ITAEWON CLASS กับทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 หลายท่านที่มี Netflix ที่บ้านหรือชอบดูซีรี่ส์ต่าง ๆ ผ่าน Netflix หรือผ่านเวปไซต์ต่าง ๆ คงจะทราบกันดีว่ามีซีรี่ส์เรื่องหนึ่งที่โด่งดังมากในตอนนี้นั่นคือ ITAEWON CLASS หรือ ธุรกิจปิดเกมแค้น หากท่านใดดูจนจบ 16 ตอนคงได้ข้อคิดดี ๆ จากซีรี่ส์เรื่องนี้ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอนครับก่อนอื่นขอเกริ่นนำเล่าเรื่องย่อ ๆ ให้ทุกท่านได้ทราบก่อนนะครับว่าพระเอกของเรื่องที่มีชื่อว่า พัคแซรอย เขาได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งและได้มีปัญหากับลูกชายของมหาเศรษฐีที่มีอิทธิพลต่อคนในประเทศและเป็นเจ้าของบริษัทอาหารชื่อดังที่มีชื่อว่า ชางกากรุ๊ป เหตุการณ์นั้นทำให้พัคแซรอยต้องออกจากโรงเรียนภายในวันแรกที่เข้าเรียนจากนั้นชีวิตก็ผกผันตกต่ำ พ่อก็ถูกฆาตกรรมจากลูกชายมหาเศรษฐีคนดังกล่าว แต่ตนเองกลับต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 3 ปีเนื่องจากทราบสาเหตุของการตายของพ่อเขาเลยแก้แค้นลูกชายของมหาเศรษฐีโดยการทำร้ายร่างกายและทำให้ลูกชายของเศรษฐีได้รับบาดเจ็บ หลังออกจากคุก พัคแซรอยเริ่มต้นการทำธุรกิจเล็ก ๆ เกี่ยวกับอาหารและร้านก็ค่อย ๆ เติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ เขาทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการทำงานให้สำเร็จเพื่อที่จะเอาชนะบริษัทใหญ่อย่าง ชางกากรุ๊ป ให้ได้และท้ายที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เรามาถอดบทเรียนที่ได้จากซีรี่ส์เรื่องนี้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 อย่างไร ดังนี้ 1. ทักษะการเรียนรู้ (learning skills) คือการรู้จักค้นคว้า แยกแยะข้อมูลและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องไม่มีวันจบ พัคแซรอยไม่ได้ผ่านการเรียนรู้ในระบบการศึกษาเหมือนกับคนอื่น ๆ แต่สามารถประสบความสำเร็จในการเรียนรู้แบบของเขาได้นั่นคือการเป็นคนที่มีความเพียรพยายามศึกษาค้นคว้าเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และนำมาคิดวิเคราะห์ว่าสิ่งใดที่ควรทำและไม่ควรทำ จากเรื่องจะเห็นได้ว่าพัคแซรอยมีแรงบัลดาลใจและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากคุณพ่อที่เป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้ว และศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากแหล่งหรือสถานที่ต่าง ๆ เช่นการเข้าไปในร้านอาหารที่มีลูกค้ามากมายในแต่ละวันโดยนำมาคิดวิเคราะห์ว่าร้านของตนขาดอะไร มีข้อด้อยข้อดีตรงไหนบ้าง จากนั้นทำการต่อยอดและคิดค้นสูตรอาหารใหม่ ๆ ปรับปรุงร้านให้มีสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศที่ดึงดูดลูกค้ามากขึ้นจนทำให้สามารถประสบความสำเร็จได้ในที่สุด 2. ทักษะการคิด (thinking skills) คือการคิดวิเคราะห์และคิดอย่างสร้างสรรค์ พัคแซรอยเป็นคนที่มีเป้าหมายที่ชัดเจนและต้องการที่จะประสบความสำเร็จแม้ว่าจะพบกับปัญหาและอุปสรรคมากมายจากบริษัทคู่แข่งอย่างชางกากรุ๊ป เราจะเห็นได้ว่าพัคแซรอยมีความสามารถในการบริหารจัดการความคิดของตนได้ดีจนเขาสามารถคิดวิเคราะห์หาความเชื่อมโยงหรือความสัมพันธ์ของปัญหาที่เกิดขึ้นจนท้ายที่สุดเขาก็สามารถผ่านปัญหาไปได้อย่างภาคภูมิใจ นอกจากนี้เขายังเปิดรับรู้แนวความคิดใหม่ ๆ จากคนรอบข้างเสมอจนทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์หรือที่เรียกกันว่า “ความคิดนอกกรอบ” และสามารถสร้างนวัตกรรมด้านอาหารใหม่ ๆ ได้อย่างมากมาย 3. ทักษะการทำงาน (working skills) คือความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความสามารถในการนำเสนอและความสามารถในการใช้เทคโนโลยี สิ่งหนึ่งที่เราเห็นจากซีรี่ส์เรื่องนี้นั่นคือพัคแซรอยเป็นคนที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน กับทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาแม้กับศัตรูก็ตาม สิ่งที่ทำให้ร้านของพัคแซรอยประสบความสำเร็จก็คือการมีทีมงานที่เข้าใจกันเสมอและมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการโปรโมทสินค้าผ่านสื่อออนไลน์ต่างทำให้ร้านประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง โดยเราสามารถแบ่งทักษะการทำงานที่สำคัญได้ 3 ประเด็นได้แก่ 1) ทักษะการสื่อสาร (communication skills) 2) ทักษะการทำงานเป็นทีม (collaboration skills) และ 3) ทักษะการใช้เทคโนโลยี (digital skills) 4. ทักษะชีวิต (life skills) คือ การมีแรงบัลดาลใจ ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ การเข้าใจผู้อื่นและการอยู่อย่างมีความสุขในสังคม ในช่วงวิกฤตชีวิตหลังจากการเปิดร้านใหม่ ๆ ของพัคแซรอยที่แทบจะต้องปิดกิจการของตนเองพัคแซรอยก็ได้รับพนักงานเพิ่มเข้ามาร่วมงานซึ่งภายหลังคนเหล่านั้นกลายมาเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตและความสำเร็จของเขาเป็นอย่างมากและพนักงานทุกคนเทใจรักให้พัคแซรอยและอุทิศตนในการทำงานเพื่อร้านอาหาร และทุ่มเทกับการทำงานราวกับว่างานที่พวกเขาทำเป็นกิจการของตนเอง เราจะเห็นได้ว่าหากเรามีความสามารถที่จะเข้าใจผู้อื่น มีความซื่อสัตย์ และมีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานที่เราทำอยู่นั้นเราจะทำให้สังคมที่เราอยู่ด้วยเต็มไปด้วยความสุขแม้ว่าจะเผชิญปัญหาในบางครั้งก็ตาม ท้ายที่สุดนี้ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะได้ข้อคิดด้านทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 จากซีรี่ส์เรื่องนี้ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนะครับ หากเราเริ่มพัฒนาทักษะการเรียนรู้ทั้ง 4 ที่ตัวเราเองก่อนเราจะสามารถสร้างแรงบัลดาลใจและแบบอย่างให้กับคนรอบข้างได้ ไม่สำคัญว่าเราจะเรียนจบในระดับไหนจะมีปริญญาหรือไม่ก็ตาม เราก็สามารถเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในอนาคตได้อย่างแน่นอนครับ ขอขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.netflix.com รูปประกอบที่ 1 (ปก) / รูปประกอบที่ 2 / รูปประกอบที่ 3 / รูปประกอบที่ 4