บันทึกการเดินทางกลับบ้านจากหนองคายไปพิจิตร " การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้ การเรียนรู้ของเราสองคนคือ ความเข้าใจ" มันคือเพลงของ ชาติ สุชาติ นักร้องคนหนึ่งชื่อเพลงการเดินทาง คือ การเรียนรู้ สำหรับเพลงนี้มันคือ เรื่องจริงว่าชีวิตคนเราเหมือนการเดินทางตลอดเวลา สำหรับวันนี้ Chicken Love mom ก็จะกลับบ้านไปพิจิตร โดยการเดินทางจากหนองคายไปยังจังหวัดพิจิตร โดยระยะทางทั้งหมดประมาณ 400 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง อย่างช้าสุดก็ประมาณ 10 ชั่วโมง ระหว่างทางกลับบ้านเราจะผ่านเส้นทางที่มีภูเขาเยอะแยะมากมาย เวียนหัวมาก ปกติจะกลับบ้านตอนเย็นออกมืด ๆ หน่อยจะมองไม่เห็นบรรยากาศข้างทางเลยแต่อากาศไ่ม่ร้อน แต่วันนี้เราจะออกเดินทางกลางวันเพื่อถ่ายภาพชมวิวข้างทางเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อมารีวิวว่าเส้นทางกลับบ้านมันเป็นอย่างไร แล้วก็มาเล่าถึงการเดินทางว่ามันนานแสนนานแค่ไหน วันนี้เราจะใช้เส้นทางหนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู โคราช ทางโคราชจะมีภูเขาเขียวซึ่งจำเป็นต้องขึ้นเขาแล้วก็มีสัตว์ป่าตลอดเส้นทางแต่ดีที่ไม่ออกมาบนถนนที่เราไป เราควรที่จะแวะเติมน้ำมันให้เต็มถังหรือตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะขึ้นเขาเขียวเพราะถ้าน้ำมันหมดบนนั้นจะหาคนช่วยลำบากเพราะว่ามันไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ดังนั้นก่อนจะขึ้นเขาเขียวควรเเํติมน้ำมันให้เต็มระยะทางประมาณ 100 โลได้นะ อยู่ในเส้นทางของเขาเขียวแล้วผ่านจากเขาเขียวไปก็เป็นเส้นทางสระบุรี-หล่มสัก แล้วก็เป็นเพชรบูรณ์จะมีขึ้นเขาเหมือนกัน เส้นทางจะคดโค้งไปมาซึ่งใช้ระยะเวลาเป็นชั่วโมงอยู่ หลังจากเราลงเขาได้แล้วก็จะถึงจังหวัดพิจิตรเพราะว่าพิจิตรกับเพชรบูรณ์จะอยู่ติดกัน ตามมาดูกันนะคะว่าเป็นอย่างไรบ้าง รถที่ใช้สำหรับกลับบ้านคือ Ford สีขาวประหยัดน้ำมันสุด ๆ เลยค่ะจากที่เคยใช้เก๋งกินน้ำมันไป-กลับ 2600-2700 บาท รถคันนี้กินไป ประมาณ 2000 บาท ภาพโดย Chicken love mom สิ่งแรกที่เราจะทำในการจะกลับบ้านนะคะ คือ เช็คสภาพรถก่อนเป็นอันดับแรกเลย หลังจากเราเช็คสภาพรถเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็จะพารถไปเติมน้ำมันซึ่งปกติแล้วเวลากลับบ้านระยะทางจากหนองคายไปพิจิตร 400 กว่ากิโลก็เติมน้ำมันประมาณ 1,300 บาท ก็สามารถที่จะกลับได้แล้ว โดยใช้รถกระบะนะคะแล้วก็ยังมีเหลือขับไปที่อื่นได้อีก ในราคา 1,300 บาท แต่ถ้าเป็นรถยนต์แบบเก๋งเคยเติม 1,300 บาท ไม่อยู่นะคะต้องเติมประมาณ 1,500- 1,600 บาท มันแล้วแต่รถด้วยมั้งค่ะ รถกระบะจะประหยัดน้ำมันกว่าเพราะว่ามันใช้น้ำมันดีเซลซึ่งน้ำมันดีเซลถูกกว่าน้ำมันเบนซิน หลังจากที่เราเตรียมรถเติมน้ำมันเรียบร้อยแล้วก็เตรียมของกลับบ้าน จะผ่านเส้นทางอุดรไปตามเส้นทางที่บอกไปนะคะ เราจะเก็บภาพบรรยากาศบนเขาเขียวมาฝาก นี้คือภาพการเดินทางผ่านเขาเขียวโคราช ภาพโดย Chicken love mom สังเกตเห็นว่าเต็มไปด้วยเขาและระหว่างนี้จะหูอื้อมากเลย มันจะเวียนหัวสำหรับใครที่จะขึ้นเขาอย่าเพิ่งกินอะไรอิ่มจนเกินไป ควรที่จะกินยาแก้วิงเวียนศีรษะก่อนสัก 15 นาที แล้วค่อยขึ้นเขาไม่งั้นมันจะมีอาการเวียนหัวมากเลยค่ะ สำหรับคนขับรถเวลาขึ้นเขาลงเขาจะไม่ค่อยมีอาการเวียนหัว มันจะไปเวียนหัวคนที่นั่งอยู่ในรถ แล้วก็คนกินข้าวอิ่มไปแล้วก็ไม่หลับ คือ จะเวียนหัวเลย สำหรับคนที่ไม่กินข้าวเลยก็ไม่ได้นะ เวลาขึ้นไปจะมีอาการอ้วกอาเจียนเลยแหละเพราะว่ามันหิวข้าวแล้วมันทำให้เกิดอาการตาลาย หลังจากพวกเราลงเขาจากโคราชเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อด้วยเขาอีกลูกนึงก็คือ เขาที่เพชรบูรณ์นะคะ เราขับผ่านมาที่เขาเพชรบูรณ์มันจะมีจุดชมวิวทิวทัศน์ต่าง ๆ สวยงามมากเลย แล้วก็จะมีจุดแวะพักให้ซื้อของฝากเป็นพวกของป่าที่ชาวบ้านเขาไปหาแล้วก็เอามาขายในราคาที่ไม่แพงเลย สามารถแวะพักจุดนี้กินข้าวและจุดชมวิวนี้จะมีความสูงเป็นเหวสวยมากเลย ที่นี่บรรยากาศดียิ่งช่วงหน้าหนาวนะคะ บรรยากาศดีมากช่วงนี้การเดินทางจะไม่ร้อนเท่าไหร่ มันจะเย็นเปิดกระจกไปนี่บอกว่าฟินมากเลย ถ้าเรามาถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ได้แล้วก็หมายความว่าเราใกล้ถึงบ้านแล้วและก็หมายความอย่างนึงซึ่งคือมะขามหวานนั่นเอง ช่วงนี้จะมีมะขามหวานขายมากมายและเป็นช่วงที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดด้วย ถ้าช่วงอื่นอาจจะมีราคาแพงและสารเคมีเยอะแยะแต่ช่วงนี้อาจจะถูกบ้างแพงบ้างตามสถานที่ที่เราไปซื้อเพราะว่าราคาจะไม่เท่ากัน และนี่คือภาพมะขามหวานอร่อย ๆ นะคะ จุดชมวิวสวยมากมีหมอกหนา ๆ นิด ๆ ภาพโดย Chicken love mom หลังจากที่เราลงเขาเพชรบูรณ์มาระยะทางก็จะถึงเกือบถึงบ้านแล้วนะคะจังหวัดพิจิตรจะมีสถานที่ท่องเที่ยวก็คือบึงสีไฟนั่นเอง ใครที่สนใจจะมาแวะเที่ยวบึงสีไฟก็แวะได้นะคะ search เข้าไปที่ Google หรืออาจ GPS ว่าบึงสีไฟเดี๋ยวมันจะพาเราไปตามจุดหมายที่เราพิมพ์ไว้ง่าย ๆ แค่นี้เลย เป็นยังไงกันบ้างกับเรื่องราวการเดินทางก็ไม่ได้มีสีสันอะไรมากมาย เพียงแต่อยากบอกให้รู้ว่าการเดินทางคือการเรียนรู้และการเรียนรู้ก็คือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดี ๆ เพราะว่ามันไกลมากเลย คนที่มีความอดทนเท่านั้นที่จะนั่งเดินทางมาถึงเป้าหมายได้ มันก็เหมือนชีวิตของคนเราที่เดินทางมาไม่ใช่ว่าจะมีแต่ถนนเรียบอย่างเดียว มันต้องมีขรุขระ ขึ้นเขาลงเขาบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ขอให้ทุกคนปรับสภาพของตัวเองให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ให้ได้ เราก็จะสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขนะคะ สำหรับวันนี้การรีวิวบันทึกเรื่องการเดินทางจากหนองคายมาพิจิตรก็มีเพียงเท่านี้ ขอบคุณที่อ่านบทความบันทึกการเดินทางของ chicken love mom นะคะ ต่อไปจะมีการเดินทางไกลที่ไหนอีกอย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณค่ะ