ทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการทางการเงินมีตัวเลือกมากมาย สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินที่เด่นๆ ในยุคสมัยนี้ คงหนีไม่พ้น “บัตรเครดิต” และ “บัตรกดเงินสด”บัตร 2 ใบ เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร?ความเหมือนของ 2 ผลิตภัณฑ์นี้ ก็ตรงที่สามารถนำเงินในอนาคตมาใช้หรือชำระสิ่งของก่อนได้ ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หรือช่วงระยะยาวจุดที่แตกต่างก็คือ บัตรเครดิต สามารถชำระสินค้าต่างๆ ที่ร่วมรายการ โดยมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ ตามมา เช่น มีส่วนลดสินค้า, การผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำตั้งแต่ 0%ขึ้นไป และการสะสมแต้มจากยอดการใช้จ่ายเพื่อนำไปแลกเป็นของรางวัล หรือสามารถแลกเป็นเงินคืนที่เรียกว่า Cash Back และเมื่อครบกำหนดชำระเงินแล้ว หากชำระเงินภายในวันที่กำหนดไว้ ก็จะไม่เสียดอกเบี้ยแต่อย่างใดส่วน บัตรกดเงินสด สามารถเบิกถอนเงินสดเอามาถือไว้ใช้จ่ายได้ทันทีเต็มวงเงินที่ได้รับอนุมัติ โดยไม่ต้องมีทรัพย์สินใดๆ เพื่อเป็นหลักประกัน แต่ทั้งนี้ ธนาคารส่วนใหญ่จะเริ่มคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันนับตั้งแต่วันที่ทำรายการ จนถึงวันที่ชำระยอดเงินที่ถอนมา ถึงเช่นนั้นหากเรามีบัตรกดเงินสดไว้ แต่ยังไม่ได้ใช้ ก็ไม่ต้องเสียค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสินแน่นอนทั้ง 2 ใบนี้ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันข้อดีก็คือ ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน อาจจะเป็นการหมุนเวียนใช้จ่ายในช่วงระยะเวลาสั้นๆหรือฉุกเฉิน เช่น จ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ สามารถกดเงินสดมาใช้จ่ายได้ทันท่วงทีโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม(เฉพาะบัตรกดเงินสดเท่านั้น หากถอนเงินสดจากบัตรเครดิตก็จะมีค่าธรรมเนียม)ข้อเสียก็คือ อัตราดอกเบี้ยที่สูงทั้ง 2 ใบ หากเกิดกรณีไม่ชำระตามเวลาที่กำหนดอย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญคือการเลือกใช้อย่างฉลาด เพราะประโยชน์แต่ละบัตรแตกต่างกัน เมื่อใช้อย่างถูกวิธี ถูกหลักการ ก็จะทำให้เรามีแบบแผนการใช้เงินที่ดี มีประสิทธิภาพ