คงไม่มีใครอยากที่จะให้ใบหน้านำอายุของเราไปก่อน แต่ทั้งนี้ใบหน้าที่แลดูมีอายุมากกว่าอายุจริง ๆ ของเรานั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกด้วยไม่ใช่แค่ปัจจัยภายในอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงสภาพอากาศ มลภาวะ พฤติกรรมในการดำเนินชีวิตต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่ส่งผลเสียให้กับใบหน้าของเรามากเลยทีเดียว วิธีที่ 1 ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเพิ่มผักผลไม้ให้มากขึ้น การที่เราได้รับสารอาหารที่เพียงพอสำหรับร่างกายจะทำให้ร่างกายของเรามีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เราจึงควรรับประทานอาหารอย่างน้อย 3 มื้อต่อวัน และในแต่ละมื้อควรมีสารอาหารที่ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ เพราะถ้าสุขภาพที่ดีได้นั้นจะต้องมาจากร่างกายที่สมบูรณ์จากภายใน ในการทานผักและผลไม้นั้น จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และยังเป็นตัวช่วยสำคัญในเรื่องระบบการขับถ่ายให้สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ อีกทั้งยังช่วยปรับเซลล์ผิวให้เต่งตึง ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรอีกด้วย ภาพโดย panajiotis จาก www.pixabay.com วิธีที่ 2 หมั่นทาครีมบำรุง และกันแดดอยู่เสมอ ครีมบำรุงผิวหน้าและผิวกายนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญไม่ควรละเลยเป็นอันขาด ทั้งนี้ต้องควรใส่ใจกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วยว่าเหมาะกับครีมแบบใด ยี่ห้อใด ซึ่งจะได้ไม่ทำให้เกิดอาการผิวแพ้ได้ ในปัจจุบันเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาทางด้านมลภาวะ สิ่งสกปรก และแสงแดดจากภายนอกได้เลย แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้นั้นเป็นเพียงการป้องกันที่เราสามารถทำได้เท่านั้น ดังนั้นเราควรทาครีมที่จำเป็นต้องใช้ เช่น เดย์ครีมและไนท์ครีมที่ต้องทาประจำทุกเช้าและก่อนนอน รวมทั้งการทาเซรั่มเพื่อบำรุงชั้นผิวหนังให้มีความชุ่มชื้น เด้งดึ๋ง และปรับสภาพผิวให้ดีอยู่เสมอ การทาโลชั่นที่ผิวกายก็เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากเพราะเป็นตัวช่วยป้องกันผิวไม่ให้ผิวโดนแสงแดด มลภาวะโดยตรง และที่สำคัญเมื่อจะออกจากบ้านอย่าลืมทาครีมกันแดดเด็ดขาด เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน แสงแดดในแต่ละวันยังสามารถทำให้ไข่ดาวสุกได้เลย ฮ่า ๆ ดังนั้นต้องห้ามลืมเด็ดขาดเพราะสำหรับตอนนี้คงเป็นอีกปัจจัยหลักที่ผู้คนส่วนใหญ่ขาดไม่ได้อีกแล้ว ภาพโดย silviarita จาก www.pixabay.com 3. มาสก์หน้าอย่างสม่ำเสมอ การมาสก์หน้าจะช่วยให้ใบหน้าดูขาวใส กระจ่าง ผิวนุ่มชุ่มชื่น ผิวดูเด้งอิ่มน้ำมากขึ้น การเลือกแผ่นมาสก์หน้าก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีมีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงให้ใบหน้าดูสดใสได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ควรมาสก์หน้าทิ้งไว้ทั้งคืนเพราะจะทำให้ผิวหน้าแห้งตึงจนเกินไปเป็นสาเหตุทำให้ผิวหน้าเหี่ยวได้ ควรมาสก์หน้าแค่ 15-20 นาทีเท่านั้น ไม่อย่างนั้นแผ่นมาสก์หน้าจะทำหน้าที่ในการดึงความชุ่มชื้นออกไปจากผิวแทน สำหรับครีมมาสก์หน้าไม่ควรใช้ทุกวัน เพราะมาสก์แบบครีมจะสามารถก่อให้เกิดอาการรูขุมขนอุดตันได้ซึ่งเป็นบ่อเกิดของสิว การใช้ที่มาสก์หน้าแบบครีมจึงเหมาะในการใช้เพียงสัปดาห์ละครั้งเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว สำหรับแผ่น Sleeping Mask นั้นสามารถใช้ได้ทุกวันเพราะเป็นส่วนประกอบของเนื้อเจลจึงทำให้ไม่หนักหน้ามากนัก ดังนั้นการมาสก์หน้าที่จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดจะต้องคำนึงต่อการนำมาใช้งานให้ถูกวิธีด้วยเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั่นเอง ภาพโดย PublicDomainPictures จาก www.pixabay.com 4. พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากกับระบบของร่างกาย เพราะถ้าหากเราพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง ใบหน้าจะดูไม่เป็นธรรมชาติและไม่สดใสอีกด้วย การที่เราได้นอนพักผ่อนจะเป็นการช่วยฟื้นฟูและทำให้กล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ได้พักผ่อนเพื่อเตรียมพร้อมกับวันรุ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้ใบหน้าของเราสดชื่นสดใสตลอดทั้งวันอีกด้วย ภาพโดย KaiMiano จาก www.pixabay.com 5. นวดหน้าเพื่อสุขภาพ และทำสปาเพื่อลดความเครียด การนวดหน้าหรือการทำสปาเป็นอีกอย่างที่แนะนำ เพราะจะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการดูแลผิวไปด้วยในตัว การนวดหน้าจะช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ช่วยปลุกและกระตุ้นให้การทำงานของระบบไหลเวียนเลือดเป็นปกติ ควรนวดหน้าอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพราะสามารถช่วยลดอาการความเครียดลงได้และยังช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและลดความตึงของผิวหน้าได้อีกด้วย การทำสปาผิวก็เช่นเดียวกันเป็นสิ่งสำคัญเหมือนเป็นการเติมอาหารให้ผิว ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและยังทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้นอีก การทำสปาสามารถช่วยลดอาการผิวแห้งได้ อีกทั้งเมื่อเราเข้าไปทำสปาเราจะได้กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยซึ่งนั่นจะช่วยให้ความรู้สึกของเราเบาสบาย สมองปลอดโปร่งและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากอีกอย่างหนึ่ง เพราะสามารถช่วยชะลอความแก่ก่อนวัยได้ดี จึงทำให้การนวดหน้าและทำสปาเป็นที่นิยมกันมากนั่นเอง อย่างไรก็ตามใบหน้าที่ดูแก่ก่อนวัยนั่นเป็นเพราะการดูแลที่ไม่ทั่วถึง อีกทั้งสภาพแวดล้อมของเมืองที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตทำให้เกิดปัญหาทั้งความเครียด นอนไม่หลับ การรับประทานอาหาร และมลภาวะสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ทำให้ใบหน้าของเราไม่สดชื่น ส่งผลให้ภายในมีสภาวะด้านลบซึ่งอาจเป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งผลให้สภาพร่างกายภายนอกดูไม่สดใสขึ้นได้ ซึ่งก็เป็นที่มาของริ้วรอย ความหมองคล้ำก่อนวัยนั่นเอง ขอขอบคุณภาพปกโดย Engin_Akyurt จาก www.pixabay.com เขียนโดย Zeenan Waraporn สามารถติดตามผู้เขียนได้ทาง https://www.facebook.com/waraporn.jaichalad