิ้นใจคำสุดท้ายที่พูดกับเจ้าหญิงทั้งสามเธอบอกว่าอะไร.เจ้าหญิงองค์ที่สามจึงบอกว่า“เสด็จแม่ตรัสว่า......“แม่จะบอกความลับของผู้หญิงให้ฟังเรื่องหนึ่ง.จงอย่าร้องไห้....เพราะน้ำตาของผู้หญิงนั้นมีค่าแต่จะมีค่าเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับคนที่เห็นคุณค่าของมัน.และความลับนี้ห้ามบอกกับผู้ชายเพราะเมื่อลูกโตขึ้น การกระทำของเค้าจะเป็นสิ่งที่บ่งบอก...ถึงคุณค่าของน้ำตาของลูก.และจดจำเอาไว้เสมอ....ว่าน้ำตาที่มีค่าควรจะเป็นน้ำตา.จากความยินดีและมีความสุขเท่านั้น”.เมื่อพระราชาได้ฟังจบ จึงมอบเมืองและสมบัติให้กับเจ้าหญิงองค์ที่สามและหนุ่มเลี้ยงแกะอย่างไม่ลังเล.ในวันครองราชย์สมบัติเป็นครั้งแรกที่เจ้าหญิงองค์ที่สาม...ร้องไห้ด้วยน้ำตา.....ที่มีค่าที่สุดในชีวิต.....“รองเท้าแตะเหยียบดวงจันทร์”ภาพปกจาก https://web.facebook.com/Slippersonthemoon