เชื่อว่าหลายคนนั้นพยายามที่จะลดน้ำหนัก อาจเพราะหลายเหตุผล บางคนอยากมีรูปร่างที่สวยงาม ใส่เสื้อผ้าแล้วดูดี หลายคนลดน้ำหนักเพราะอยากรักษาสุขภาพ บางคนอาจจำเป็นต้องลดน้ำหนักตามที่แพทย์บอกเพราะปัญหาสุขภาพ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เราก็ควรที่จะลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีและมีความสุข เราก็เป็นคนหนึ่งที่พยายามลดน้ำหนักและสามารถลดได้ตามที่ตั้งใจ แต่กว่าจะลดน้ำหนักจาก 76 กิโลกรัมจนมาถึง 51 กิโลกรัมได้นั้นก็ผ่านบทเรียนมากมาย และนี่คือบทเรียนที่เราได้จากกการลดน้ำหนักกว่า 25 กิโลกรัม1.อย่ากินอาหารน้อยจนเกินไป เราไม่ควรกินอาหารต่ำกว่าค่า BMR คือปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายต้องใช้เพื่อดำรงชีวิตอยู่ โดยเราควรกินอาหารน้อยกว่าค่า TDEE ประมาณ 20-25% ค่าTDEE คือ พลังงานที่เราใช้ในแต่ละวันแบ่งเป็นBMR(พลังงานที่ร่างกายใช้เพื่อดำรงชีวิต)TEF(พลังงานที่ใช้ในการย่อยอาหาร)NEAT(พลังงานที่ใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆที่ไม่ใช่การออกกำลังกาย)EAT(พลังงานที่ใช้ในการออกกำลังกาย)โดยเราสามารถคำนวณค่า TDEE ได้จากเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต พอเราได้ค่า TDEE มาแล้วก็ให้หักจากค่าTDEE ประมาณ 20-25% ที่เราไม่ควรกินอาหารต่ำกว่าค่า BMR เพราะถ้าเรากินต่ำกว่าจะทำให้ร่างกายลดระดับการเผาผลาญลงให้สมดุลกับพลังงานที่ได้รับน้อยลง ทำให้ระบบเผาผลาญช้าลง ลดน้ำหนักได้ยากขึ้น2. เราควรออกกำลังกายแบบ weight training ด้วย ไม่ควรออกแบบ cardio อย่างเดียว เพราะ การออกกำลังกายแบบ weight training นั้นเป็นการสร้างกล้ามเนื้อ ถ้าเรามีกล้ามเนื้อมากขึ้นก็จะทำให้ร่างกายเรามีเตาเผาพลังงานเพิ่มขึ้น เพราะกล้ามเนื้อใช้พลังงานมากกว่าไขมัน ส่วนการออกกำลังกายแบบ cardio นั้นเป็นการเผาไขมัน เราจึงควรทำควบคู่กัน ทั้งสร้างกล้ามเนื้อและเผาไขมัน3. อย่างดของที่ชอบ ควรกินบ้างแต่ให้กินน้อยหน่อย เพราะถ้าเรางดของที่ชอบไปเลยเราก็จะไม่มีความสุขจากการลดน้ำหนัก เราก็จะทำได้ไม่นาน อาจตบะแตกกินมากกว่าเดิม เราควรกินอาหารที่มีประโยชน์เป็นส่วนใหญ่ และกินของที่ชอบบ้าง เราควรทำอย่างนี้ให้เป็นกิจวัตรประจำวัน โดยทำแบบนี้ไปเรื่อยๆแม้จะไม่ได้ลดน้ำหนักแล้ว เพราะถ้าเรางดของชอบเพื่อลดน้ำหนัก และคิดว่าพอลดได้แล้วค่อยกลับไปกินของที่ชอบ เมื่อเรากลับไปทำแบบนั้นน้ำหนักเราก็จะขึ้นไปเหมือนเดิมเพราะกลับไปกินแบบเดิม4. เราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน คือบางครั้งเราอาจจะทำไม่ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เช่น ตั้งใจว่าจะออกกำลังกายให้ได้สัปดาห์ละ 3 วัน แต่สัปดาห์นี้ออกแค่ 1 วันก็อย่าคิดว่าทำไม่ได้แล้วเลิกทำดีกว่า แต่ให้คิดว่าสัปดาห์หน้าเริ่มใหม่ จะออกให้ได้ 3 วัน หรือบางวันเราตบะแตกไปกินขนมตอนกลางคืน ก็อย่าคิดว่าเราล้มเหลวในการลดน้ำหนัก แล้วเลิกทำไปเลย ให้คิดว่าพรุ่งนี้จะเริ่มใหม่จะกินของที่มีประโยชน์5. อย่าหมกมุ่นกับการนับแคลอรี่มากจนทำให้เครียด เราสามารถลดน้ำหนักได้โดยที่ไม่ต้องนับแคลอรี่ การนับแคลอรี่นั้นบางทีเราไม่สามารถนับได้ถูกต้องทุกอย่าง เช่น ตอนกลางวันกินข้าวกะเพราร้านอาหารตามสั่ง เราไม่มีทางรู้ว่าร้านที่เรากินใส่น้ำมัน หมู หรือกะเพราปริมาณเท่าไหร่ แต่ละร้านก็ไม่เหมือนกัน ทำให้เราไม่สามารถคำนวณแคลอรี่ได้ถูกต้อง บางคนบอกให้อินเตอร์เน็ตมีคำนวณให้ข้าวกะเพรา 500 แคลอรี่แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น กะเพราแต่ละร้านนั้นแคลอรี่ไม่เท่ากัน และหากเราหมกมุ่นจนเกินไปก็จะทำให้เราเครียดโดยไม่รู้ตัวอีกด้วยและนี่ก็คือบทเรียนที่เราได้รับจากการลดน้ำหนัก หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน และถ้าคุณกำลังลดน้ำหนักอยู่ก็ขอให้ลดได้ตามที่ตั้งใจค่ะ เครดิตภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน ตกแต่งจาก canvaเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !