อยู่บ้านกันยาวๆช่วงนี้ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หวังว่าทุกคนจะสบายดีกันนะคะ วันนี้ผู้เขียนว่างๆ เลยมานั่งคัดเอารูปออกจากโทรศัพท์ หลายๆภาพที่นอนนิ่งในเมมโมรี่การ์ดมานาน พาให้คิดไปถึงห้วงเวลาเหล่านั้น บางภาพนี่ก็เกือบลืมไปแล้วว่าถ่ายที่ไหน เลื่อนดูไปเรื่อย ๆจนไปสะดุดเข้ากับภาพทิวเขาเปื้อนหมอก บรรยากาศเย็นๆวันนั้นหวนกลับมาอีกครั้ง จำได้ว่าตอนนั้นผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยือนไต้หวันในช่วงเดือนธันวาคม อากาศในบางเมืองเริ่มจะเย็นลงบ้างแล้ว โดยเฉพาะบนเขา ซึ่งเราก็ไม่พลาดโอกาสที่จะได้ลิ้มรสความหนาว โดยในทริปนั้นก็ได้ไปเที่ยวหลายเขาเลยทีเดียว แต่ที่อยากจะนำมาเล่าสู่กันฟังนี้ขอหยิบยกภูเขาในเทศมณฑลเหมียวลี่(苗栗Miáolì) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของไต้หวัน เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งภูเขา ซึ่งมีภูเขาเยอะสมชื่อจริงๆ จึงไม่แปลกที่จะเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของเหล่านักปีนเขา แต่ผู้เขียนนั้นเป็นสายกิน เรื่องปีนเขาจึงขอข้ามไปก่อนแล้วกัน มีหลายเขาเหลือเกิน แต่เขาที่ผู้เขียนตรงดิ่งไปนั่นคือขุนเขาแห่งเมืองเต้าหู้ เอ้ย! ต้าหู(Dahu) หนึ่งใน 18 เมืองของเทศมลฑลเหมียวลี่ เมื่องนี้มีเสียงล่ำเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันมาอย่างช้านาน เรื่องการปลูก เฉ่าเหมย(草莓, cǎoméi) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อสตรอว์เบอร์รี ด้วยสภาพอากาศเย็นเป็นใจให้สตรอว์เบอร์รีเจริญงอกงามกันอย่างท่วนทั่ว ทำให้มองทางไหนก็มีแต่ไร่สตรอว์เบอร์รีเรียงรายกันไปจนสุดสายตา อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงจะรู้กันแล้วใช่ไหมว่าผู้เขียนนั้นขึ้นเขามาเพื่ออะไร ใช่แล้ว มางาบสตรอว์เบอร์รีลูกโตๆ สดๆจากไร่ให้หนำใจ นั่นเอง เท่าที่ได้ยินมาไร่สตรอว์เบอร์รีที่เปิดให้คนนอกเข้าไปเดินลั่นล้าได้นั้นมี 2 แบบ คือ ไร่ที่เก็บค่าเข้าเพื่อให้เราได้เข้าไปลิ้มรสสตรอว์เบอร์รีสดๆจากต้นกันจนสาแก่ใจ แต่ถ้าเก็บออกมาด้วยก็จะต้องเสียค่าสตอร์เบอร์รี่ตามน้ำหนักด้วยเช่นกัน ถ้าไม่ได้คิดจะเก็บไปฝากใคร แนะนำให้เลือกไร่แบบแรก เพราะค่าเสียหายจะไม่บานปลาย ส่วนอีกแบบเป็นไร่ที่อนุญาตแค่เพียงให้เข้าไปเก็บด้วยตัวเองจากไร่เท่านั้น ห้ามกินในไร่เด็ดขาด ไม่เก็บค่าเข้า จ่ายเฉพาะค่าสตรอว์เบอร์รีตามน้ำหนักที่เก็บออกมาเพียงเท่านั้น ไร่ที่ผู้เขียนเข้าไปหลั่นล้าในวันนั้น มีชื่อว่า ต้าหูจิงเถียนเฉ่าเหมหยวน(大湖菁田草莓園, Dàhú jīng tián cǎoméi yuán) เป็นไร่ที่เก็บได้อย่างเดียว ห้ามกินในไร่ ไม่เสียค่าเข้า และค่าสตรอว์เบอร์รีต่อ 600 กรัม หรือที่คนไต้หวันเรียกว่า “1 จิน”(一斤,Yījīn) ตกอยู่ที่ 300 NTD(ดอลลาร์ใต้หวัน) พยายามหาที่ถูกกว่าแต่เหมือนเค้าจะนัดกันเอาไว้ เพราะราคาเดียวกันทั้งแถบ ขอย้อนกลับไปที่หน่วยชั่งน้ำหนักที่เรียกว่า “จิน” (斤,jīn) เท่ากับ 600 กรัมนั้น เป็นหน่วยตราชั่งของคนไต้หวันที่ใช้กันเวลาซื้อผักซื้อปลาในตลาด ในตอนแรกผู้เขียนก็เข้าใจว่าคำนี้คือ 1 กิโลกรัมในภาษาไต้หวัน แต่เป็นการเข้าใจผิดไปเต็มๆ เพราะหน่วย กิโลกรัม เค้าเรียกว่า “กงจิน” (公斤,Gōngjīn) เฮ้อ...ซื้อไปหลาย “จิน” แล้ว กลับเข้าเรื่องเก็บสตรอว์เบอร์รีกันต่อ ทางร้านจะแจกอุปกรณ์เก็บสตรอว์เบอร์รีให้เราคนละชุด คือ กรรไกรอันเล็ก และ ตะกร้าพร้อมหูหิ้วง่ายต่อการเก็บสตรอว์เบอร์รีสุดๆ ที่สำคัญคือตะกร้าใหญ่เอาการ ชนิดที่ถ้าเก็บจนเต็มมีสิทธิ์เป็นลมตอนจ่ายเงินแน่ๆ ดังนั้นผู้เขียนขอแนะนำว่าให้ตั้งสติก่อนเดินเข้าไปในไร่ และเก็บอย่างชั่งใจ หรือทำท้องให้อิ่มก่อนไปเก็บสตรอว์เบอร์รีก็จะยิ่งดีเลยนะจ๊ะ เจ้าของร้านพูดจาสุภาพ ท่าทางนอบน้อม และจัดเรียงเหล่าสตรอว์เบอร์รีที่ผ่านการคัดเลือกด้วยมือของเราเองลงกล่องให้อย่างประณีต ลูกไหนที่ช้ำหรือไม่สวยก็จะเปลี่ยนให้โดยไม่ลังเล น่าประทับใจ วันนั้น เป็นการเห็นสตรอว์เบอร์รีบนต้นครั้งแรกในชีวิต และแน่นอนเป็นการเก็บครั้งแรกด้วยเช่นกัน นอกจากจะได้เก็บสตรอว์เบอร์รีลูกโตๆตามใจตัวเองแล้ว ยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์จนเต็มปอด และดื่มด่ำกับไอเย็นๆที่คนภาคกลางอย่างเรานั้นหาสัมผัสได้ยากอีกด้วย หากใครอยากเห็นบรรยากาศแบบที่ผู้เขียนเห็นในวันนั้น ขอฝากวีดีโอตาม Link ด้านล่าง ลองเข้าไปดูกันได้เลยนะคะ https://www.youtube.com/watch?v=0VVjhte887E&list=LLUPdRfHq4w4FQLUp8qjMTKw&index=2&t=0s ขอคุณที่อ่านจนจบนะคะ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง ทั้งใจและกาย ผ่านวิกฤตโควิดไปด้วยกันค่ะ สู้ๆ เครดิตภาพประกอบ: ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน