(ภาพถ่ายโดย Angela Roma จาก Pexels)" ผี " แค่ได้ยินก็ขนลุกขนพองไปตามๆกันแล้ว คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากนัก แต่ ทุกท่านเชื่อมั้ยว่า บางครั้งที่เราเห็น หรือสัมผัสได้นั้น คือเทวดา แต่เป็นเทวดาชั้นล่างๆ อย่างเช่น เทพารักษ์ เป็นต้นฯ เอาแล้วสิ นอกจากผีหลอก ยังมีเทวดาหลอกอีกหรอ? บางท่านคงไม่เชื่อ แต่เป็นความจริงครับ เทวดาหลอก เดี๋ยวผมจะเล่าความเป็นมาของ เทวดาหลอก ก่อนที่จะไปรู้บทสวดกันครับ(ภาพถ่ายโดย Mitja Juraja จาก Pexels)เรื่องมีอยู่ว่า ในสมัยพุทธกาล ยังมีพระภิกษุกลุ่มหนึ่ง ออกธุดงค์และเที่ยวจาริกไปในที่ต่างๆ ครั้นพอถึงกลางป่าแห่งหนึ่ง กลุ่มพระภิกษุจึงตกลงกันว่าจะพักตรงนี้ รุ่งเช้าจึงจะเดินทางต่อ ตกลงกันเสร็จ ก็แยกย้ายจัดที่พัก ปักกลดตามใต้ต้นไม้ ซึ่งต้นไม้นั้นมีเทวดาอาศัยอยู่ พอพระภิกษุอยู่ใต้ต้นไม้ ครอบครัวเทวดาก็จะพากันย้ายลงมาข้างล่าง และคิดว่า อีกเดี๋ยวคณะพระภิกษุ คงจะไปกันแล้ว เวลาผ่านไปนานพอสมควร จวนจะมืดค่ำ ครอบครัวเทวดาที่เบียดกันอยู่ข้างล่างต้นไม้ จึงคิดว่า "ถ้าพระภิกษุไม่ไปจากที่นี่พวกเราคงแย่แน่" พอคิดได้ดังนั้น จึงออกอุบายว่า "จะจำแลงกายเป็นภูติผีปีศาจ ให้หมู่ภิกษุหวาดกลัว แล้วออกไปจากที่ๆตนอาศัยอยู่" ในขณะนั้นคณะพระภิกษุ บางท่านก็นั่งสมาธิบ้าง เดินจงกรมบ้าง อยู่ๆกิ่งไม้ทั้งน้อยใหญ่ก็เริ่มสั่นไหว ร่างที่หน้าเกลียดหน้ากลัวก็ปรากฏต่อหน้าพระภิกษุ จนไม่เป็นอันทำสมาธิ ภาวนา และ พระภิกษุที่กำลังเดินจงกรม อยู่ๆก็มีศรีษะ ที่หน้าเกลียดกลิ้งไปมาผ่านหน้า พอเป็นเช่นนั้น คณะพระภิกษุก็พากันอยู่ไม่ได้ รีบเดินทางไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อทูลถามสิ่งที่เกิดขึ้น(ภาพถ่ายโดย Sadaham Yathra จาก Pexels) พอพระพุทธเจ้า ทรงรู้ต้นเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้น จึงได้ตรัสเป็นพระคาถา เพื่อให้พระภิกษุทุกรูป นำไปกล่าวสาธยาย เมื่อยามจะออกจาริกธุดงค์ (ภาพถ่ายโดย Jonathan Borba จาก Pexels)พระคาถาที่ว่านั้นก็คือ "กะระณียะเมตตสูตร" ดังนี้. กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะสักโก อุชู จะ สุหุชู จะ สุวะโจ จัสสะ มุทุ อะนะติมานีสันตุสสะโก จะ สุภะโร จะ อัปปะกิจโจ จะ สัลละหุกะวุตติสันตินทริโย จะ นิปะโก จะ อัปปะคัพโภ กุเลสุ อะนะนุคิทโธนะ จะ ขุททัง สะมาจะเร กิญจิ เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเทยยุงสุขิโน วา เขมิโน โหตุ สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตาเย เกจิ ปาณะภูตัตถิ ตะสา วา ถาวะรา วา อะนะวะเสสาทีฆา วา เย มะหันตา วา มัชฌิยา รัสสะกา อะณุกะถูลาทิฏฐา วา เย จะ อะทิฏฐา เย จะ ทูเร วะสันติ อะวิทูเรภูตา วา สัมภะเวสี วา สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตานะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ นาติมัญเญถะ กัตถะจิ นัง กิญจิพยาโรสะนา ปะฏีฆะสัญญา นาญญะมัญญัสสะ ทุกขะมิจเฉยยะมาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเขเอวัมปิ สัพพะภุเตสุ มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณังเมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณังอุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตังติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธเอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโนกาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ. จบพระคาถา"กรณียเมตตสูตร "อาจจะยาวไปหน่อย แต่รับรองได้ผลชัวร์ หรือใครที่เวลาน้อย ต้องการแบบสั้นๆเผื่อเจอแบบจ๊ะเอ๋ คงไม่สวดยาวขนาดนี้วิ่งหนีดีกว่า งั้นลองใช้คาถาต่อไปนี้ละกันครับ "พระคาถาหัวใจท้าวเวสสุวรรณ" "เวสสะภุสะ" สั้นๆแต่ชมังนักแลฯ. (ภาพถ่ายโดย icon0.com จาก Pexels) โดยส่วนตัวผู้เขียนเอง ก็ใช้สวดเพื่อ ป้องกันภูติ ผี ปีศาจ ที่คิดร้ายหรือ ทำไม่ดีกับเรา เพราะ กรณียเมตตสูตร คือสูตรที่ว่าด้วยเรื่อง เมตตา กรุณา ซึ่ง ผมเชื่อว่าความเมตตา,กรุณา นั่นแหละ คือสิ่งที่จะป้องกันภัยทั้งปวงให้เราได้ แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าขอบคุณครับ😊😊🙏🙏🙏😍😍 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !