การบริหารเวลาขั้นเทพ ที่ช่วยให้เราเอาชนะขีดจำกัดในร่างกายได้เพื่อบริหารเวลาที่รู้ใจสมอง ด้วย 5 วิธี ดังนี้1 รู้จักช่วงเวลาทองของสมองสมองของเรามีประสิทธิภาพไม่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลาโดยปกติช่วงเวลาทองของสมอง ที่ทำให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดจะอยู่ในช่วง 2-3 ชั่วโมงหลังจากเราตื่นนอนซึ่งถ้านับเป็นเชิงประสิทธิภาพแล้ว การทำงานในช่วงเช้า อาจทำให้เกิดประสิทธิภาพงานสูงกว่าช่วงกลางคืนถึง 4 เท่าแต่หลายคนกลับใช้ช่วงเช้าไปกับการทำงานที่ไม่สำคัญอย่าง งานเช็คอีเมล การเดินทาง เป็นต้น2. นอนให้พอ ถ้าไม่อยากลดอายุไขตัวเองการนอนนับเป็นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยรีเซตสมาธิ และยังช่วยลดอายุไขอีกด้วยแม้การจะเพิ่มระดับสมาธิของตัวเองจาก 100 เป็น 120 อาจเป็นเรื่องยากแต่การรีเซตสมองที่เหนื่อยล้าและเพิ่มพลังสมาธิจาก 70 ให้กลับมาเป็น 90 นั้นอาจทำได้โดยไม่ยาก เพราะวิธีที่ดีที่สุดในการรีชาร์จพลังสมาธิคือการนอนถ้าเรานอนให้พอในระดับเวลานอนมาตรฐาน 8 ชั่วโมง จากสมองที่เหนื่อยล้าของเรา ที่มีสมาธิเพียงระดับ 50 ก็จะกลับมาเป็น 100 ได้เมื่อเริ่มวันใหม่แต่ถ้าเรานอนไม่พอ การรีเซตพลังสมาธิก็อาจทำได้ไม่สมบูรณ์ เช่น ถ้าเรานอนเพียง 5 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อตื่นขึ้นมาเราก็อาจมีพลังสมาธิอยู่เพียงแค่ระดับ 80 แทนที่จะเต็ม 100 แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ ถ้าเรานอนน้อยติดต่อกันนาน ๆ สมองส่วนการรับรู้ และการรักษาสภาวะตื่นตัวจะทำงานแย่ลงเรื่อย ๆ เราจะเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง หลอดเลือดสมอง หัวใจวาย เบาหวาน และความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวและอายุไขก็มีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญด้วย3. อ่านหนังสือ แทนการเล่มเกมในเวลาว่าง ถ้าเราอยากใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาตัวเองจนหา ความบันเทิงเชิงรุกแทนความบันเทิงเชิงรับ เช่น การเล่นเกม หรือดูทีวีเหมือนเป็นการที่เรานั่งเฉย ๆ แต่ไม่ได้เอาตัวเองไปมีส่วนร่วมใด ๆ กับสิ่งที่ทำอยู่4. เลือกพื้นที่ทำงานที่มีสมาธิวิธีนี้นับเป็นการสร้างกิจวัตรให้สมองจดจำว่า ถ้ามาถึงสถานที่นี้ จะเป็นเวลาแห่งการทำงานอย่างโฟกัสสมองจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยอัตโนมัติ พร้อมกับคุมระดับสมาธิให้อยู่สูงแบบนั้นเรื่อย ๆ ตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่แห่งสมาธิดังกล่าว ถ้าเป็นพนักงานออฟฟิศ เวลาต้องคิดงานที่ใช้สมาธิสูงอาจลองเข้าไปหาห้องประชุมเงียบ ๆ ที่ไม่มีคนอยู่แล้วลองสร้าง ‘พื้นที่แห่งสมาธิ’ ของตัวเองขึ้นมาดู สิ่งสำคัญคือ การเลือกหาสภาพแวดล้อมที่ถูกปิดกั้นจากสิ่งรบกวน และการใช้สถานที่นั้นให้ต่อเนื่องจนกลายเป็นกิจวัตร5. ทำตามกฎสมาธิ 15 -45 -90 นาทีกฎนี้คือ ‘ระดับสมาธิ’ หรือ ‘ช่วงเวลาที่เราจะมีสมาธิจดจ่อกับการทำอะไรสักอย่างหนึ่ง’ โดยส่วนใหญ่แล้ว เมื่อครบ 15 นาทีระดับการโฟกัสของเราก็อาจลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เราจึงต้องพัก และหันไปทำอย่างอื่นคั่นเวลาก่อนก่อนจะกลับมาเริ่มทำงานอีก 15 นาทีต่อไป แล้ววนเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แต่สำหรับงานบางประเภท เราก็อาจต้องรักษาระดับสมาธิให้คงที่ไว้ตลอด 45 นาที เช่น การแข่งฟุตบอลให้จบครึ่งแรก และครึ่งหลังหรืองานบางประเภทก็อาจทำให้เราต้องรักษาระดับสมาธิให้ได้นานกว่านั้นทั้งนี้เราควรรู้ระยะเวลาที่เหมาะสมกับตัวเองโดยของแต่ละคนอาจแตกต่างกันได้มากถึง 20 นาที แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องหาเวลาหยุดพักบ้างแม้แต่หนังแอคชั่นที่สนุก ยังมีฉากแอคชั่นต่อกันเพียงแค่ 15 นาที แล้วตัดสลับไปฉากอื่น ๆ เพราะระดับสมาธิทั่วไปของคนดูที่จะทำให้รู้สึกสนุกไปกับหนังมีอยู่เพียง 15 นาทีนั่นเอง ขอให้สำเร็จทุกๆสิ่งที่ตั้งใจทำทุกท่านครับภาพปกโดย anncapictures / pixabay แต่งภาพด้วย Canvaภาพที่ 1 โดย chenspec /pixabayภาพที่ 2 โดย cuncon / pixabayภาพที่ 3 โดย StockSnap / pixabayภาพที่ 4 โดย Pexels / pixabay/ pixabayภาพที่ 5 โดย JillWellington / pixabay/ pixabayBaiboon_T เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !